สรรหามาเล่า…พิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวบรวมชีวิตผู้คนช่วง ‘ล็อกดาวน์’ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์

(เอเอฟพี)

สรรหามาเล่า…พิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวบรวมชีวิตผู้คนช่วง ‘ล็อกดาวน์’ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์

วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ชีวิตผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญกับ “การปรับตัว” เพื่อเอาชีวิตรอดครั้งยิ่งใหญ่ กำลังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในโลก เก็บรวบรวมข้อมูล และหลักฐานต่างๆ เพื่อบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ ได้ศึกษากัน

เบียทริซ เบห์เลน ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ลอนดอน (Museum of London) ในกรุงลอนดอน อังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า “นี่เป็นประสบการณ์ไม่ธรรมดา เมื่อเรารู้ว่าจะมีกาสั่งล็อกดาวน์ ปิดเมือง เราทีมงานก็เริ่มคุยกันว่า เราจำเป็นต้องหาข้าวของมาสะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูในอนาคต”

ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์ลอนดอน ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงแห่งนี้ ประกาศขอรับบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ จากชาวลอนดอนที่เจ้าตัวคิดว่าจะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงสภาพการใช้ชีวิตของพวกเขาในช่วงวิกฤตโควิด-19

“มันอาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่ช่วยให้คุณสบายใจ ยกตัวอย่างเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ อาจจะเป็นรองเท้าแตะคู่โปรดที่คุณใส่ทุกวัน หรืออาจจะเป็นอุปกรณ์ ข้าวของอื่นๆ ที่บางคนได้ลุกขึ้นมาหยิบจับ ได้ฝึกทักษะใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างเช่นทำอาหาร ถักไหมพรม หรือทำหน้ากากให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ สิ่งที่เราสนใจก็คือเรื่องราวเบื้องหลังสิ่งของเหล่านั้น ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อเจ้าของเหล่านั้น ซึ่งเราจะถามเรื่องราว ความเป็นมาว่าทำไมถึงบริจาคสิ่งของนี้ให้พิพิธภัณฑ์”

Advertisement
ปรบมือหน้าบ้าน (เอเอฟพี)

ขณะที่ พิพิธภัณฑ์ Museum of Home ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เช่นกัน พยายามรวบรวมสิ่งของ หลักฐานเกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึกของผู้คนในช่วงที่กักตัวอยู่บ้าน ซึ่งมีทั้งความรู้สึกสูญเสีย หวาดกลัว แต่ก็มีความรู้สึกปลอดภัย มีความหวัง และความรักอยู่ด้วย

ทาง Museum of Home เล่าว่า มีครอบครัวหนึ่งส่งคลิปที่แสดงให้เห็นถึงวิธีที่เขาตั้งจอหน้าโต๊ะกินอาหาร เพื่อจะได้แชร์บรรยากาศการนั่งกินอาหารมื้อนั้น และมื้ออื่นๆ กับญาติๆ ผ่านวิดีโอลิงก์ ขณะที่อีกครอบครัวส่งคลิปที่พวกเขาเปลี่ยนห้องนั่งเล่นเป็นสถานที่เย็บเสื้อกาวน์เพื่อนำไปแจกให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์แห่งบ้านยังขอให้ผู้คนช่วยส่งคลิปบอกเล่าความรู้สึกที่พวกเขามีเกี่ยวกับบ้านของพวกเขา ซึ่งตอนนี้บ้านของบางคนกลายเป็นออฟฟิศที่ทำงาน หลังจากต้องทำงานจากบ้าน บางคน บ้านกลายเป็นห้องเรียน เมื่อเด็กๆ ไปเรียนที่โรงเรียนไม่ได้ จึงต้องเรียนหนังสือจากบ้าน หรือบางคนต้องออกกำลังกายในบ้าน เพราะยิม สวนสาธารณะต่างๆ ปิดให้บริการ

Advertisement

โซเนีย โซลิคาริ ผู้อำนวยการ Museum of Home เล่าว่า “ดูเหมือนของที่เราได้รับบริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นสิ่งของที่สื่อให้รู้ถึงการที่ผู้คนเหล่านั้นต้องอดทนต่อสถานการณ์ และวิธีที่พวกเขาเปลี่ยนแปลง และปรับตัว”

โซเนียเล่าว่า เธอเองยังรู้สึกประหลาดใจที่เจ้าของสิ่งของ หรือเจ้าของคลิปต่างบอกเล่าอย่างเปิดเผย จริงใจ อย่างเช่นเจ้าของคลิปรายหนึ่งชื่อว่า อเล็กซ์ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักเล็กๆ ในแฟลตแห่งหนึ่งที่ไม่มีพื้นที่ด้านนอก บอกว่า เขารู้สึกราวกับติดคุก “แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังรู้สึกว่าผมโชคดีที่ยังปลอดภัย และไม่ต้องเจอปัญหาชีวิตคู่ เหมือนเพื่อนบ้านห้องข้างล่างที่ทะเลาะกันเป็นประจำ”

ส่วนที่ สวีเดน ก็มี พิพิธภัณฑ์ Nordiska ในกรุงสตอกโฮล์ม กำลังรวบรวมหลักฐานที่สะท้อนความรู้สึกของเด็กๆ ที่มีต่อชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป และพวกเด็กๆ มองอนาคตข้างหน้าอย่างไร ขณะที่ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย รูปถ่ายการฉลองวันเกิดในห้อง ที่ต้องจูบกันผ่านบานหน้าต่าง ได้กลายเป็นหนึ่งในข้าวของกว่า 1,800 ชิ้น ที่มีคนนำไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ของกรุงเวียนนา

“คุณต้องเก็บบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้เพื่อจะอธิบาย บอกให้ผู้คนในอีก 100 ปีได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าคุณไม่รีบลงมือทำเดี๋ยวนี้ คุณก็เสี่ยงที่อาจจะลืมความทรงจำเหล่านี้ไป” ซาราห์ เลสไซร์ หนึ่งในทีมงานของพิพิธภัณฑ์ในกรุงเวียนนากล่าว

แม่ชี (เอเอฟพี)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image