วางแผนรับมือจุดเลวร้ายที่สุด กลยุทธ์ธุรกิจ ‘สู้โควิด’ เซเลบนักธุรกิจสาว ‘พิมพ์พยัพ’

พิมพ์พยัพ

วางแผนรับมือจุดเลวร้ายที่สุด กลยุทธ์ธุรกิจ ‘สู้โควิด’ เซเลบนักธุรกิจสาว ‘พิมพ์พยัพ’

พิมพ์พยัพ – เพราะ “พิษโควิด-19” นั้น มีฤทธิ์ทำให้ผู้ติดเชื้อไวรัสตัวนี้ถึงแก่ชีวิตได้ จึงเป็นที่มาของแคมเปญสะดุดหู อย่าง #IStayHomeFor ที่เหล่าคนดังจากทั่วโลกออกมาชูป้ายรณรงค์ ให้คนหยุดอยู่บ้าน กักตัว แยกตัว เพื่อเซฟตัวเองไม่ให้ติดเชื้อทั้งยังช่วยเซฟไม่ให้ไปแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นอีกด้วย

ดังที่รัฐบาลไทยออกแคมเปญ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” หรือจะเป็นแคมเปญจากบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งทำงานหนักเพื่อทุกคน ดังว่า “โรคติดต่อ จะไม่ติดต่อ ถ้าเราไม่ติดต่อกัน”

เช่นเดียวกับ เซเลบสาวร่างเล็กที่งานนี้ก็ต้อง “เวิร์ก ฟรอม โฮม” อย่าง พิมพ์-พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา ลูกสาวคนกลาง หนึ่งในสามใบเถาทายาทเจ้าของธุรกิจเอเชียประกันภัย เพนดูลัม จำหน่ายนาฬิกาแบรนด์หรู และร้านอาหารไทยนารา ที่มีทั้งหมด 13 สาขาทั่วประเทศ

Advertisement

โดยเธอเข้ามาดูแลในส่วนของร้านอาหารไทยนารา รับหน้าที่เป็น Corporate Business Manager ที่ต้องพบกับความท้าทายเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

“ร้านอาหารได้รับผลกระทบตั้งแต่ตอนที่เริ่มมีข่าวโควิดใหม่ๆ เพราะนักท่องเที่ยวหายไปเยอะ หลังจากนั้นก็กระทบหนักขึ้นเมื่อมีการแพร่ระบาดในไทย คนออกจากบ้านน้อยลง อีกระลอกก็ตอนที่ห้างสรรพสินค้าต้องปิดให้บริการชั่วคราว เพราะร้านเรามีสาขาบนห้างด้วย” ผู้บริหารสาวเล่าถึงความท้าทายที่เกิดขึ้น ทั้งเผยวิธีรับมือว่า น่าจะคล้ายๆ กับทุกที่ที่ต้องทำความเข้าใจกับพนักงานก่อนเป็นอันดับแรก เรื่องการลดค่าใช้จ่าย จากนั้นก็รุกช่องทางออนไลน์ และบริการจัดส่งถึงบ้าน หรือดิลิเวอรี จากปกติที่จะเน้นขายหน้าร้านมากกว่า

ครั้งนี้จึงนับเป็น “ครั้งแรก” ที่ร้านอาหารไทยนาราเริ่มทำการตลาดทางดิลิเวอรี ซึ่งก็ได้รับฟีดแบ๊กดีจากทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่ๆ ที่ชื่นชอบอาหารไทย

Advertisement

“พอร่วมกับแอพพ์ดิลิเวอรี บางครั้งลูกค้าก็สะท้อนมาว่าเรียกรถไม่ได้ พิมพ์ก็อยากหาทางเพิ่มรายได้ให้กับพนักงาน จึงสอบถามพนักงานว่ามีใครสนใจจะทำดิลิเวอรีไหม ซึ่งทุกคนก็น่ารัก ให้ความร่วมมืออย่างดี คนที่มีมอเตอร์ไซค์และใบขับขี่ก็พร้อมส่งได้ทันทีจากร้าน” เซเลบสาวเผยด้วยน้ำเสียงจริงจังและย้ำว่า

“ในภาวะแบบนี้พิมพ์ตื่นตัวตลอดเวลาว่าจะรับมือยังไง วางแผนการรับมือในจุดที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อนเลย เพราะไม่อยากที่จะมาคิดบวก แล้วพอเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงแล้วเรารับมือไม่ได้”

ขณะเดียวกัน “มาตรการความสะอาดปลอดภัย” ก็ต้องเข้มไม่แพ้กัน พนักงานทุกคนต้องสวมถุงมือระหว่างประกอบอาหาร สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ มีการพ่นยาฆ่าเชื้อ เช็ดโต๊ะทุกครึ่งชั่วโมง ฯลฯ

เรียกว่าสิ่งไหนทำได้เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสก็ต้องทำ!

ด้านไลฟ์สไตล์ส่วนตัว จากสาวนักผจญภัยที่รักการดำน้ำม้ากมาก สาวพิมพ์ก็เผยว่าปีนี้แทบไม่มีแพลนเที่ยวต่างประเทศเลย เพราะโฟกัสที่งานล้วนๆ ยิ่งตอนนี้เข้ามาดูแลเต็มตัว ประกอบกับพิษโควิด ก็ต้องกักตัวเวิร์ก ฟรอม โฮมเหมือนกัน

แต่โชคดีที่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกล การประชุมงานจึงไม่เป็นปัญหา!

“ตอนแรกที่เวิร์ก ฟรอม โฮม ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ เพราะพออยู่ที่บ้านจะให้บรรยากาศเหมือนวันหยุด ต้องปรับความคิดตัวเองว่านี่คือวันธรรมดายังต้องทำงาน และมีวินัยให้มาก ตั้งเป้าไว้เลยว่าวันนี้งานชิ้นนี้ต้องเสร็จ ซึ่งพอผ่านไปสักสองวันเราจะเริ่มปรับตัวได้ เผลอๆ อาจจะรู้สึกว่างานหนักกว่าเดิม เพราะออกไปไหนไม่ได้ ก็ต้องทำงาน

“ที่สำคัญคือพิมพ์มองว่าสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในวิกฤตครั้งนี้คือหลังจากนี้ไป แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแล้วทุกคนก็จะให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง ทั้งเรื่องความสะอาด การสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกันซึ่งจริงๆ คือการรับผิดชอบต่อตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคมในอีกทางหนึ่งด้วย” เซเลบสาวกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image