10 เทรนด์ฮิต ปี’62 มาไวไปไว-ฮอตข้ามปี

10 เทรนด์ฮิตปี’62 มาไวไปไว-ฮอตข้ามปี

10 เทรนด์ฮิต ปี’62 – “กระแสความนิยม” หรือ “เทรนด์ฮิต” ในรอบปี 2562 เรียกได้ว่าสมกับเป็นเทรนด์ที่เกิดใน “ยุคดิจิทัล” ที่แท้จริง เพราะส่วนมากล้วนมีจุดเริ่มต้นจากโลกออนไลน์ มีทั้งกระแสความนิยมที่ยังคงอยู่ข้ามปี ยังไม่เอาต์ รวมถึงเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาเพียงไม่นานก็ลาลับไป

นอกจากนี้ยังสังเกตได้ว่าปัจจัยที่ทำให้กิจกรรมต่างๆ กลายเป็น “เทรนด์ฮิต” และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ล้วนมี “คนดังในโลกโซเชียล” หรือ “อินฟลูเอนเซอร์” ร่วมด้วย

และ 10 เทรนด์ฮิตที่น่าสนใจในรอบ ปี 2562 ได้แก่

1. ฟิลเตอร์ฮิต ย้อนวัยเด็กไปยันแก่

พอเป็นเด็กก็อยากเห็นตัวเองตอน “แก่” พอเป็นคนแก่ก็อยากย้อนเวลาไปหาตัวเองตอน “เด็ก” อาจจะเป็นคำอธิบายของเทรนด์ยอดนิยมอย่าง “ฟิลเตอร์หน้าแก่” จำลองใบหน้ายามมีริ้วรอย และ “ฟิลเตอร์หน้าเด็ก” ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เรียกว่า หน้าตึงเปรี๊ยะ โดยไม่ต้องพึ่งโบท็อกซ์

Advertisement

แก่ได้ เด็กได้ ใน “แชะ” เดียว

เรียกว่าห้วงนั้นไถโซเชียลช่องทางไหน ก็เจอแต่เด็กและคนแก่เต็มไปหมด

ขณะเดียวกัน “ฟิลเตอร์” ในแอพพลิเคชั่นถ่ายรูปก็ไม่ได้มีเพียงแค่เสริมเติมแต่งภาพถ่ายเท่านั้น แต่ยังพัฒนากลายเป็นเกมง่ายๆ ให้ได้สนุก อาทิ เกมบนฟังก์ชั่นไอจีสตอรี่ “ฟลายอิ้ง เฟซ” ที่ต้องกะพริบตาเพื่อพาเจ้านกน้อยบินข้ามสิ่งกีดขวาง มีทั้งโหมดเล่นคนเดียวและแข่งกับเพื่อน

Advertisement

เกือบตาแข็งค้างกันทั้งบาง (ฮา)


2. ยกขบวน สายมู (เตลู)

เป็นอีกปีที่คำว่า “สายมู” รันวงการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความนิยมอย่างสูง

“สายมู” หรือเรียกเต็มว่าๆ “สายมูเตลู” สามารถอนุมานให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเป็นชื่อเรียกของกลุ่มคนที่มีความเชื่อในเรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์ และการบูชา ซึ่งในประเทศไทยมีบริบทการสื่อความหมายในแง่บวก กล่าวคือ เป็นการใช้เรียกการบูชา หรือการเสริมมงคล เสริมดวงชะตา ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล

โดยกิจกรรมที่สายมูนิยมทำกันก็มีความหลากหลาย อาทิ การบูชาเครื่องรางจากวัดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งเสริมดวงเรื่องความรัก การเงิน โชคลาภ การเรียน และการทำงาน ตลอดจนการเดินทางไปไหว้พระขอพรให้เจอเนื้อคู่ที่วัดหวังต้าเซียน และไหว้เจ้าแม่กวนอิม ณ ฮ่องกง

การสักยันต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่แม้แต่ดาราฮอลลีวู้ดก็ยังบินมาสักถึงไทย หรือจะเป็นขบวนแห่ “นวราตรี” ที่จัดต่อเนื่องทุกปี ตามความเชื่อของชาวฮินดูว่าในวันดังกล่าวพระแม่อุมาเทวีผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล พร้อมเหล่าทวยเทพจะเสด็จมาประทานพรแก่มนุษย์ จึงมีสายมูหลายพันคนเดินทางไปร่วมขบวนแห่เพื่อรับพร

และส่งท้ายปีด้วย “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เทวดาผู้มาแรง” ที่เชื่อกันว่าเมื่อบูชาแล้วจะบันดาลโชคลาภและความร่ำรวย ทั้งยังมีคนดังอย่าง “ลิซ่า แบล็กพิงค์” และ “เซียวจ้าน” พระเอกดังชาวจีนบูชาเช่นเดียวกัน

ส่งผลให้เทรนด์นี้ “ปังไม่หยุด”

3. ก้าวไกล เทรนด์ความงาม
สวยด้วยไฮเทคโนโลยี

“แวดวงความงาม” ไม่เคยหยุดนิ่ง มีนวัตกรรมใหม่ๆ มาให้สาวๆ หนุ่มๆ ที่รักการดูแลตัวเองต้องลากเข้าลิสต์ “ของมันต้องมี” อยู่เป็นประจำ ซึ่งในรอบปี 2562 โดยเฉพาะช่วงปลายปี ดูเหมือนว่า

เทรนด์ “อุปกรณ์” กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างมาก แม้จะมีราคาสูง อาทิ “เครื่องล้างหน้า” ที่มีขนแปรงเป็นซิลิโคนและมีระบบสั่น นอกจากจะช่วยให้ล้างหน้าได้สะอาดมากขึ้น ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในผิวให้ผิวเด้งใส หรือจะเป็นเทรนด์ “การมาส์กหน้าด้วยหน้ากากแอลอีดี” (LED) ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบแสงสีแดง กระตุ้นคอลลาเจน แสงสีฟ้า ฆ่าเชื้อสิว ป้องกันการเกิดสิวใหม่ และแสงสีม่วง ลดรอยดำ รอยแดงให้จางลง

นอกจากนี้ยังมีเครื่องพ่นละอองไอน้ำ ช่วยให้หน้าชุ่มชื้น เครื่องนวดเย็นไครโอช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ดีขึ้น เป็นต้น

เรียกว่าเป็นยุคที่สวยได้ด้วยไฮเทคโนโลยีที่แท้จริง

(รูปจาก @lovely_jung12)
เครื่องล้างหน้า

4. โรงหนังมือถือ

ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย “การดูหนัง” ก็เป็นกิจกรรมผ่อนคลายอันดับต้นๆ ของมนุษย์

และในยุคสมัยนี้ก็ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่สามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่างๆ ส่งผลให้แอพพลิเคชั่นดูหนัง ซีรีส์ ภาพยนตร์ แบบเหมาแพคเกจ ได้รับความนิยมตามไปและผุดขึ้นมาให้เลือกหลายแบรนด์ ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน อาทิ เน็ตฟลิกซ์, วีทีวี, วีไอยู และโมโน แม็กซ์

นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นดูหนังยังผนวกเข้ากับโทรทัศน์รุ่นใหม่ สร้างบรรยากาศให้ห้องนั่งเล่นที่บ้านเป็นโรงหนังได้ในทันที

5. กระแส หรือ สุขภาพ
เทรนด์น้ำปั่นสุขภาพ “เซเลอรี”

กระแสรักสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีการอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมาต้องยกให้ “น้ำปั่นสุขภาพ” เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น มีคนออกมาแบ่งปันสูตรสุขภาพมากมาย แต่ที่เกิดปรากฏการณ์ฮอตที่สุด คือ “น้ำเซเลอรี” หรือ “น้ำขึ้นฉ่ายฝรั่ง” ที่หลายคนดื่มได้สบาย ขณะที่หลายๆ คน ไปต่อไม่ไหวด้วยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของขึ้นฉ่ายที่ค่อนข้างแรง

ด้วยเหตุนี้ การดื่มน้ำเซเลอรีจึงกลายมาเป็นชาเลนจ์ #celeryjuicechallenge ที่ท้าทายให้คนรักสุขภาพดื่มในปริมาณ 500 มิลลิลิตรในตอนเช้าที่ท้องยังว่าง ติดต่อกัน 7 วัน และคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตนเอง ซึ่งกล่าวกันว่าจะช่วยลดอาการบวมน้ำได้

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์ในวงกว้างว่า การดื่มน้ำเซเลอรีดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ซึ่งมีนักวิชาการและนักโภชนาการออกมาให้ความรู้ถึงประเด็นดังกล่าว และมีจุดร่วมที่เห็นพ้องตรงกันว่า ดื่มได้แต่ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ดื่มต่อเนื่องนานเกินไป และต้องทำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่


6. แฮชแท็กฮิต ชิด”การเมือง”

เพราะจิตวิญญาณของผู้คนในยุคดิจิทัลนั้น แขวนอยู่กับสะพานเชื่อมระหว่างโลกความจริงและโลกออนไลน์ หรือกล่าวได้ว่า โลกออนไลน์ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน ในหนึ่งวันจะต้องมีเวลามาเช็ก “ตัวตน” อัพเดตความเป็นไปในโลกผ่านช่องทางออนไลน์อยู่เสมอ เพราะฉะนั้้นแทบทุกกิจกรรมที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ก็มักจะพุ่งเป้าไปที่สังคมออนไลน์ เพราะนอกจากจะเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมี “พลัง” ในการเข้าถึงผู้คนอย่างตรงจุด

โดยเฉพาะการใช้ #แฮชแท็ก ดังที่เห็นในประเทศไทยและทั่วโลก ในรอบปีที่ผ่านมา ว่าคาบเกี่ยวทั้งเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง ประเด็นดราม่า อัพเดตวงการบันเทิง ภาพยนตร์ ละคร และกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ เช่น ประเด็นฮอตอย่างสถานการณ์ทางการเมือง ช่วงเลือกตั้ง ก็ดันให้ #เลือกตั้ง62 ติดเทรนด์ฮิตทวิตเตอร์ทั้งวันทั้งคืน หรือจะเป็นการรณรงค์แคมเปญ #Metoo เพื่อเรียกร้องสิทธิสตรี เป็นต้น



7. ศัพท์ฮิตโลกออนไลน์

เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตในสังคมแห่งโลกความเป็นจริง ที่ต้องปรับตัวเข้ากับกฎระเบียบ บรรทัดฐาน และไลฟ์สไตล์ของสถานที่นั้นๆ กับ “โลกออนไลน์” ก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องของ “ภาษา” ที่เป็นสิ่งสำคัญ กล่าวเช่นนี้เพราะว่ามักจะมีคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาและถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว

อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ศัพท์สแลง” ที่เมื่อเปิดพจนานุกรมทั่วไปอาจจะไม่พบความหมาย

โดยในรอบปี 2562 ที่ผ่านมา สามารถมีศัพท์ฮิตในโลกออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย อาทิ “เลิ่กลั่ก” หมายถึง การแสดงอาการหวั่นวิตก กังวล ดูมีพิรุธ, “มูฟออน” (Move on) คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ มีความหมายตรงตัวคือ เคลื่อนที่ไปข้างหน้า นิยมใช้ในกรณีที่ไม่สามารถหักใจ หรือตัดใจจากเรื่องบางเรื่องได้ เช่น มูฟออนจากชานมไข่มุกไม่ได้, คิ้กค้าก ใช้แทนเสียงหัวเราะสุดเสียง มีความสุข, ปุ้กปิ้ก มีความหมายเชิงเอื้อเอ็นดู เมื่อเห็นสิ่งที่ทำให้ใจอ่อนยวบ, สู่ขิต มีที่มาจากเน็ตไอดอลชื่อดัง หนูรัตน์ ที่ตั้งใจกล่าวคำว่า “สู่สุคติ” แต่ออกเสียงเป็น “สู่ขิต” เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี ไอ้ต้าว, พ๊ากกก, จะแล้วมั้ย, ฝันที่แม่เคยฝัน และอะไรดี บุ๋มก็ว่าดี

อย่างไรก็ตาม ศัพท์ฮิตในโลกออนไลน์ ส่วนมากมักจะเป็นการหยิบยกมาใช้เพื่อความบันเทิง เน้นภาษาเพื่อใช้แสดงอารมณ์ต่างๆ ไม่นิยมใช้ในภาษาพูดหรือภาษาเขียนอย่างเป็นทางการ


8. แฟชั่นไร้สาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องของเทคโนโลยีก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะเป็นแฟชั่นที่เอาต์ไม่ได้แล้ว ยังต้องมีความทันสมัย ใส่แล้วไม่เก่า ซึ่งบางผลิตภัณฑ์ก็ได้ลดทอน “ส่วนเกิน” ออกไป ดีไซน์ให้กะทัดรัดมากขึ้น อาทิ หูฟังแบบ “แอร์ พอด” หรือ “หูฟังไร้สาย” ที่ช่วงแรกเวลาใช้งานจะรู้สึกแปลกๆ สักหน่อย แต่พอนานๆ ไปก็จะกลายเป็นแฟชั่น “ของมันต้องมี”

นอกจากหูฟังแล้วยังมี แท่นชาร์จแบตเตอรี่สำรองแบบไร้สาย รวมไปถึงการสั่งงานผ่านระบบไวไฟ อินเตอร์เน็ตไร้สาย เข้าสู่ระบบปัญญาประดิษฐ์โดยตรงเพื่อควบคุมระบบภายในบ้าน หรือที่ทำงาน ดังที่เรียกหรือรู้จักกันในชื่อ “อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์” (Internet of things : IoT)


9. เทรนด์รักษ์โลก

ปรากฏการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายต่างทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี และปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ทำให้ “เทรนด์รักษ์โลก” ได้รับความสนใจ และมีผู้คนเข้าร่วมแคมเปญ เดินรณรงค์ ไปจนถึงห้างร้านและร้านอาหารก็ได้ปรับตัวไปอย่างมาก อาทิ การแจกถุงผ้าให้ใช้แทนถุงพลาสติก การใช้หลอดกระดาษ หลอดซิลิโคน แทนหลอดพลาสติก การใช้ซิลิโคนคลุมอาหารแทนพลาสติกแร็ป ใช้ถุงขยะแบบย่อยสลายได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ล่าสุดยังมีการร่างกฎหมาย “นำศพคนไปทำเป็นปุ๋ยได้” ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลหลักๆ คือการที่พื้นที่สุสานในเมืองต่างๆ เหลือน้อยลง ขณะเดียวกันในกระบวนการย่อยสลายยังเปลี่ยนร่างเป็นดิน เป็นทางเลือกใหม่นอกเหนือจากการดองศพ การฝัง หรือการเผา ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และยั่งยืน และจะช่วยประหยัดการใช้พื้นที่ (สำหรับฝัง) และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ด้วย

เรียกว่าเป็นแนวโน้มที่ดี เพราะยังไงการ “ลงมือทำจริง” ก็สำคัญที่สุด

10. กล้องฟิล์ม คืนชีพ

และไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ กับเทรนด์กล้องฟิล์ม ที่ทำให้ร้านขายกล้องฟิล์มและล้างฟิล์มกลับมาคึกคักอีกครั้ง

เพราะแม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกล เน้นความสะดวก รวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนกลับหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของ “การรอคอย” ที่ค่อยๆ เก็บบันทึกเรื่องราวความทรงจำ เป็นหนึ่งในงาน “ศิลปะ” เพราะทุกการลั่นชัตเตอร์ยังบันทึกความรู้สึกไว้ด้วย นอกจากกลุ่มผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มอย่างมืออาชีพแล้ว การกลับมาเป็น “เทรนด์ฮิต” อีกครั้ง ส่วนหนึ่งมาจาก “ไลฟ์สไตล์” ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ที่นิยมการลงรูปภาพผ่านทางโซเชียล สะท้อนตัวตนได้เป็นอย่างดี

เรียกว่าเป็นการคืนชีวิตให้กับกล้องฟิล์ม แบ๊ก ทู เบสิก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image