กระชากวัย! แบบ “อ.สง่า ดามาพงษ์” กินคลีนฟู้ดแบบไทยๆ อายุ 66 ปี ยังฟิตเฟร่อ

“หากใครอยากวิ่งหนีมะเร็ง ใครอยากรู้ว่า คลีนฟู้ดแบบไทยๆ กินอย่างไร แล้วใครคิดว่า ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องตายอย่างมีศักดิ์ศรี”

นี่คือคำพูดเชิญชวนของ อ.สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการชื่อดัง ในฐานะที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ผู้คนที่ผ่านไปมาในศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ที่มาเที่ยวชมงาน “Eat Right – Eat Organic เติมสุขภาพดี วันละ 400 กรัม” จัดโดย โครงการจัดการระบบการผลิตและการตลาดเกษตรอินทรีย์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อสร้างสุขภาพดีแก่ผู้บริโภค ผู้ผลิต ดำเนินการโดย บริษัทสังคมสุขภาพ จำกัด (เลมอนฟาร์ม) สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้มาฟังทอล์กโชว์หัวข้อ “กินเป็น เน้นธรรมชาติ”

คำเชิญชวนว่า “เร้าใจ” แล้ว แต่ที่ “ทึ่ง” กว่า เห็นจะเป็นคำพูดต่อจากนี้…

“ตอนนี้ผมอายุ 66 ปี เกษียณมาแล้ว 6 ปี เป็นข้าราชการที่กรมอนามัย 38 ปี ยาพาราเม็ดสุดท้ายกินเมื่อไหร่ จำไม่ได้ ผมไม่เคยป่วย ตู้ยาบ้านผมเป็นตู้ร้าง สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมทำ ผมจะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพวกคุณ จะให้วิ่งหนีมะเร็ง ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องตายอย่างมีศักดิ์ศรี ก่อนตายต้องตายอย่างมีความสุข และไม่ตายด้วยโรคติดต่อเรื้อรัง”

Advertisement

นอกจากคำพูดแล้ว “ลุค” ภายนอกของ อ.สง่าก็ทำให้ไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะดูเหมือนหนุ่มใหญ่ที่อายุ 40 ปลายๆ มากกว่าเป็นคนสูงวัยที่เกษียณอายุมาแล้ว 6 ปี

อะไรทำให้ อ.สง่ายังดูหนุ่มแน่นขนาดนี้

“ผมกินแบบธรรมชาติ ซึ่งก็เป็นการกินตามหลักโภชนาการ” อ.สง่าเฉลย แล้วเล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ก็เหมือนคนทั่วไปที่ไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพอาหารการกิน แต่แรงบันดาลใจมาจากการเป็นนักโภชนาการ และไม่อยากป่วยเป็นโรครุมเร้าตอนอายุมากแล้ว

Advertisement

“ผมเริ่มกินแบบนี้ตั้งแต่อายุ 30 ปี ช่วงแรกที่ทำก็ยากเหลือเกิน เพราะสิ่งแวดล้อมไม่เอื้อ จึงตัดสินใจเริ่มต้นที่บ้าน ซึ่งภรรยาเป็นนักโภชนาการเหมือนกัน ครอบครัวเราเวลาจะกินอะไรจะระวัง ไม่ถึงกับสุดโต่ง เรากินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่เราพยายามคิดว่า อาหารที่เรากินนั้น มันดีต่อสุขภาพแบบที่เราเรียนมาไหม สะอาดพอหรือเปล่า

“สิ่งที่ซีเรียสที่สุดคือการกินข้าวนอกบ้าน เพราะเราไม่สามารถควบคุมคุณภาพอาหารที่แม่ค้าปรุงให้เราได้ เราก็เลยพยายามทำกับข้าวกินเองที่บ้าน อย่างน้อยมื้อเช้ากับมื้อเย็น ส่วนมื้อกลางวันก็กินตามปกติ แต่เลือกร้านที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทำลายสุขภาพเรา”

S__3728144_0

จะว่าไปการกินแบบ อ.สง่า ก็คล้ายๆ กับการ “กินคลีน” ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพปัจจุบัน

“ตอนนี้โลกกำลังสนใจการกินแบบนี้ หรือที่ชาวตะวันตกเรียกว่า Eat Clean หรือกินคลีน และประเทศไทยเราก็กินตามเขา ทั้งที่การกินคลีนคือการกินอาหารไทยสมัยปู่ ย่า ตา ยาย เรากินคลีนฟู้ดมานานแล้ว”

หรือจะเรียกว่า “คลีนฟู้ดแบบไทยๆ” ก็คงไม่ผิดนัก

อ.สง่าระบุว่า การกินคลีนฟู้ดแบบไทยๆ คือ การกินอะไรก็แล้วแต่ เมนูไหนก็ได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติ 5 ข้อต่อไปนี้

1.เป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบในการปรุงมาจากธรรมชาติเป็นส่วนมาก อาจเป็นกะปิ ปลาร้า เป็นอะไรที่ผ่านขบวนการถนอมอาหารนิดหน่อยได้ แต่ต้องเป็นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่

“แกงส้มดอกแค ถือว่าเป็นการกินคลีน แต่ถ้ากินกับข้าวขาว ไม่ใช่กินคลีน ต้องกินกับข้าวกล้องถือว่ากินคลีน แต่ถ้ากินแกงส้มกับไข่ดาว ไข่เจียว ไม่ใช่คลีน เมนูคลีนต้องเป็นข้าวกล้อง แกงส้มดอกแค และไข่ต้ม” อ.สง่าอธิบาย

2.การกินคลีนต้องกินครบ 5 หมู่

“การกินคลีนต้องให้ครบ 5 หมู่ เรากินแกงส้มดอกแค ข้าวกล้อง ไข่ต้ม และกินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก อาหารมื้อนี้คลีนและครบ 5 หมู่ คำว่าอาหารหลัก 5 หมู่ คนไทยท่องได้ แต่ส่วนใหญ่เอาประยุกต์ใช้กับชีวิตไม่ได้ อย่างผม อายุ 66 ปี ผมกินครบ 5 หมู่ทุกมื้อ”

อ.สง่ายกตัวอย่างเมนูอาหารที่กินครบ 5 หมู่ง่ายๆ จากเมนูก๋วยเตี๋ยว และกล้วยน้ำว้า

“ก๋วยเตี๋ยวได้คาร์โบไฮเดรตจากเส้นก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้น-เนื้อสัตว์ให้โปรตีน ถั่วงอกให้วิตามิน-แร่ธาติ ไขมันได้จากกระเทียมเจียว ดังนั้น ก๋วยเตี๋ยว 1 ชามได้ 4 หมู่ เพิ่มกล้วยน้ำว้าเข้าไปในมื้ออาหารเป็นหมู่ที่ 5

“ถ้าจะกินคลีน กินเพื่อสุขภาพ ต้องกินให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ ส่วนมากคนลืมกินผลไม้ ถ้าไม่กินผลไม้หลังอาหาร ให้กินเป็นอาหารว่าง ก็จะครบ 5 หมู่”

3.การกินคลีน ต้องเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งแต่น้อย เป็นอาหารประเภทนึ่ง ต้ม ย่าง ไม่ทอด

“แกงส้มดอกแค ถ้าใส่ผงชูรสเข้าไปไม่ใช่คลีน หรือยำปลากระป๋องใส่ใบสะระแหน่ ไม่ใช่คลีน เพราะปลากระป๋องผ่านกระบวนการปรุงแต่ง แต่นานๆ กินทีได้ เราไม่ได้ปิดกั้นให้ไม่กินอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งเลย”

4.การกินคลีน ต้องไม่กินรสจัด ถ้าหวานจัด เค็มจัด มันจัด ไม่ใช่คลีน

“สรุปแล้วการกินคลีน คือเมนูอะไรก็ได้ ที่กินแล้วมันไม่มีรสชาติที่จัดจ้านจนเกินไป วัตถุดิบต้องมาจากธรรมชาติ”

5.การกินคลีน ถ้ากินเนื้อสัตว์ใหญ่ไม่ถือเป็นการกินคลีน ให้กินปลา หรือถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อสัตว์ใหญ่นานๆ กินทีได้

“ผมเชียร์ให้กินปลา เพราะเป็นโปรตีนที่ดี ย่อยง่าย ไขมันต่ำ แต่ไขมันในตัวปลาเป็นกรดไขมันชนิดดีที่ร่างกายต้องการ ไขมันในเนื้อหมูเนื้อวัวเป็นไขมันอิ่มตัว กินเข้าไปคอเลสเตอรอลสูง แต่ไขมันในปลา กินเข้าไปลดคอเลสเตอรอล หนึ่งสัปดาห์กินปลาให้ได้อย่างน้อย 3-4 ครั้ง”

ทั้งหมดนี้คือการกินคลีนแบบไทยๆ

S__3728148

“อ.สง่ากินอาหารไทยมาตลอดชีวิต กินข้าวกล้อง อาหารทุกมื้อต้องมีผัก โดยพยายามกินผักพื้นบ้าน บ้านผมปลูกผักพื้นบ้านเต็มไปหมด ตำลึง ยอดแค ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด นอกจากนี้ จะกินโปรตีนจากพืช จากเต้าหู้ สลับกับโปรตีนจากสัตว์ เน้นกินปลามากกว่าเนื้อสัตว์ใหญ่ ส่วนรสชาติจะเน้นรสชาติกลางๆ ไม่มันจัด หวานจัด เค็มจัด เน้นต้ม นึ่ง ย่าง เน้นแกงไทยๆ ไม่มีกะทิ เช่น แกงเลียง แกงอ่อม แกงป่า แกงส้ม ต้มยำ เป็นอาหารประจำบ้าน และที่ขาดไม่ได้คือน้ำพริก การกินน้ำพริกเป็นกุศโลบายให้เราได้กินผัก ฝรั่งกินสลัดฉันใด คนไทยกินน้ำพริกฉันนั้น และจะกินผลไม้เป็นอาหารว่าง แทนขนมหวาน”

นอกจากอาหาร อ.สง่ายังออกกำลังกาย เพราะถ้าไม่ออกกำลังกาย อาหารอย่างเดียวก็เอาไม่อยู่ นอกจากนี้ยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน พูดตลก มองบวก ไม่เก็บความเครียดไว้กับตัวเองนาน พอเครียดปุ๊บสลัดออกทันที และทั้งหมดนี้คือผลของการดูแลตัวเองของผู้ชายที่อายุ 66 ปีคนนี้

“ผมไม่เจ็บป่วยมาก หวัดไม่ค่อยเป็น ป่วยมากที่สุดตอนไหนจำไม่ได้แล้ว ยาไม่ได้กิน ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล ล่าสุดไปวิ่งมาราธอน 10 กิโลเมตร สามารถวิ่งได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยมาก ทำเวลาได้ 1 ชั่วโมง 7 นาที ซึ่งปกติถ้าคนอายุ 66 ปี ต้องใช้เวลาเร็วที่สุดหนึ่งชั่วโมงครึ่ง”

อ.สง่าทิ้งท้ายว่า ชีวิตคนเราแขวนบนเส้นด้าย ถ้าเราไม่เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ เราจะเจอกับหายนะ ความเจ็บปวดกับชีวิตในอนาคต

“วันนี้เรามาเตรียมดอกเบี้ยชีวิตไว้เหมือนผม ที่ผมดูแลตัวเองมาตลอด 40 ปี ผมไม่เจ็บไม่ป่วย ออกกำลังกาย สลัดความเครียดให้เร็ว นอนเพียงพอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า”

สิ่งที่ผมทำคืออานิสงส์ถึงตัวผม ผมแก่ช้า ผมไม่ป่วย และนี่คือสิ่งที่ผมได้รับ” อ.สง่าทิ้งท้าย

S__3728143

S__3728150

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image