ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
---|---|
เผยแพร่ |
คู่เรา ‘หยินกับหยาง’ จากสาวสังคมสุดแซ่บ สู่ชีวิตติดธรรมชาติ เรื่องราวความรัก ‘หญิงแม้น’
หญิงแม้น – เป็นสาวสังคมชื่อดัง ที่ขยับตัวทำอะไรแต่ละครั้งก็เป็นที่สนใจของแวดวงไฮโซ เซเลบริตี้อยู่เสมอ สำหรับราชนิกุลสาว “หญิงแม้น” ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต ธิดาคนโตของ พลตรี ม.จ.จุลเจิม ยุคล กับ หม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา
“พี่ซันเป็นคนที่แม้นคบด้วยนานที่สุดในชีวิต และไม่เคยรู้สึกเบื่อเขาเลย ตื่นมามองหน้าเขาแล้วก็รู้สึกแบบ ตกหลุมรักเขาทุกวัน แม้นไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ กับตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคิดว่าจะลงเอยแบบนี้ กับคนแบบนี้ สุดท้ายแล้วสำหรับแม้น ความรักก็เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ”
คำตอบแรกจาก ม.ร.ว.สาวเมื่อถูกถามถึงความรัก ด้วยใบหน้าสดใสแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเล่าย้อนถึงความรักในวันที่กามเทพแผลงศร
จุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่เริ่มจากความสัมพันธ์แบบเพื่อน ที่ต้องเรียกว่ามี ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ ญาติของฝ่ายชายและรุ่นพี่ของฝ่ายหญิงเป็นคนกลาง ขณะนั้นหนุ่มซันกำลังทำงานอยู่ที่ศรีพันวาจึงได้เจอกันระหว่างที่หญิงแม้นไปเที่ยวพักผ่อน ได้ทำความรู้จักกันแบบเพื่อน จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อซันลาออกจากงานมาสานด้านธรรมะที่อยากทำ และตั้งใจจะขับรถจากภูเก็ตกลับกรุงเทพฯ เพื่อขนของกลับมาบ้าน ทำให้หญิงแม้นเกิดเป็นห่วงอย่างไม่คิดอะไรเป็นพิเศษ ทิ้งตั๋วเครื่องบินมานั่งเป็นเพื่อนหนุ่มซัน
ระหว่างทาง 12 ชั่วโมงนั้นเองที่บทสนทนาต่างๆ เกิดขึ้น นำพาให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันในรถกระบะคันเล็กๆ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ หญิงแม้นก็ได้ส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่า “รู้สึกเปลี่ยนไป และเขาก็น่ารักดี”
จากวันนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น และในเวลาเพียงหนึ่งปี ก็ได้ตัดสินใจเริ่มใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
ม.ร.ว.แม้น นฤมาสเผยว่า ตั้งแต่แต่งงานกันมาชีวิตแม้นเปลี่ยนไปมาก เรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ใช่แค่เราที่คิด แต่เพื่อน พ่อแม่ ญาติๆ ก็พูด แม้นว่าแม้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น โตขึ้นและสงบขึ้น ใช้ชีวิตกับความเป็นธรรมชาติ อยู่กับความธรรมดาๆ ก็มีความสุข มันมีความสุขง่ายขึ้น แต่ก่อนตอนเย็นจะออกไปงานทุกวัน ตอนนี้ถ้าไม่สนิทกันก็ไม่ไป จากที่เคยออกไปกินข้าวกับสาวๆ ไปเที่ยวผับ ก็เปลี่ยนมาอยู่บ้านกับน้องหมา แมว และสามี
มีเวลาว่างหน่อยก็ไปต่างจังหวัด 80% ขับรถไปเที่ยว ไม่ได้พักรีสอร์ต 5 ดาว หรือบินหรู แต่ขับรถไปลุยไปเรื่อยๆ นอนเต็นท์บ้าง บางครั้งก็เข้าป่า ไม่มีห้องน้ำ อาบน้ำไม่ได้ กินข้าวบนใบไม้ นอนในถ้ำ ในวัด เดือนหนึ่งไม่ได้แต่งหน้าแม้กระทั่งไม่ได้ส่องกระจกด้วยซ้ำ ก็คือทำมาหมดแล้ว ในชีวิตนี้อะไรที่ไม่คิดว่าจะได้ทำก็ทำมาหมดแล้ว คู่เราดีตรงที่จะไปหรูก็ไปได้ หรือจะไปเละเทะเราก็ไปได้
“แม้นรู้สึกดี มีความสุขของชีวิตตอนนี้ มันเหมือนเรารู้สึกพอกับทุกอย่าง ไปไหนก็นั่งรถไฟฟ้า ใกล้ๆ ก็เดินไป ไม่ได้อยากได้กระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้าใดๆ มันรู้สึกว่าเป็นของนอกกาย ไม่ได้จำเป็น ดูเฟซบุ๊ก ไอจี ก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรืออยากได้แบบเขา พี่ซันไม่ได้สนใจอะไรพวกนี้ ไม่สนใจกระทั่งการแต่งตัว แม้เราจะใส่กางเกงเล หัวฟู เขาก็รับเราที่เป็นแบบนี้ ไม่ต้องประดิษฐ์”
“หรืออย่างเรื่องใช้ชีวิต แต่ก่อนเจออะไรเราก็อาจจะโทษรัฐบาล แต่ตอนนี้เราคิดว่าไม่ได้แล้ว มันต้องเริ่มจากเรา สามีเป็นคนที่ใส่ใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก ทุกวันนี้จะซื้ออะไรเราก็ต้องมีสติ อ่านฉลากทั้งหมดว่าย่อยสลายได้ไหม ทำมาจากอะไร หลังจากนี้มันจะไปไหนต่อ ขนาดว่าไปกินข้าวร้านอาหารก็ยอมไม่กินน้ำ เพราะไม่มีขวดแก้ว และก็เริ่มพกขวดน้ำ ช้อนส้อม ทุกอย่างติดไว้ตลอด”
“เหมือนได้ทิ้งตัวตน แล้วหันกลับมามองธรรมชาติมากขึ้น”
นอกจากการปรับตัวเข้าหากันแล้ว ยังต้องคอยเป็นแรงสนับสนุนให้กันและกันอยู่ตลอด
“ความรักสำหรับแม้น มันไม่ใช่ 50-50 แต่บางวันมันก็ต้อง 80-20 บางครั้งเราอยากให้เขาเข้ามาทำอะไรให้เราในวันที่เราแย่ หรือก็พร้อมจะไปหาเขาในวันที่เขาแย่ แบบนั้น”
รวมไปถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่ศรีภรรยาต้องการกำลังใจอย่างที่สุด
หญิงแม้นเผยว่า เราแต่งงานกันมา 3 ปีกว่า ปีแรกๆ ก็ยังสนุกกับการท่องเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆ จนตอนหลังก็อยากจะมีลูก ก็ลองให้เป็นแบบธรรมชาติ แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถมีลูกได้ ก็เลยไปปรึกษาคุณหมอ ก็พบว่าเรามีปัญหาร่างกาย เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ จึงต้องไปรักษาตัว ไปจี้ถุงน้ำรังไข่ รักษาอยู่เป็นปี หลังจากผ่าตัดมาเราก็มีฉีดยาฮอร์โมน พึ่งแพทย์สมัยใหม่ในการมีลูก ช่วงนั้นก็จะเป็นวัยทอง ประจำเดือนหมดไปเลย เหมือนคนแก่ หงุดหงิด ขี้โวยวาย ซึ่งเขาก็ดูแลเราจนผ่านมาได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเราก็รู้สึกดี
“จริงๆ ต้องย้อนไปว่า พี่ซันไม่อยากจะแต่งงาน ก็ได้แต่งงานกัน เขาเองไม่อยากมีลูก เพราะไม่อยากมีห่วง เพิ่มความทุกข์ตามหลักศาสนาพุทธ แต่แม้นรักเด็กมาก อยากมีลูกมากๆ ซึ่งเขาก็โอนอ่อนมาทางเรา พออยากมีพึ่งธรรมชาติไม่ได้เขาก็ยอมมาใช้วิธีแพทย์สมัยใหม่ ทั้งหมดนั้นแม้นว่ามันคือความรัก ที่เขายอมทำสิ่งที่เขาไม่คิดจะทำเพื่อเรา ซึ่งแม้นว่าชีวิตคู่มันก็แบบนี้”
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการให้คำจำกัดความในชีวิตรักว่า คู่เราก็เหมือนหยินหยาง ตรงข้ามกันเกือบทุกเรื่อง เขาชิล ใจเย็น ธรรมะ เราชอบทำกิจกรรม ชอบสังคม พลังเยอะ ไปแต่งแต้มสีในชีวิตเขา
“ก็เหมือนว่ามาอยู่ด้วยกันมันพอดี”
ขอบคุณภาพจาก yingmann