เคล็ดลับ ‘ซักผ้า’ สะอาดเนี้ยบ-ฆ่าเชื้อโรค มั่นใจห่างไกลโควิด 19
พอเข้าสู่หน้าฝน ปัญหาเรื่องการซักผ้าให้สะอาด หอมชื่นใจ ก็เป็นเรื่องหนักอกหนักใจของใครหลายคน ยิ่งในช่วงที่ยังต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดของโลกโควิด 19 การซักผ้าก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเสื้อผ้า อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อไวรัส หลังจากออกจากบ้านมาทั้งวันได้ แอลจี จึงแนะนำขั้นตอนการทำความสะอาดผ้า เพื่อให้ผู้บริโภคคลายความกังวลใจ ง่าย 3 ขั้นตอน
1.เลือกโปรแกรมการซักผ้าด้วยน้ำความร้อนสูงที่อุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่องค์การอนามัยโลก ระบุว่าสามารถยับยั้งการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ โดยเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ จะมีโหมดเลือกอุณหภูมิน้ำ หรือฟังก์ชั่น สตรีม ที่จะช่วยซักผ้าด้วยความร้อน 60-95 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้และแบคทีเรียบางชนิดในเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ใช้สารฆ่าเชื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อไวรัสขั้นเด็ดขาด โดยสามารถเลือกสารฆ่าเชื้อที่เหมาะสมกับเสื้อผ้าและความต้องการ ดังนี้
“สารฟอกขาวคลอรีน” ที่มีส่วนผสมของ “โซเดียมไฮโปคลอไรท์” ตั้งแต่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1,000 ppm (หน่วยความเข้มข้นเป็นสัดส่วนในล้านส่วน) ขึ้นไป สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและเด็ดขาด หาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูก โดยสามารถใส่สารฟอกขาวคลอรีนพร้อมน้ำยาซักผ้าได้เลย อย่างไรก็ตาม สารฟอกขาวชนิดนี้จะมีกลิ่นที่ค่อนข้างแรงจากคลอรีน มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะ อีกทั้งยังทำปฏิกริยากับเนื้อผ้าที่มีเส้นใยโปรตีน เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ และผ้าไนลอน เป็นต้น รวมถึงสีย้อมเกือบทุกชนิด จึงเหมาะกับการใช้งานเพื่อซักผ้าสีขาวเท่านั้น
“สารฟอกขาวเปอร์ออกไซด์” เพื่อฆ่าเชื้อโควิด-19 ต้องมีความเข้มข้นอย่างน้อย 0.5 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 5,000 ppm โดยมีคุณสมบัติในการกัดเชื้อไวรัสได้ค่อนข้างเร็ว (ช้ากว่าสารฟอกขาวคลอรีนเล็กน้อย) ไม่มีกลิ่น หาซื้อง่าย ราคาจับต้องได้ ส่งผลกระทบกับเสื้อผ้าและเนื้อผ้าน้อยมาก เหมาะกับการใช้งานเพื่อซักผ้าสี โดยสามารถใส่สารฆ่าเชื้อชนิดนี้พร้อมกับน้ำยาซักผ้าได้เลยข้อควรระวังในการใช้สารฟอกขาวเปอร์ออกไซด์คือ ห้ามสัมผัสโลหะ โดยเฉพาะสนิมเหล็กบนผ้า เพราะจะทำให้ผ้าฝ้ายเปื่อยขาดได้
“สารเบนซาโคเนียม คลอไรด์” หรือ “บีเคซี” (BKC) เป็นสารฆ่าเชื้ออีกหนึ่งชนิดที่สามารถกำจัดเชื้อโควิด-19 ได้ ถึงแม้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้ออาจไม่เท่ากับสารฟอกขาวคลอรีนและสารฟอกขาวเปอร์ออกไซด์ แต่บีเคซีมีคุณสมบัติในเกาะติดบนเสื้อผ้าได้เป็นเวลานาน จึงช่วยเสริมการปกป้องขณะที่สวมเสื้อผ้าออกไปข้างนอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังแทบไม่มีกลิ่น หาซื้อได้ในราคาไม่แพง ไม่ทำลายผ้าทุกชนิด และใช้ปริมาณไม่เยอะต่อการซัก 1 ครั้ง โดยหากใช้บีเคซีที่มีความเข้มข้น 50 เปอร์เซ็นต์ 1 ส่วน จะต้องผสมกับน้ำ 9 ส่วน และหากใช้บีเคซีที่มีความเข้มข้น 80 เปอร์เซ็นต์ 1 ส่วน จะต้องใช้ผสมกับน้ำ 15 ส่วน อย่างไรก็ตาม สารชนิดนี้ไม่สามารถใช้พร้อมกับน้ำยาซักผ้าในขั้นตอนแรกได้ และควรใช้ในขั้นตอนน้ำสุดท้ายเพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูงสุด
นอกจากนี้ บางคนอาจมีอาการแพ้ทางผิวหนัง และไม่ควรใช้กับเสื้อผ้าของเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี
3.ใช้เครื่องอบผ้าเพื่อคงความสะอาดของเสื้อผ้าไว้ หรือเพิ่มความมั่นใจอีกขั้นตอน ด้วยการเลือกใช้เครื่องอบผ้าทำให้ผ้าไม่ต้องสัมผัสอากาศภายนอกบ้าน
