ความปวดเมื่อยเป็นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานให้ผู้คนมากมาย แม้บางรายที่อาการไม่รุนแรง แต่ก็ต้องหงุดหงิดรำคาญใจ ในขณะที่บางรายมีอาการหนักจนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก จึงต้องทำการบำบัดรักษาด้วยวิธีต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการนวดตามแบบภูมิปัญญาโบราณ ดังที่ นางนันทนา ทรัพย์สุวรรณ์ หมอนวดสลักเส้นแห่งอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ได้เปิดบ้านเพื่อให้บริการ ‘นวดสลักเส้น’ และ ‘นวดผ้าขาวม้า’
“การนวดแบบตอกเส้นคือผู้มีอาการเมื่อยขบที่จะถูกนวดทั้งหลายนอนลงกับพื้น หงายบ้างควํ่าบ้างตามจังหวะ แต่แทนที่ หมอนวด หรือคุณหมอจะใช้มือบีบไปตามกล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็นต่างๆ ของร่างกายตามแบบฉบับการนวดทั่วๆ ไป แต่ที่นี่ใช้ค้อนกับลิ่มไม้ขนาดประมาณ 10 เซนติเมตรเป็นเครื่องมือสำคัญ ตอกอย่างเบาๆ ไปตามเส้นในจุดต่างๆ ของร่างกาย” นางนันทนา กล่าวและว่า ด้วยศิลปะการตอกและความชำนาญ จะสามารถรู้ได้ว่าเส้นอยู่ตรงไหน ตอกแล้วลูกค้าส่วนใหญ่มักหายเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง ดังนั้นหมอนวดตอกเส้นจึงกลายเป็นที่พึ่ง ของคนปวดเมื่อย หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นโรคเหน็บชา ที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ ก็สามารถทุเลาลงได้ จึงมีผู้คนมาขอรับบริการจำนวนมาก
สำหรับการตอกเส้นเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยต่างๆ นั้น จะใช้เวลาแต่ละรายประมาณ 10 นาที จะสามารถบรรเทาอาการ ไปจนถึงหายปวดได้เลยก็มี สำหรับการนวดสลักเส้นนั้น เป็นการฟื้นฟูภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยที่สามารถแก้ปัญหาด้านสุขภาพได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ในการบำบัดรักษาโรคและนำมาประยุกต์ใช้ ให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องกินยา ซึ่งจะทำให้ไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายได้
