“เอ็ดเท็ค” ระดมความคิดวางกลยุทธ์เพื่อความก้าวหน้าของธุรกิจเทคโนโลยีทางการศึกษาของเอเชีย

ผู้บริหารและตัวแทนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการศึกษา หรือเอ็ดเท็ค (Edtech) ของประเทศต่างๆในเอเชียเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีทางการศึกษา “Edtech Asia Summit 2016” ณ หอประชุมใหญ่ ชั้น 9 อาคารศศปาฐศาลา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา นายทรูแมน ฟาม ผู้บริหารและผู้แทนของกลุ่ม Topica Edtech ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในผู้อภิปรายในหัวข้อ “Cultivation of Education Entrepreneur Leadership in Asia” ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการศึกษาและเทคโนโลยีสู่การเป็นนักธุรกิจชั้นนำของเอเชีย สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 200 คนจาก 20 ประเทศทั่วเอเชียและทั่วโลก

การประชุมในปีนี้ยังได้มีการจัดบรรยายในหัวข้อที่น่าสนใจต่างๆ โดยมีวิทยากรและผู้บริหารธุรกิจทางการศึกษาที่ประสบความสำเร็จกว่า 60 คนจากทั่วโลกมาสร้างแรงบันดาลใจให้แก่บรรดาสตาร์ทอัพหน้าใหม่เกี่ยวกับแนวทางในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกและบอกเล่าประสบการณ์ของมืออาชีพให้ผู้เข้าร่วมงานฟังมีผู้บรรยายระดับแถวหน้า อาทิ Mr. Sandeep Aneja ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร ไคเซ็น ไพรเวท อีควีตี (Kaizen Private Equity) อีกท่านคือ Ms. Allison Baum ผู้จัดการหุ้นส่วน เฟรสโก แคปปิตัล (Fresco Capital) และ Ms. Rachel Brujis ผู้จัดการฝ่ายลงทุน ของ เพียร์สัน (Pearson) รวมทั้ง ทรูแมน ฟาม ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของกลุ่ม Topica Edtech ได้อภิปรายในหัวข้อ “Cultivation of Education Entrepreneur Leadership in Asia การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการศึกษาและเทคโนโลยีสู่การเป็นนักธุรกิจชั้นนำของเอเชีย” ใจความสำคัญของการอภิปรายกล่าวถึงสถานการณ์เทคโนโลยีทางการศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอกาสของการทำธุรกิจในวงการนี้

นายฟาม กล่าวว่า “ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเริ่มเข้าสู่ตลาดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีการศึกษาในรูปแบบใหม่ที่เป็นการศึกษาแบบเปิดเกิดขึ้น จากนั้นก็ซบเซาลงพักหนึ่ง แต่ไม่นานมานี้กลับมีการลงทุนในธุรกิจด้านนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เช่นกัน จากการสำรวจเมื่อเร็วๆนี้ในประเทศเวียดนามเพียงประเทศเดียวแสดงให้เห็นว่ามีธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา100ราย เหมือนตอนเกิดธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเมื่อ 7-8 ปีก่อน ปัญหาหนึ่งที่สตาร์ทอัพทั่วโลกมักจะเจอเหมือนๆ กัน นั่นก็คือปัญหาการไม่ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการศึกษา แม้แต่สตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ก็เจอปัญหานี้เช่นกัน วิธีแก้ปัญหานี้ก็คือควรเน้นการเรียนในกลุ่มผู้ใหญ่เพราะเป็นกลุ่มที่มีกฎเกณฑ์น้อยที่สุดและคนกลุ่มนี้สามารถตัดสินใจเรื่องการเรียนได้เองแต่ถ้ามุ่งไปที่กลุ่มนักเรียนประถมหรือมัธยมก็จะเจอปัญหาเพราะคนที่จะตัดสินใจเรื่องการเรียนของเด็กกลุ่มนี้มักไม่ใช่พ่อแม่ แต่กลับเป็นครูใหญ่หรือบางทีก็เป็นผู้บริหารเขตการศึกษาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ในการทำธุรกิจควรมุ่งเจาะตลาดกลุ่มผู้ใหญ่จะดีกว่า”

นายฟาม ยังให้ความเห็นว่าอุปสรรคอีกอย่างของการพัฒนาธุรกิจทางการศึกษา คือ ความเชื่อที่ว่าคนที่ประกอบอาชีพเป็นครูหรืออาจารย์ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นชั้นอนุบาล – มหาวิทยาลัยมักมีรายได้น้อยจึงทำให้คนรุ่นใหม่สนใจที่จะประกอบอาชีพอื่นที่จะสร้างรายได้ให้มากกว่า ซึ่งทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งด้านจำนวนและคุณภาพของบุคลากรทางการศึกษา อย่างไรก็ตาม Pham คิดว่าอาชีพครูหรืออาจารย์ในเวียดนามและไทยมีแนวโน้มจะมีรายได้เพิ่มขึ้นภายใน 5 ปีจากนี้ โดยยกตัวอย่างอาจารย์ 3 ท่านที่ทำคอร์สเรียนแบบออนไลน์เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะและความชำนาญทั่วไปให้แก่บริษัทในเครือของ Topica อย่าง Topica Edumall ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเองถึง 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเดือน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ดังเช่นอาจารย์ 3 ท่านนี้ พวกเขาสามารถสร้างรายได้จำนวนมากเพราะตั้งใจทำงานออกมาให้ดี ทั้งเตรียมหลักสูตร บทพูด และถ่ายวิดีโอเพื่อปรับแต่งการพูดและการนำเสนอ รวมทั้งฟังผลตอบรับทั้งจากออนไลน์และออฟไลน์ เป้าหมายของพวกเขาคือต้องการให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจอย่างแท้จริงในหลักสูตรที่เขาสอนโดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จสูงสุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image