นาโอมิ แคมป์เบล ซุปเปอร์โมเดลผิวสีตัวแม่ ย้ำ ถึงเวลาที่วงการแฟชั่นต้องเปลี่ยน
ย้อนไปหลายสิบปีก่อน ชื่อของ “นาโอมิ แคมป์เบล” นางแบบผิวสีชาวอังกฤษ ถือเป็นซุปเปอร์โมเดลระดับโลกที่บรรดาแฟชั่นนิสตาต่างรู้จักเป็นอย่างดี และเธอยังเป็นซุปเปอร์โมเดลผิวสีเพียงหนึ่งเดียวในวงการแฟชั่นยุค 1990s ทำให้แคมป์เบล มีประสบการณ์ตรงมากมายเกี่ยวกับ อคติเรื่องสีผิว เชื้อชาติ ที่เธอเจอมาในการทำงานวงการแฟชั่น
ล่าสุด ซุปเปอร์โมเดล ตัวแม่ในวัย 50 กล่าวผ่านวิดีโอ ระหว่างร่วมเปิดงานสัปดาห์แฟชั่นปารีส ของฝรั่งเศสเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานแฟชั่นโชว์ จากแต่เดิมที่มีนางแบบเดินโชว์ชุดของดีไซเนอร์ต่างๆ บนแคทวอล์ก มาเป็นแฟชั่นโชว์ทางออนไลน์ว่า ถึงเวลาแล้วที่วงการแฟชั่นจะต้องเปิดโอกาสให้ “ทุกคน” อย่างเท่าเทียมกัน
“ถึงเวลาแล้วที่วงการแฟชั่นจะต้องสร้างความเสมอภาคให้มากขึ้นด้วยรูปแบบที่สามารถตรวจสอบได้และสร้างความสมดุล” แคมป์เบลยังว่า กระแสเคลื่อนไหว Black Lives Matter “ชีวิตคนดำก็มีความสำคัญ” จะต้องถูกนำมาใช้ในวงการแฟชั่นด้วย
“นี่คือหัวข้อสนทนาที่กำลังเริ่มต้นขึ้นวันนี้ และจะคงอยู่ไปอีกนานตราบเท่าที่จำเป็น มันขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนและตัวคุณเองที่จะเริ่มให้มีการรวมบุคคลที่มีความหลากหลายที่มีอยู่ในประเทศของเราเข้าด้วยกัน และตอนนี้ยิ่งมีความจำเป็นยิ่งกว่าต้องรวมกลุ่มคนเหล่านั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอย่างถาวร และไม่ทำราวกับว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่มีตัวตน”
ที่ผ่านมา แคมป์เบลไม่เคยปิดเรื่องที่เธอเคยถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรมในวงการแฟชั่น นับตั้งแต่วันแรกๆ ที่เธอได้ย่ำบนแคทวอล์ก และเป็นซุปเปอร์โมเดลผิวสีเพียงหนึ่งเดียวในยุค 1990s.
ในอดีตที่ผ่านมา แคมป์เบลเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันอาจถูกมองว่าเป็นหนึ่งในซุปเปอร์โมเดลระดับโลก แต่ไม่มีทางที่ฉันจะทำเงินได้เท่ากับซุปเปอร์โมเดลคนอื่นๆ”
แคมป์เบลเล่าว่า กว่าเธอจะได้เซ็นสัญญากับบริษัทเครื่องสำอาง ก็ปาเข้าไปปี 2542 และเคยให้สัมภาษณ์แบบตรงไป ตรงมากับหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษว่า “วงการนี้ คือการขาย และสาวผมบลอนด์ ตาสีฟ้า คือสิ่งที่พวกเขาขาย”
ในวิดีโอ แคมป์เบล ฝากว่า “การต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมและความหลากหลาย เป็นการต่อสู้ที่มีมานานแล้วในสังคม และในอุตสาหกรรมแฟชั่น และเรายังต้องต่อสู้กันไปอีกยาวไกล และวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเรียกร้องให้วงการแฟชั่นจัดการเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียม”
ในการเรียกร้องขอความร่วมแรง ร่วมใจกัน ซุเปอร์โมเดลรุ่นใหญ่ได้ยกคำพูดของ อดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว และเป็นบุคคลเธอให้เคารพนับถือที่สุด และเคยมีโอกาสเจอกันมาหลายครั้งว่า “ท่านเคยพูดว่า วิสัยทัศน์ที่ไม่มีการลงมือทำ มันก็คล้ายกับการฝันกลางวัน แต่วิสัยทัศน์ที่มาพร้อมกับการลงมือทำเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้”
ที่ผ่านมา แคมป์เบลเคยเดินแบบให้กับผลงานของ Kenneth Ize ดีไซเนอร์ชาวไนจีเรีย ที่มีผลงานคอลเล็กชั่นแรกออกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยดีไซเนอร์วัย 29 พูดยกย่องแคมป์เบลว่า เธอคือแม่ทูนหัว นางฟ้าของเขา
“นาโอมิ ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น และเธอก็มีส่วนร่วมในการเดินทางนี้นับแต่วันแรก”
