อะไรบ้าง 5 ภัยร้ายทำลายเส้นผม

สำหรับผู้หญิงทุกคนแล้ว การตื่นมาแล้วผมชี้ฟูจัดทรงยาก ดูจะเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าฝันร้ายด้วยซ้ำ แต่ใครจะรู้ว่าพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรานี่เองที่เป็นตัวทำลายสุขภาพผมของเรา เทรซาเม่ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากอเมริกาจึงชวนสาวๆมาทำความรู้จักกับ 5 วายร้ายทำลายเส้นผม

1. ยางมัดผม แม้จะชื่อว่ายางมัดผมแต่มันกลับไม่เป็นมิตรกับเส้นผมเอาเสียเลย ลองสังเกตว่าเรารัดผมบริเวณเดิมทุกวัน เส้นผมในบริเวณนั้นจะแห้งและหักงอ หรืออาจถึงขั้นแตกและหลุดร่วง ยิ่งบางคนรีบๆ ใช้ยางที่รัดอาหารมามัดผมบ่อยๆ ก็ถือเป็นการสร้างความเสียหายให้ผมได้อย่างมาก ดังนั้นจึงควรเลือกยางมัดผมที่มีผ้าหุ้มก็จะดีกับผมมากกว่า

2.แปรงและหวี ที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจของเส้นผมและก็ยังเป็นที่สะสมของรังแค ฝุ่นละออง เชื้อโรคและสารเคมีต่างๆ ที่ติดมาจากเส้นผมด้วย การทำความสะอาดแปรงและหวีให้แห้งสะอาดอยู่เสมอจึงเป็นการช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดกับเส้นผมได้ นอกจากนี้การใช้แปรงและหวีผิดประเภทก็เป็นการทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่ายเช่นกัน หลังสระผมขณะที่ผมยังเปียก ควรใช้หวีซี่ห่างก่อน หรือใช้ปลายหวีซี่ถี่แบ่งผมเป็นช่อเพื่อไดร์ หรือรอผมแห้งตามธรรมชาติแล้วจึงค่อยแปรงผม

วิธีการหวีผมด้วยวิธีที่ถูกต้องคือ แบ่งผมเป็นส่วนๆ แล้วค่อยๆ หวีทีละส่วน โดยเริ่มหวีผมจากด้านในสุดมาด้านนอกสุด ห้ามหวีจากโคนไล่ลงมา เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้ผมพันกัน นอกจากนั้นยังควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผมก่อนแปรงผมด้วยเพื่อปิดเกล็ดผมและลดการเสียดสีระหว่างแปรงกับเส้นผม

Advertisement

adult-19230_960_720

3.ธรรมชาติ เพราะแม้ธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่จริงๆ แล้วเส้นผมอาจถูกธรรมชาติทำร้ายได้ โดยเฉพาะความร้อนจากแสงแดด โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีแดดจัดในทุกฤดูกาล ผลจากการตากแดดนานๆ จะทำให้เส้นผมแห้งกรอบ ก่อเกิดปัญหาผมบาง เปราะขาดง่าย เป็นต้นเหตุของ ปัญหาผมบาง ซึ่งรุนแรงท่ากับการกัดสีผม การฟอกสีผม การดัดผม เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดจะทำลายโปรตีนเคราตินในเส้นผม

สำหรับในฤดูฝนนั้น เส้นผมของเราต้องเผชิญกับความชื้นที่ทำให้ผมชี้ฟูจัดทรงยาก แต่กลับดูลีบแบน นอกจากนี้ในปัจจุบันน้ำฝนยังมีมลพิษเจือปน ทำให้เป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะได้ ส่วนฤดูหนาวความชื้นในอากาศจะค่อนข้างต่ำ เส้นผมจึงมีความแห้งเพราะเกิดจากการปล่อยน้ำออกมาทำให้เกิดประจุไฟฟ้า อันเป็นสาเหตุอาการผมชี้ฟู และที่แย่ไปกว่านั้น คือการที่หนังศีรษะแห้ง และหลุดลอกกลายเป็นรังแค วิธีป้องกันง่ายๆ เพียงแค่ใช้ครีมนวดหลังสระผมด้วยแชมพู

ปัญหาจากธรรมชาติและสภาพอากาศในภาวะต่างๆ จึงสามารถแก้ไขง่ายๆ ได้โดยการใช้แชมพูหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราตินเพื่อเติมเต็มและบำรุงเนื้อผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง จัดทรงง่ายขึ้นในทุกสภาพอากาศ

4. สารเคมีจากการยืด ดัด และทำสีผม อุปสรรคของคนไทยส่วนใหญ่ก็คือ การมีผมเส้นผมที่ดำ และเส้นใหญ่หนา เป็นที่ทราบกันดีว่า สีดำเป็นสีที่ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนได้ ซึ่งหากจะทำสีผมให้ติดนั้น จะต้องกัดจนกว่าจะได้สีผมโดนใจ เส้นผมก็ถูกสารเคมีจากการกัดและยังโดนน้ำยาย้อมผมทำลายจนบอบช้ำ ส่วนการยืดและดัด เป็นการใช้สารเคมีในการสลายพันธะ ทำให้เส้นผมซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งเปลี่ยนรูปไป เพราะฉะนั้นการยืด ดัด ทำสีผมควรเว้นระยะห่างประมาณ 3 เดือน เพื่อไม่ให้เส้นผมสูญเสียเคราตินในเส้นผมมากเกินไป เส้นผมที่ถูกทำร้ายจากสารเคมีนั้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราติน เพื่อช่วยในการเติมเคราตินกลับคืนสู่เส้นผม คือช่วยให้เกล็ดผมปิดสนิท ลดการแตกหักของเส้นผมทำให้เส้นผมทุกเส้นแข็งแรงขึ้น และควบคุมปัญหาผมชี้ฟู ช่วยให้ผมลื่นสวย จัดทรงง่าย

5. ความร้อนจากไดร์และเครื่องรีดผม เชื่อว่าหลายๆ คนเมื่อสระผมแล้วก็ต้องไดร์ผม ยิ่งหากใจร้อนใช้ไดร์ที่เปิดความร้อนสูงๆ เป่าตั้งแต่หัวเปียกจนแห้งถือเป็นตัวการทำผมเสียอย่างร้ายแรง ผมจะแห้งกรอบ จึงควรเช็ดผมให้แห้งที่สุดแล้วจึงใช้ไดร์ ส่วนการรีดผมนั้นควรแบ่งทีละช่อเพื่อให้ผมโดนความร้อนซ้ำน้อยที่สุด นอกจากนี้สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนอย่างสเปรย์หรือทรีทเมนท์ ที่นอกจากจะช่วยป้องกันผมจากความร้อนแล้วยังทำปฏิกิริยากับความร้อนทำให้ผมอยู่ทรง ไม่ต้องไดร์หรือหนีบซ้ำหลายๆ ครั้งจนเส้นผมต้องเผชิญกับความร้อนไม่รู้จบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image