พบดาวเคราะห์เกิดใหม่ ยืนยันทฤษฎีกำเนิดระบบสุริยะ

(ภาพ- NASA/JPL-Caltech)

นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์เกิดใหม่ 2 ดวงที่โคจรอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์ศูนย์กลางของระบบ อายุเพียง 2-3 ล้านปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยค้นพบกันมา ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำเนิดดาวเคราะห์และการก่อรูปของระบบสุริยะในอนาคต

เทรเวอร์ เดวิด นักวิจัยด้านดาราศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) ผู้เขียนรายงานร่วมในการวิจัยที่นำไปสู่การค้นพบดาวเคราะห์ที่ถูกกำหนดชื่อว่า “เค2-33บี” ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโลกราว 470 ปีแสงในกลุ่มดาวแมงป่อง (สคอร์ปิโอ) กล่าวว่า การค้นพบดาวเคราะห์เกิดใหม่ทั้งสองดวงนี้ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่ามีดาวเกิดใหม่ให้เราค้นพบตั้งแต่อายุน้อยมากๆ ได้

ดาวเคราะห์ เค2-33บี ซึ่งทีมของเดวิดค้นพบนั้นโคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ซึ่งมีอายุระหว่าง 5-10 ล้านปี ในระยะห่างเท่ากับราว 1 ใน 25 ส่วนของระยะห่างระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ และมีขนาดใหญ่กว่าเนปจูนดาวเคราะห์ในระบบสุริยะราว 50 เปอร์เซ็นต์ และอาจอยู่ระหว่างการพัฒนาขยายใหญ่ขึ้นได้อีก

เอริค เพทิกูรา จากแคลเทคเช่นเดียวกันชี้ว่า เค2-33บี ใช้เวลาโคจรรอบดาวฤกษ์ของระบบเพียง 5 วัน และการตรวจสอบพบดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นการยืนยันทฤษฎีที่ว่าต้องมีการเกิดแผ่นฝุ่นกำเนิดดาวเคราะห์ หรือ แพลเนททารี ดิสก์ ขึ้นรอบดาวฤกษ์ในช่วง 10 ล้านปีแรกของอายุดาวฤกษ์ดังกล่าวที่ในที่สุดรวมตัวกันขึ้นเป็นดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่โดยรอบดาวฤกษ์และกลายเป็นระบบดาวขึ้นมาในที่สุด

Advertisement

สำหรับรายงานอีกชิ้นเป็นรายงานการค้นพบดาวเคราะห์เกิดใหม่ขนาดเท่ากับจูปีเตอร์หรือดาวพฤหัสบดีของระบบสุริยะ ที่อยู่ในกลุ่มดาว ทอรัส ห่างออกไปจากโลกราว 430 ปีแสงของทีมวิจัยดาราศาสตร์ที่นำโดย ฌ็อง-ฟรองซัวส์ โดนาติ นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยตูลูส ดาวเคราะห์ที่ค้นพบนี้โคจรอยู่ห่างจากดาวฤกษ์ที่เป็นศูนย์กลางเพียงแค่ 1 ใน 20 ส่วนของระยะห่างจากโลกถึงดวงอาทิตย์ ทำให้นักวิจัยที่ค้นพบเรียกมันว่า “ฮอทจูปีเตอร์”

“ฮอทจูปีเตอร์” แสดงให้เห็นรูปแบบการเกิดดาวเคราะห์อีกแบบหนึ่ง เพราะทีมวิจัยเชื่อว่าจุดที่มันโคจรอยู่ไม่น่าจะมีวัสดุมากมายพอที่จะก่อรูปเป็นดาวเคราะห์ขึ้น ดังนั้น มันน่าจะเกิดขึ้นในแผ่นฝุ่นกำเนิดดาวเคราะห์ที่อื่นๆ ก่อนที่จะหลุดเข้ามาถูกแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ดึงดูดเข้ามาเป็นดาวบริวารนั่นเอง

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการศึกษาระบบดาวเกิดใหม่เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้สามารถเข้าใจได้ว่าโลกและระบบสุริยะก่อกำเนิดได้อย่างไรนั่นเอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image