6 สิ่งที่ควรทำ หากไม่อยากอารมณ์เสียบนท้องถนน

อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะจัดอันดับ “รถติด” ครั้งไหนก็ไม่เคยหลุดจากตารางคะแนนไปสักครั้ง ทำเอาทุกคนคงต้องเคยเผชิญกับปัญหารถติดกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเจอคนขับรถไม่ระมัดระวัง หรือการขับขี่ในสภาพอากาศย่ำแย่ ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้ ดังนั้น การเรียนรู้เพื่อรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้สามารถบริหารความตึงเครียดและช่วยให้เดินทางถึงที่หมายโดยปลอดภัยได้ ผ่านสิ่งที่ควรทำ 6 ประการดังนี้

1.เผื่อเวลาสำหรับการล่าช้า สิ่งนี้อาจจะฟังดูสิ้นคิด แต่การไม่เผื่อเวลาในการเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปร่วมงานสังสรรค์ ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้น คุณควรเผื่อเวลาสำหรับสิ่งไม่คาดคิดที่อาจทำให้เกิดความล่าช้า เช่น หากคุณต้องเผชิญรถติด ระบบนำทางในรถบางคันสามารถสั่งงานด้วยเสียง คุณจึงมีผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยหลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด และช่วยค้นหาตัวเลือกอื่นๆ และเมื่อถนนแออัดน้อยลง รถติดน้อยลง สภาพการขับขี่ก็ตึงเครียดน้อยลงไปด้วย

2.พักผ่อนบ้าง การขับรถขณะร่างกายเหนื่อยล้าทำให้เกิดความตึงเครียดและก่อให้เกิดอันตรายได้ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่มก่อนออกเดินทางช่วยให้เราสงบและมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น นอกจากนี้ การพักผ่อนเป็นระยะๆ ระหว่างเดินทางก็จำเป็นเช่นเดียวกัน รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบแจ้งเตือน จะสามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาควรหยุดพัก หากตรวจจับได้ว่าคุณเริ่มขับรถส่ายไปมาซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการเหนื่อยล้า

3.เมื่ออารมณ์รื่นเริง การขับขี่ก็รื่นรมย์ ลองให้รถยนต์เป็นตัวช่วยตอกย้ำความสนุกสนานในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงที่คุณชื่นชอบ เพลย์ลิสต์หรือคลื่นวิทยุที่ถูกใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยขจัดความตึงเครียดและความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นขณะรถติดได้ คุณรู้หรือไม่ว่า การเปิดเพลงด้วยระดับเสียงที่เหมาะสมจะทำให้การขับขี่เพลิดเพลินและช่วยให้จิตใจสงบอีกด้วย

Advertisement

Six Things to Prevent Road Rage_1

4.ขับรถด้วยความนุ่มนวล หากการเผาผลาญน้ำมัน (รวมถึงเงินของคุณด้วย) ขณะรอรถติดอยู่เฉยๆ ก่อให้เกิดความตึงเครียด ขอให้คุณระลึกไว้ด้วยเช่นกันว่า การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่นี้จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งเพื่อขยับรถไปอีก 5 เมตร และเพื่อที่จะต้องเบรกรถอีกครั้ง การเหยียบคันเร่งและเบรกอย่างนุ่มนวลในสภาพการจราจรที่เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวขยับ จะช่วยให้น้ำมันคงอยู่ในถังได้ยาวนานยิ่งขึ้น

5.เผื่อพื้นที่ให้กับตัวเองบ้าง การขับจี้ท้ายรถนั้นอันตรายสำหรับทุกคน และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย คุณควรทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและรถคันข้างหน้า ระบบควบคุมความเร็วที่ใช้เรดาร์ในการวัดระยะนั้นมีประโยชน์ เพราะช่วยในการรักษาระยะห่างระหว่างรถ ตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าของฟอร์ดที่มาพร้อมเทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อตรวจจับได้ถึงความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันข้างหน้า และหากคุณพบว่ากำลังถูกจี้ท้าย คุณอาจต้องหาพื้นที่ปลอดภัยโดยหลบเข้าข้างทาง และปล่อยให้รถคันนั้นขับไปก่อน ไม่คุ้มเสียเลยที่ต้องเสียพลังงานอันมีค่าให้กับคนขับนิสัยเสียเหล่านี้

Advertisement

6.ขับรถไปและปล่อยมันไป เมื่อคุณตั้งใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัย อย่าบีบแตร อย่าจ้องตาเขม็ง หรือใช้ภาษามือหยาบคาย แต่ลองหันมาหายใจเข้าลึกๆ ถึงแม้ว่าคุณจะควบคุมการจราจรและคนขับรถคนอื่นๆ ไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมตัวเองได้ การนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ทะเลาะเบาะแว้งถือเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างหนึ่ง และมันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณออกไปจากพื้นที่รถติดเร็วขึ้นเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image