‘กรณ์ ณรงค์เดช’ บอสใหญ่เคพีเอ็น กับกำลังใจเล็กๆ ที่ช่วยได้ ‘ยามวิกฤต’

กรณ์ ณรงค์เดช

‘กรณ์ ณรงค์เดช’ บอสใหญ่เคพีเอ็น กับกำลังใจเล็กๆ ที่ช่วยได้ ‘ยามวิกฤต’

กรณ์ ณรงค์เดช – ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โควิด-19” ที่แพร่ระบาดหนักไปทั่วโลกนั้น สร้างผลกระทบต่อชีวิตของผู้คน ทั้งความเป็นอยู่ การงาน และไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนไป

กรณ์ ณรงค์เดช บอสใหญ่แห่งอาณาจักรเคพีเอ็น ก็นับเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เมื่อพิธีฉลองสมรสของเขาและ ศรีริต้า เจนเซน ภรรยาสาว ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อยู่ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะต้องเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโรคร้าย แต่ด้วยไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ จึงต้องปรับมาตรการสาธารณสุขให้แขกภายในงาน ทั้งขอความร่วมมือแขกที่กลับจากต่างประเทศ สามารถแสดงความยินดีผ่านไลน์หรืออินสตาแกรม

ท่ามกลางความรักของเพื่อนๆ ที่เข้าไปอวยพรให้แก่ความรักของทั้งคู่

“โควิดกระทบกับทุกคน ทุกภาคส่วน ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบ ทุกคนลำบากหมด ผมก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น”

Advertisement

กรณ์บอกว่า หลังจากมีโควิด ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ก็มีคอนโดมิเนียมหลายแห่งที่ต้องปิดเซลล์ออฟฟิศไป ก็ปรับให้พนักงานส่วนมากได้เวิร์กฟรอมโฮม อย่างห้องที่ขายไปแล้ว ลูกค้าพร้อมโอนแล้ว ลูกค้าต่างชาติก็มาตรวจไม่ได้ ทำให้ยังโอนไม่ได้ แต่ก็โชคดีว่าคนที่มีกำลังซื้อก็ยังซื้ออยู่ ซึ่งหลังจากพนักงานเวิร์กฟรอมโฮม งานก็มีประสิทธิภาพ และเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัว ทำให้เรามองว่าอาจจะต้องนำมาปรับใช้กับออฟฟิศในอนาคต หลังจากหมดวิกฤต รวมทั้งต้องตามเทรนด์ให้ทัน ซึ่งหลังจากนี้คนคงจะชินกับการซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น

“ส่วนตัวเราก็พยายามปรับต่างๆ เท่าที่ทำได้ เวิร์กฟรอมโฮมบ้าง พยายามเข้าออฟฟิศให้น้อยที่สุด และอยู่บ้านเรา บ้านคุณพ่อ ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต นอกนั้นก็จะไม่ออกจากบ้านเลย ไปไหนก็จะกลัวไว้ก่อน หมั่นล้างมือตลอด”

Advertisement

“โชคดีที่เหมือนกับได้ฮันนีมูน 24 ชั่วโมงเลย”

และก็ทำให้ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก จากที่เคยออกไปเล่นกีฬาต่างๆ ก็หันมาออกกำลังกายที่บ้าน กับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งกรณ์บอกว่า ต้องทำให้ตัวเองแอคทีฟ เพราะหากอยู่เฉยๆ จะทำให้ขี้เกียจไปได้ รวมทั้งดูแลคนในครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อ ที่ต้องวัดไข้ทุกๆ วัน

ในช่วงเวลาที่หลายคนต่างประสบกับปัญหาเช่นนี้ กรณ์ยังได้ชวนศรีภรรยาออกไปให้ความช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนและมีความต้องการ ด้วยการบริจาคเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลราชวิถี และบริจาคถุงยังชีพให้กับชุมชนโค้งรถไฟยมราช ซึ่งกรณ์ได้พาพนักงานและครอบครัวมาร่วมแพคของแจกด้วยตัวเอง

กรณ์เผยว่า จริงๆ แล้วก็อยากเป็นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยสังคม เราก็เห็นว่าทุกคนล้วนลำบากในช่วงเวลานี้ หากช่วยได้ก็อยากจะช่วย สำหรับเครื่องช่วยหายใจนั้น ก็เป็นสิ่งที่โรงพยาบาลต้องการ ผมมองว่าไม่อยากจะช่วยเป็นเงิน แต่อยากให้ของที่เขานำไปใช้ได้เลย ก่อนจะไปบริจาคของ ก็ให้ทีมหาข้อมูลว่ายังมีชุมชนไหนที่ความช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึง ก็ได้คุยกับหัวหน้าว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งเขาก็อยากได้ข้าวสาร น้ำมันพืช นำไปใช้ได้จริง ตอนที่แพคของไปเราก็ได้สอนหลานไปด้วย ว่าตอนนี้นะ ทุกคนลำบาก เราก็ต้องไม่กินทิ้งกินขว้างนะ

“วันที่ได้ลงพื้นที่ ก็เห็นว่าทุกคนเหนื่อยกันหมด ไม่ว่าอาชีพใด เราก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านช่วงนี้ไปได้”

ออกกำลังกายอยู่บ้าน

ภาพจาก kornnarongdej

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image