พม. ยก ‘น้องมิลค์’ เยาวชนต้นแบบด้านความมุ่งมั่น หลังคว้าแชมป์โดรนระดับโลกสมัยที่ 2
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มอบโล่ประกาศเกียรติคุณในฐานะคนเก่ง และทุนการศึกษาให้แก่ เด็กหญิงวรรรญา วรรณผ่อง หรือมิลค์ นักกีฬาบินโดรนเยาวชนหญิง เจ้าของฉายาเสือยิ้มยาก ซึ่งชนะเลิศการแข่งขันโดรนเรซซิ่งชิงแชมป์โลก ประเภทหญิง รายการ “2019 FAI WORLD DRONE RACING CHAMPIONSHIP GRAND FINAL” ที่เมืองหนิงโป สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 หลังเคยคว้าแชมป์โดรนโลกประเภทบุคคลหญิง “World Champion Women” ในงาน DRL Shenzhen 2018 ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ต้นแบบเยาวชนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ
นายจุติ กล่าวว่า พม.อยากให้กำลังใจพ่อแม่ของน้อง ที่สามารถเลี้ยงดูลูกออกมาได้ดี เป็นคนเก่ง อายุเพียง 12 ปี ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ จึงขอแสดงความยินดีด้วยการมอบโล่และทุนการศึกษาแก่น้องมิลค์ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ที่มีความขยัน ความมุ่งมั่น และความวิริยะอุตสาหะในการพัฒนาตนเอง ด้วยการฝึกซ้อมอย่างจริงจังและสม่ำสมอ จนประสบความสำเร็จในระดับสากล อย่างไรก็ตาม ตนจะมอบอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ไปช่วยประสานหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนนักกีฬาโดรนและการแข่งโดรนในประเทศไทย เพราะตอนนี้ทุกคนต่างทราบกันดีว่า ได้มีเด็กที่สร้างชื่อเสียงให้ไทย
ขณะที่ เด็กหญิงวรรรญา กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ตอนแข่งขันรู้สึกตื่นเต้น และในใจคิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด และการมาถึงจุดนี้ได้ เกิดจากการขยันฝึกซ้อมทุกวัน ทั้งนี้ อนาคตตนก็จะเดินหน้าแข่งขันโดรนต่อ เพราะชื่นชอบและได้ใช้สมาธิ
นายอาวุธ วรรณผ่อง พ่อของน้องมิลค์ กล่าวแทนน้องมิลค์ว่า น้องมิลค์เริ่มเล่นโดรนตั้งแต่ 8 ขวบ ตอนนั้นเป็นกิจกรรมธรรมดา แต่พอเห็นเขาเล่นแล้วมีแววก็เลยสอนจริงจัง โดยน้องมิลค์จะฝึกซ้อมโดรนทุกวัน หลังเลิกเรียนเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ส่วนเสาร์อาทิตย์ซ้อมทั้งวัน ขณะที่จากนี้ที่ได้แชมป์โลกมาแล้ว 2 สมัย ก็จะยังให้ลูกสาวได้ทำในสิ่งที่ชอบ คือ แข่งโดรนต่อไปเรื่อยๆ ก่อน
“ในความเป็นพ่อ ก็รู้สึกภูมิใจที่ความมานะอดทนของลูก ทำให้เขาประสบความสำเร็จ แม้ที่ผ่านมาผมจะเหนื่อยมาก เพราะต้องทำสนามฝึกซ้อม ต้องตัดหญ้า ศึกษาทำโดรนจนถึงตี 1 ตี 2(ยิ้ม) เพื่อจะทำโดรนให้เสร็จสมบูรณ์ ให้ลูกมีหน้าที่แค่บังคับและบินให้สมบูรณ์ จึงเป็นสิ่งที่อยากฝากพ่อแม่คนอื่นๆ ที่อยากให้ลูกมีความเป็นเลิศว่า พ่อแม่ต้องมีเวลาให้ลูก ให้ความสนใจในสิ่งที่ลูกทำ ไม่จำเป็นต้องเป็นโดรน แต่เป็นอย่างอื่นก็ได้ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง ฯลฯ ที่พ่อแม่ต้องทำร่วมไปกับลูก อย่างลูกวิ่ง เราก็วิ่ง ลูกว่ายน้ำ เราก็ว่ายน้ำ แล้วเด็กเขาจะสนุก ดีกว่าปล่อยให้เขาไปเรียนที่ไหน” นายอาวุธกล่าวด้วยรอยยิ้ม
