ภาษาพาแซ่บ…Laughter

คอลัมน์ ภาษาพาแซ่บ

หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกจ้ะ ซำบายดี

กลับมาคราวนี้ หยิบเรื่อง Laugh กับ Laughter มาฝาก

ปกติคำกิริยาในภาษาอังกฤษ เมื่อเติม -er ต่อท้าย เข้าไปจะกลายเป็นคำนาม และมักหมายถึงคนที่แสดงกิริยานั้นๆ อย่าง sing คือร้องเพลง singer ก็เป็นนักร้องไง

Advertisement

แต่คำว่า Laugh ที่แปลว่า “หัวเราะ” พอเป็น Laughter กลับไม่ได้หมายถึงคนที่หัวเราะนะ แต่หมายถึง “การหัวเราะ” จ้ะ

เรามักหัวเราะเมื่อฟังเรื่องตลก joke หรือเรื่องขบขัน humour แต่เอาเข้าจริงๆ นักวิชาการด้านจิตวิทยาอย่าง โรเบิร์ต โพรวีน Robert Provine จากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ เคยศึกษาพบว่า

We actually laugh most when talking to our friends. จริงๆ แล้วเราหัวเราะมากที่สุดเมื่อพูดคุยกับเพื่อนๆ

Advertisement

จริงหรือเปล่าไม่รุ เธอลองสังเกตดูละกัน

แต่ที่จริงแท้แน่นอนก็คือ ที่นักจิตวิทยาและนักประสาทวิทยา อย่าง ศาสตราจารย์ โซฟี สก๊อต ของมหาวิทยาลัย คอลเลจ ลอนดอน บอกไว้ว่า

“In humans, laughter has developed into an important emotional expression, used throughout many channels of communication.”

การหัวเราะได้พัฒนาเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในมนุษย์ ใช้กันในหลายๆช่องทางของการสื่อสาร

จริงๆ นะ แม้แต่ตอนที่เราใช้ Line คุยกันเรายังต้องหัวเราะ

ถ้าเป็นคนไทยด้วยกันก็ใส่อิโมจิขำกลิ้ง หรือ 5555 เข้าไป ถ้าเป็นฝรั่งเขาถนัดหัวเราะกันด้วยคำ LOL ที่มาจากคำว่า Laugh out loud หัวเราะดังๆ นั่นแหละ

Laughter is contagious. หัวเราะน่ะระบาดได้ นี่เป็นจริงทางวิทยาศาสตร์เหมือนกันนะ แพร่จากคนนึงไปหาอีกหลายๆ คนได้

บางทีหัวเราะเสร็จถามว่าหัวเราะอะไร ได้คำตอบว่า ไม่รุ…หัวเราะเพราะเขาหัวเราะกันน่ะ 5555

วิทยาศาสตร์บอกด้วยว่า สมองเราแยกออกนะว่า หัวเราะที่เราได้ยินได้เห็นน่ะ เสแสร้ง หรือ จริงๆกันแน่

แต่หัวเราะทาง Line 1 เนี่ย เห็นทีจะบอกยากแฮะ คนพิมพ์ 555 อาจร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ก็ได้ จริงมะ

จบเรื่องหัวเราะระ 55555

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image