รวมตัวผู้ได้รับผลกระทบจาก “เอ็นโซโก้” ปิด มพบ.ชี้ ผู้บริโภคที่ถูกลอยแพฟ้องร้องได้

หลังจากรายงานข่าวเรื่อง “เอ็นโซโก้” เว็บดีลรายใหญ่จากออสเตรเลีย ประกาศปิดตัวไปเรียบร้อย ทำให้นอกจากพนักงานจะถูกลอยแพแล้ว ยังมีลูกค้าหลายรายของเอ็นโซโก้ถูกลอยแพจำนวนมาก เพราะดีลที่ซื้อไว้บางร้านไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป โดยบรรดาลูกค้าในประเทศไทยหลายคนระบุว่า ไม่สามารถติดต่อกับศูนย์บริการลูกค้าได้ และบางร้านที่ซื้อดีลไว้ก็แจ้งว่าไม่สามารถใช้คูปองของเอ็นโซโก้ได้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม มีการรวมกลุ่มตั้งเพจ “รวมผู้ได้รับผลกระทบensogo” ขึ้น เพื่อให้บรรดาผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของเอ็นโซโก้ได้เข้ามาแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นของตัวเอง และช่วยกันหาทางออกเพื่อการนำเงินที่เสียไปคืนมา ปรากฏว่า มีผู้เข้าไปคลิก Like เป็นแฟนเพจมากเกือบ 3 พันคนแล้ว โดยมีการรวบรวมรายชื่อของร้านค้าที่ยัง “ยินดีให้บริการ” แก่ลูกค้าของเอ็นโซโก้เอาไว้ พร้อมกับแจ้งให้แฟนเพจทราบว่า ให้ช่วยกันส่งต่อเพจนี้ให้แก่ร้านค้าที่ใช้บริการ เพื่อให้ดีลที่ซื้อมาไม่สูญเปล่า และร้านค้าก็ควรตอบรับ ยินยอมการบริการแล้วไปเรียกเก็บกับเอ็นโซโก้เอง

นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพของสำนักงานเอ็นโซโก้ ในช่วงวันเดียวกันนี้ (22 มิ.ย.2559) ที่ปิดประตูเงียบ และไม่มีพนักงานมาทำงานแต่อย่างใด

ขณะที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) แจ้งว่า จากกรณีที่เอ็นโซโก้ ประกาศปิดกิจการกะทันหัน ทำให้ผู้บริโภคหลายรายที่ซื้อบริการหรือข้อตกลงผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว ไม่สามารถนำคูปองที่ได้มาไปใช้กับร้านค้าต่างๆ ได้ นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค(มพบ.) กล่าวว่าเอ็นโซโก้เป็นเว็บไซต์ขายตรงที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งเมื่อประกาศปิดกิจการกะทันหัน ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากได้รับความเสียหาย หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่าง สคบ. ก็ควรออกมาทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค

Advertisement

นอกจากนี้การที่เว็บไซต์ดังกล่าวต้องการจะปิดกิจการเพราะรู้ว่าบริษัทขาดทุนอยู่แล้ว แต่ยังเสนอขายคูปองส่วนลดหรือบริการต่างๆ ให้ผู้บริโภค อาจเข้าข่ายเจตนาหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้บริโภค ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ซึ่งผู้บริโภคสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ โดยผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายสามารถรวมตัวกันและร้องเรียนโดยตรงได้ที่ สคบ. หรือส่งเรื่องมายังศูนย์พิทักษ์สิทธิเพื่อให้ทำหน้าที่ฟ้องร้องแทน โดยควรเตรียมเอกสาร หลักฐานการซื้อขายมาประกอบการร้องเรียนด้วย

นางนฤมลกล่าวเพิ่มเติมว่า ร้านค้าต่างๆ ก็ไม่ควรปฏิเสธการให้บริการกับผู้บริโภคที่ซื้อคูปองส่วนลดไปแล้ว หรือควรออกมาชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมถึงปฏิเสธ เพราะผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าก่อนหน้านี้ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวกับร้านค้าได้มีข้อตกลงกันอย่างไร ผู้บริโภคทราบแค่ว่าต้องจ่ายเงินให้เอ็นโซโก้ ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังร้านค้าต่างๆ เท่านั้นทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย

วันเดียวกัน เว็บไซต์สเตรทไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า บริษัท เอ็นโซโก้ ในสิงคโปร์ ได้ปิดตัวลงแล้วหลังจากการประกาศของเอ็นโซโก้ จากออสเตรเลีย โดยแหล่งข่าวเปิดเผยกับสเตรทไทม์สว่า พนักงานของเอ็นโซโก้ที่เขตกัลลัง ของสิงคโปร์ ได้เดินทางมายังที่ทำงานเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ไล่ให้กลับไป ไม่ต้องมาทำงานอีก โดยไม่มีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้แต่อย่างใด ก่อนที่จะล็อกประตูสำนักงาน กระนั้นก็ตาม พนักงานของเอ็นโซโก้ สิงคโปร์ก็ยังคงนั่งรออยู่ด้านนอกจนถึง 11.00 น. จึงได้แยกย้ายกลับ

Advertisement

ทั้งนี้ เอ็นโซโก้ สิงคโปร์ เคยรู้จักกันในชื่อของ Deal.com.sg ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 ก่อนที่จะมาเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็นโซโก้ ภายหลัง โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอ็นโซโก้ สิงคโปร์ ได้ปลดพนักงานออก 22 คน จากทั้งหมด 96 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานจากแผนกบริการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image