ชิมชิล-ชิล : Kuppadeli

Kuppa เป็นร้านอาหารที่เปิดมาสิบกว่าปี (ตั้งแต่ปี 2541 หรือ 1998) อยู่ในซอยสุขุมวิท 16 และเป็นร้านหนึ่งที่ผมและครอบครัวไปบ่อยเที่ยงวันอาทิตย์ บรรยากาศนั่งสบาย มีที่จอดรถ (พอควร) และมีอาหารที่หลากหลาย แนวตะวันตกรสชาติอร่อย

ที่สำคัญคือ กาแฟรสชาติดี ทางร้านคั่วกาแฟเอง มีให้ชนิดเลือกตามใจชอบ Kuppa จึงเป็น “ร้านกาแฟ” ก่อนที่กาแฟจะ “ฮิต” และมีคนเปิดร้านกาแฟเป็นดอกเห็ดในปัจจุบัน โดย Kuppa ยังคงเป็น “ต้นแบบ” ให้ “ผู้ประกอบการใหม่” ต้องไป (แอบ) ศึกษา

ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา Kuppa “ออกร้าน” ขนาดเล็กลง เรียก “Kuppadeli” จนมี 5 สาขาแล้ว เป็น “โมเดล” ที่น่าสนใจ คือ ขนาดเล็กกว่าร้านต้นฉบับ จัดร้านเรียบง่าย เมนูเล็กลงแต่คงคุณภาพ และตั้งร้านเข้าหากลุ่มลูกค้า เช่น ในห้างอย่างเอ็มโพเรียม และเซ็นเตอร์พอยท์สยามสแควร์ ใต้ออฟฟิศที่อโศกทาวเวอร์ ใต้โรงแรมไฮแอทเอราวัณ และบนชั้นสองของ The Residence เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ติดกับโรงพยาบาลคามิลเลียน ทองหล่อ

ร้านอาหารหลายร้านเวลาคิดเปิดสาขา จะใช้ “สูตรสำเร็จ” ของร้านแรก และเปิดให้ “เหมือน” ด้วยความเชื่อว่าลูกค้าต้องการ ซึ่งก็ใช่ว่าจะผิด แต่ในขณะเดียวกันหากเปิดสาขาโดยไม่ศึกษา “ลูกค้าเป้าหมาย” ให้ชัด สูตรสำเร็จนั้นก็จะไม่สำเร็จอีกต่อไป

Advertisement

พื้นที่เปลี่ยน สถานที่ตั้งเปลี่ยน ธรรมชาติความต้องการของลูกค้าก็อาจเปลี่ยนได้ ถ้าร้านไม่ “ปรับตัว” จะ “เสียโอกาส”

ตัวอย่างของ Kuppadeli คือ 5 สาขา เวลาเปิด-ปิดไม่เท่ากัน เข้าใจว่าตามธรรมชาติของที่ตั้งและลูกค้า ที่อโศก 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มรับคนทำงาน ที่เอ็มโพเรียมตามเวลาห้าง 10 โมงถึง 4 ทุ่ม โรงแรมเอราวัณ รับนักท่องเที่ยว 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม สยาม 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มรับตลาดวัยรุ่น และทองหล่อ 6 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม เพราะต้องดูแลผู้พักอาศัย

Advertisement

ร้านที่เอราวัณตั้งใจจะไป ได้แต่เดินผ่านเวลาไปงานเลี้ยง ที่สนใจเป็นพิเศษเพราะโฆษณาว่า มีเชฟระดับดาวมิชิลินจากนิวซีแลนด์อยู่ สาขาอื่นไม่มี ติดไว้ก่อน

แต่ที่ได้ไปลองเร็วๆ นี้คือที่ทองหล่อ พรรคพวกลากไปใกล้ที่ทำงานและบ้านเขา เดินผ่านโรงพยาบาลคามิลเลียน แล้วปีนบันไดหน่อย ร้านตั้งในโถงของอพาร์ตเมนต์ สะอาด กว้าง นั่งสบาย ซีกร้านเป็นโต๊ะๆ ง่ายๆ อีกซีกมีเก้าอี้เบาะนั่งสบายกว่า

นั่งปั๊บพนักงานจะถามทันทีว่าเป็น “แขกที่พัก” หรือเปล่า สองคนสั่นหัว แล้วจึงเข้าใจ เพราะหากพักอยู่ที่นั่น จะเป็น “เมนูเฉพาะ” เดาเอาเองว่าทำนองขายห้องพ่วงอาหารเช้า ก็จะเป็นพวกไข่ ขนมปัง ฯลฯ

ส่วนคนภายนอกเดินเข้ามา จะได้เมนูเล่มใหญ่ “ครบเครื่อง” กว่า รายการไล่ตั้งแต่อาหารเช้ายันเย็น แซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์พร้อม

ไปกันสองคน “ขาชิม” ทั้งคู่ สั่งไปสี่อย่าง ดูตามรูปเป็นหลัก เริ่มจาก “Spicy Beans & Chorizo” (220.-บาท) เป็น “โชริโซะ” หรือไส้กรอกสเปนที่มีรสเผ็ดหน่อย ส่วนถั่วขาวอบ “Baked Beans” เป็นรสเผ็ดเช่นกัน สไตล์แม็กซิกันหน่อยๆ ราดบนขนมปัง Ciabatta-เซียบัตต้า ของอิตาเลียน กรอบๆ เหนียวๆ คล้าย “บาเก็ต” ของฝรั่งเศส แถมด้วยไข่ดาวอีกฟอง ประดิษฐ์และวางจานได้น่ากิน ขนาดใหญ่กว่าที่เห็นในรูป

ตามด้วย “Egg En Cocotte” (200.-บาท) มาเป็นไข่อบในครีม เห็ด ซอสไวท์ทรัฟเฟิล โรยเศษเบคอน และขนมปัง Ciabatta เอาขนมปังจิ้มในถ้วยไข่-ครีม จานนี้จานเดียวเดินถึงปากซอยทองหล่อ ยัง “เผาผลาญ” ไขมันไม่หมด

ลอง French Toast ขนมปังชุบไข่ บลูเบอรรี่ซอส ใช้ได้ ดูเป็น “อาหารเช้า” จริงๆ อยู่จานเดียว เข้ากับกาแฟ “ลาเต้” ที่สั่งมาที่สุด

ปิดท้ายด้วย “Wagyu Cop-the-Lot Burger” แพงหน่อย (450.-บาท) สั่งเพราะความ “อยากลอง” ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยเชื่อว่าการทำ “เบอร์เกอร์” ถึงกับต้องใช้เนื้อ

“วากิว” จึงจะอร่อย เนื้อติดมันดีๆ ก็ใช้ได้แล้ว แต่ที่นี่ก็เรียกว่าใช้ได้ ส่วนเฟรนช์ฟรายส์ได้ที่เลย ทอดดี เคี้ยวมัน หมดก่อนเบอร์เกอร์

กาแฟไม่เสียชื่อ Kuppa ดั้งเดิม ในเมนูยังมีน้ำปั่นน้ำสกัดผลไม้นานาชนิดด้วย ไปลองกันนะครับ ส่วนผมจะไปตระเวนอีก 4 สาขา ถ้ามีอะไรแตกต่างพิเศษจะมาเล่าสู่กันฟัง!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image