นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอนุรักษ์และฟื้นฟู การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง กับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ซึ่งไม่เพียงแต่โขนจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชมมากขึ้นเท่านั้น แต่เหล่าช่างฝีมือผู้รังสรรค์ศิลปะชั้นสูงของไทยก็ยังกลับมามีผู้สืบทอดอีกครั้ง อาทิ ฉากโขน ผ้า รวมไปถึง ศิลปะการทำหัวโขน ซึ่งส่วนหนึ่งรวบรวมไว้ ณ ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวว่า เมื่อปี 2549 นั้นชาวสีบัวทองประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนัก ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนมากมาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงรับประชาชนเหล่านี้มาฝึกอาชีพ แรกเริ่มก็แกะสลักไม้ที่ฝังอยู่ใต้ดินต่างๆ และเริ่มทำเซรามิก ซึ่งเป็นแห่งเดียวที่ทำเครื่องชามบนโต๊ะเสวย ทอผ้าพื้นต่างๆ จนเมื่อทำโขนพระราชทาน เราจึงได้นำเอาผ้าทอต่างๆมาทำที่นี่ จนสามารถทอผ้ายกจากเมืองนครศรีธรรมราชที่หายไปกว่า 100 ปี ด้วยลายราชสำนักได้ นอกจากนี้เรายังได้ริเริ่มทำหัวโขนจากกระดาษข่อยขึ้นมาได้ โดยหวังว่าในอนาคตจะสามารถผลิตสิ่งต่างๆด้วยฝีมือของช่างศิลปาชีพได้
สำหรับ ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองนั้น พล.ร.อ.สำเภา พลธร ผู้จัดการศูนย์ศิลปาชีพ กล่าวว่างานหลักๆของที่นี่นั้น ในปัจจุบันเรียกว่ามีส่วนสำคัญในการผลิตเครื่องโขนต่างๆ ทั้งยังมีงานฝึกอาชีพอื่นๆ แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนต่างๆ เริ่มจากการทอผ้า ตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม สาวเส้นไหม ย้อมสีไหม โดยเน้นการทอสีธรรมชาติ โดยทอผ้ายกในราชสำนัก แทนผ้านำเข้าจากอินเดีย มีความทนทานและใช้ในการแสดงโขนได้จริง ทอลายอย่างลายราชวัตร ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ มูลค่ากว่าแสนบาท ซึ่งได้ใช้ในการแสดงมาแล้ว 2 ครั้ง
การปักผ้า ซึ่งนอกจากจะฝึกปักลายธรรมดาแล้ว ยังมีการปักผ้าลายโขนต่างๆ ซึ่งกว่าจะเป็นผ้าผืนหนึ่งต้องปักถึง 17 ชิ้น ใช้เวลาหลายเดือนด้วยกัน
การทำเซรามิก ชุดกาแฟ เครื่องแก้วต่างๆ ในลวดลายดอกไม้งดงามอย่างลั่นทม บัวหลวง และดอกไม้พระนาม ซึ่งเป็นที่เดียวที่สามารถผลิตเครื่องเซรามิกที่ใช้บนโต๊ะเสวย
และการทำหัวโขนจากกระดาษข่อย ที่ใช้เอาภูมิปัญญาพื้นบ้านจากการทำสมุดข่อยเมื่ออดีต มาผลิตกระดาษข่อยในการขึ้นหัวโขน ทดแทนการทำงานแกะสลัก ด้วยไม่ต้องการจะตัดไม้เพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ ผู้สนใจสามารถชมความงามที่จะไปปรากฏในการแสดงโขนพระราชทานตอน พิเภกสวามิภักดิ์ ตั้งแต่ 5 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคมนี้ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สามารถซื้อบัตรได้แล้ว ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา