| ที่มา | คอลัมน์ World Update มติชนรายวันหน้า 20 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
สองดัชเชส ใช้ ‘กลยุทธ์แฟชั่น’ แบบเดียวกัน ใส่ต่างหูถูก-ชุดราคาแพง เพื่อเข้าถึงผู้คน
กลยุทธ์แฟชั่น – นอกจากชีวิตส่วนพระองค์ และบทบาทการทรงงานการกุศล ช่วยเหลือสังคม ที่ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หรือเคท มิดเดิลตัน พระชายาเจ้าชายวิลเลียม และ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายาเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ ต่างถูกสังคมจับตามอง เรื่องแฟชั่นการแต่งองค์ของดัชเชสทั้งสองก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในสายตาของผู้คนทั่วโลก และมีอิทธิพลต่อธุรกิจแฟชั่น ทำให้ผู้คนอยากแต่งตัวตามดัชเชสทั้งสอง กระทั่งสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่วงการแฟชั่น
แต่ล่าสุด มีผู้เชี่ยวชาญแฟชั่น ออกมาให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งมีพระชันษา 38 ปีเท่ากัน ยังมีสไตล์การแต่งตัวอย่างหนึ่งที่คล้ายกัน นั่นก็คือ ทั้งสองดัชเชสชอบสวม “ต่างหู” ราคาที่ชาวบ้านจับต้องได้ เข้าคู่กับชุดแฟชั่นราคาแพง ผลงานของดีไซเนอร์ดัง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแฟชั่นมองว่า นี่คือ “กลยุทธ์ด้านแฟชั่น” ที่ทำให้ดัชเชสทั้งสองเข้าถึงผู้คน
บทความในเว็บยาฮูเล่าว่า ที่ผ่านมา ดัชเชสเคท และดัชเชสเมแกน เคยสวมใส่ต่างหูราคาถูก เข้าคู่กับชุดแฟชั่นราคาแพงหลายครั้ง อาทิ ดัชเชสเมแกนเคยสวมต่างหูราคาคู่ละ 6 ดอลลาร์ หรือราว 185 บาท เข้าคู่กับชุดเดรสผลงานออกแบบของ วาเลนติโน (Valentino) ราคา 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 309,000 บาท ไปงานวิวาห์ของ มิชา โนนู ดีไซเนอร์ลูกครึ่งอังกฤษ-บาห์เรน แต่ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา
หรือเมื่อคราวเสด็จเยือนกลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกาเมื่อปีที่แล้ว ดัชเชสเมแกนทรงสวมต่างหูพู่สีแดงของ Madewell คู่ละ 30 ดอลลาร์ หรือราว 927 บาท เข้าคู่กับชุดผลงานของ ฮันนาห์ ลาเวอรี ดีไซเนอร์ท้องถิ่นของเคป ทาวน์
ขณะที่ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เคยสวมต่างหูกลีบดอกไม้แบบห้อยของ Accessorize ราคาคู่ละ 10 ดอลลาร์ หรือราว 309 บาท เข้าคู่กับชุดเดรสจากแบรนด์ Sandro Paris ราคา 222 ดอลลาร์ หรือราว 6,859 บาท
หรือเมื่อเสด็จไปงาน Back to Nature Garden ในกรุงลอนดอน เมื่อปีที่แล้ว ดัชเชสเคททรงสวมต่างหูจาก Accessorize ราคาคู่ละ 6 ดอลลาร์ หรือราว 185 บาท เข้าคู่กับชุดเดรสจากแบรนด์ Emilia Wickstead ราคา 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 61,800 บาท
ขณะที่เมื่อไม่นานนี้ ระหว่างวิดีโอคอลสนทนากับอาสาสมัครทั่วประเทศอังกฤษเพื่อฉลองสัปดาห์แห่งงานจิตอาสา ดัชเชสเคททรงสวมต่างหูคู่ละ 8 ดอลลาร์ หรือราว 247 บาทจาก Accessorize ใส่เข้าคู่กับชุดจาก M.I.H Jeans Mabel Shirt ราคา 284 ดอลลาร์ หรือราว 8,775 บาท
ซีซิล ดูโคส์ ผู้ช่วยนักออกแบบเครื่องประดับของบริษัทแฟชั่นแห่งหนึ่งในอังกฤษ ให้ความเห็นว่า นี่คือ กลยุทธ์ในการดึงดูดกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางสังคมและเศรษฐกิจ
“การรู้จักเลือกผสมผสานแฟชั่นที่มีราคาสูง กับแฟชั่นค้าปลีกที่ชาวบ้านสามารถซื้อหาได้ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง แฟชั่นเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง หรือจากดีไซเนอร์ดาวรุ่ง เป็นการสร้างความสนใจให้แก่โลกแฟชั่น การรู้จักเลือกผสมผสานได้อย่างเหมาะสม ลงตัว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้ และยังเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นด้วย และความรู้ในเรื่องนี้ยังสามารถสร้างความนิยม และความนิยมนั้นก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนแก่งานทางเมือง และทางการทูตที่พวกเธอให้การสนับสนุน นอกจากนั้น อีกด้านหนึ่ง สินค้าแฟชั่นที่มีราคาจับต้องได้ยังดึงดูดผู้คนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สามารถมีความสุขกับการแต่งตัว ถึงแม้จะไม่มีเงินพอจะซื้อหาสินค้าแฟชั่นจากดีไซเนอร์ การรู้จักเลือกใช้สินค้าแฟชั่นที่แพร่หลายยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนติดดินได้อย่างชาญฉลาดว่า แม้แต่เป็นราชวงศ์ก็ยังใช้สินค้าในที่เดียวกับคนทั่วไป และการรู้จักผสมผสาน จับคู่อย่างชาญฉลาดนี้ ก็เพื่อจะดึงดูดกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางสังคมและเศรษฐกิจ และมีอิทธิพลต่อความคิดเห็น ซึ่งในโลกของราชวงศ์ก็เหมือนกับโลกในชีวิตจริงทุกวันนี้ และนั่นก็คือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของแฟชั่น”
ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียม นักวิจารณ์ราชวงศ์ กล่าวว่า ถึงแม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า การเลือกมิกซ์ แอน แมตช์ แฟชั่นราคาแพง กับแฟชั่นราคาชาวบ้านจับต้องได้ จะเป็นสิ่งที่ดัชเชสเคท ดัชเชสเมแกน ตั้งใจใช้เป็น “กลยุทธ์” หรือไม่ก็ตาม แต่แน่นอนว่า ได้ทำให้ดัชเชสทั้งสองดูสามารถ “เข้าถึง” ได้มากขึ้นสำหรับแฟนๆ
“เราเคยได้รับการบอกเล่าถึงราคาชุดที่ราชวงศ์สวมใส่ว่ามีราคาแพงแค่ไหน เพราะว่าชุดเหล่านั้นต่างมีส่วนช่วยสร้างชื่อให้ดีไซเนอร์ ใครจะรู้ว่าพวกเธอซื้อชุดเหล่านั้นเพื่ออะไร? แต่การผสมผสานของราคาแพงกับของราคาชาวบ้าน ทำให้พวกเธอดูเข้าถึงได้มากขึ้น และพวกเธอก็รู้ดีว่า มันจะต้องถูกนำมาวิเคราะห์ พูดถึง และผลลัพธ์สุดท้ายนั่นแหละ คือสิ่งสำคัญที่แท้จริง”
