| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ขณะนี้ กสม.กำลังเขียนรายงานข้อเสนอแนะรวมเสนอให้รัฐบาล กรณีให้ปรับปรุงการรับตัวและตรวจค้นเข้าเรือนจำของผู้หญิง ที่มีปัญหาการปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน เสนอต่อรัฐบาลเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ กสม.โดยคณะอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี อยากจัดเทรนนิ่งให้เรื่องความอ่อนไหวระหว่างเพศ ให้กับเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานหญิง ที่แม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันเองอาจไม่เข้าใจ เช่น กรณีแค่นิ้วเดียวตรวจในซอกต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อรวมถึงกรณีพวกผู้ต้องขังหลากหลายทางเพศ ผู้ต้องขังชายที่ต้องตรวจทางทวารหนัก นี่คงเป็นสิ่งที่เราต้องทำต่อไป ทั้งนี้ การตรวจภายในซอกหลืบของร่างกาย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการหายาเสพติด แต่ส่วนผู้ต้องหาที่กระทำความผิด เช่น หมิ่นประมาท ทะเลาะวิวาท แล้วไปตรวจ หรืออยู่ระหว่างรอประกันตัว เราก็เรียกร้องว่าทัณฑสถานควรมีห้องด้านนอก เพื่อไม่ต้องส่งตัวไปเรือนนอน เพื่อไม่ต้องตรวจร่างกายละเอียดอะไรมากมาย
นางอังคณากล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณีเปิดอวัยวะเพศดู เพื่อตรวจหาว่าผู้ต้องขังเป็นเพศอะไร ซึ่งทางราชทัณฑ์อ้างว่าเคยพบกรณีภายนอกเป็นหญิงแต่ภายในชาย แต่ตนมองว่าในเมื่อบัตรประชาชนซึ่งระบุเพศกำเนิดไว้อยู่แล้ว จะต้องไปเปิดอีกทำไม รวมถึงกรณีกลุ่มผู้ต้องขังหลากหลายทางเพศ ที่คนแปลงเพศแล้วราชทัณฑ์จะให้อยู่กับผู้หญิง แต่ส่วนกะเทยที่แปลงแค่นมให้ไปอยู่เรือนนอนชาย ตรงนี้ทำให้ผู้ต้องขังกลุ่มหลากหลายทางเพศถูกคุกคามทางเพศ แม้ทางราชทัณฑ์จะบอกว่าพยายามเดินตรวจตราบ่อยในเวลากลางคืน แต่ช่วงกลางวันที่มีมุมลับจะทำอย่างไร เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่อาจไม่ได้เดินไปตรวจบ่อย ตรงนี้จะบอกว่าการละเมิดทางเพศไม่ได้มีเพียงผู้ต้องขังหญิงและชายเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มหลากหลายทางเพศด้วย อย่างไรก็ตาม ได้หารือกับปลัดกระทรวงยุติธรรม ท่านรู้ปัญหาแล้ว จากนี้ต้องติดตามต่อว่าจะมีแนวทางอย่างไร แล้วจะดีขึ้นไหม
