| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เปลี่ยนความเสียใจเป็นพลัง ‘เกรซ’ พร้อมสู้พิชิต ‘มงมิสเวิลด์’
ชิง มงมิสเวิลด์ – พัฒนาไม่หยุดยั้ง กระทั่งเติมความมั่นใจจนเต็ม 100% พร้อมพาสายสะพาย “ไทยแลนด์” บินไปร่วมภารกิจพิชิตมงฟ้า ในการประกวดเวทีระดับโลก “มิสเวิลด์ 2019” ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทย ก็ได้อุ่นเครื่องแสดงความพร้อมในงานแถลงข่าว “มิสไทยแลนด์ เวิลด์ ทู มิส เวิลด์ 2019” ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ เอ็ม 1 ด้วยการแสดงโชว์ชุด “โขนประยุกต์” งดงามอ่อนช้อย ซึ่งจะใช้แสดงในรอบคัดเลือกผู้นำเต้นรอบแดนซ์ ออฟ เดอะ เวิลด์ พร้อมด้วยเปิดตัว “ชุดประจำชาติ” ที่มีแรงบันดาลใจจากการแต่งกายของสตรีในช่วงรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จกลับจากการประพาสยุโรป จึงมีความเป็นไทยและตะวันตกผสมผสานกันอย่างลงตัว ขณะที่ “ชุดราตรี” สีขาวเงินโดดเด่นด้วยเทคนิคการปักแบบราชสำนักโบราณ ตัวชุดจะเป็นพื้นผ้าไหมแบบบาง เสริมด้วยเพชรและอัญมณีล้อแสงไฟ
เป็นชุดไฮไลต์ที่เกรซจะสวมใส่ทำกิจกรรมในค่ำคืนพิเศษ อย่างไรก็ดีในการเดินทางไปประกวดครั้งนี้ กองประกวดแง้มว่า จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับ และรองเท้ารวมทั้งหมดกว่า 50 ลุค ลากกระเป๋าไปไม่ต่ำกว่า 10 ใบแน่นอน
ในด้านของตัวแทนประเทศไทย มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 คนนี้ ก็มุ่งมั่นนำคำติชมมาพัฒนาตัวเองไม่หยุด หลังจากที่ต้องต่อสู้กับความคิดเห็นเชิงลบ คำวิจารณ์ที่บอกว่า “เธอไม่สมมง”
กับเรื่องนี้ นรินทรเปิดใจว่า “เสียใจมากกับคอมเมนต์ที่มีเข้ามา ทั้งที่โฟกัสเรื่องแก้มเยอะ ไม่สวยหรือผอมไป แต่สิ่งที่ทำให้ฮึดสู้คือเกรซได้รับหน้าที่ตรงนี้แล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด มุ่งมั่นและตั้งใจ อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าอะไรที่เป็นความคิดเห็นที่มีประโยชน์ เกรซนำมาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ”
นอกจากนี้หลายคนยังปรามาสว่า “การทำผลงานที่ดีของนิโคลีนในปีที่ผ่านมาจะทำให้เกรซกดดัน” กระนั้นเธอตอบอย่างฉะฉานว่า อาจจะมีกดดันเล็กน้อย แต่สิ่งนี้กลับเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะนิโคลีนคอยแนะนำเธออยู่เสมอ ผ่านการติวเข้ม ทั้งสองนั่งดูการประกวดมิสเวิลด์ย้อนหลังด้วยกัน วิเคราะห์คำถาม เทคนิคและเคล็ดลับการตอบคำถาม
“นิโคลีนแนะนำตั้งแต่เรื่องแพคของ ไปจนถึงการตอบคำถาม เธอแนะเกรซว่าถ้ามีนักข่าวมาสัมฯ ให้ตอบแบบกระชับได้ใจความ และจบให้สวย เพื่อที่เขาจะอยากมาสัมฯเราอีก” เกรซเล่าด้วยรอยยิ้ม
นับตั้งแต่วินาทีที่รับมง นรินทรก็ได้รับ “ฟีดแบ๊ก” ที่ดีเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ
แต่สิ่งที่ยังขาดคือ “กำลังใจ”
“ความพร้อมประกอบด้วย พร้อมทั้งกายและใจ โดยเฉพาะกำลังใจสำคัญที่สุด ตอนนี้กายพร้อมแล้วแต่ยังขาดเรื่องกำลังใจ” เธอกล่าวพร้อมอ้อนขอกำลังใจจากแฟนๆ นางงามว่าเธอใส่ใจทุกความคิดเห็นที่มีเข้ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าเธอเปิดใจรับฟังคำติชมต่างๆ ส่วนในมุมทรรศนะเกี่ยวกับ “ความสวย” เธอบอกว่า คนเราทุกคนมีความสวยในแบบฉบับของตัวเอง เวทีนี้เป็นก้าวแรกของเธอสู่การเป็นนางงาม จึงอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเธอจะเป็นตัวเองในแบบฉบับที่ดีขึ้นอยู่เสมอ
ส่วน “ไม้ตาย” หรือ “จุดแข็ง” ที่จะนำไปประชันกับสาวงามประเทศอื่น เกรซบอกว่าคือ “โครงการจิตอาสา Let me hear you” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เธอลงมือทำจริงในการช่วยรณรงค์และแนะนำให้ผู้คนในสังคม “รับฟังกันมากขึ้น” ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการป้องกันและเฝ้าระวังโรคซึมเศร้า
นอกจากนี้เธอยังตั้งใจนำเสนอ “ความเป็นไทย” ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของการประกวดที่มองหา “นางงาม” ที่เข้าถึงง่าย เป็นมิตร และทำกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้แฝงอยู่ในวัฒนธรรมไทยและคนไทยทุกคน
อย่างไรก็ดี เกรซทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า “ในการประกวดครั้งนี้จะทำให้เต็มที่ ไม่กดดันตัวเอง แต่รู้ตัวเองเสมอว่าเป้าหมายคืออะไร เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย”
