ได้เวลาแพคกระเป๋าเที่ยวภูเก็ต ชิล ‘เรือเฟอร์รี่ไฟฟ้า’ ลำแรกในไทย

default

ได้เวลาแพคกระเป๋าเที่ยวภูเก็ต ชิล ‘เรือเฟอร์รี่ไฟฟ้า’ ลำแรกในไทย

ดั่งต้องมนต์เสน่ห์ พลันได้เห็นภาพถ่ายและคลิปวิดีโอผู้คนรู้จักไปเที่ยว จ.ภูเก็ต แล้วอัพลงโซเชียลมีเดีย ได้เห็นน้ำทะเลใส หาดทรายขาวๆ น่าหลงใหล ไหนจะอาหารการกินมีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตึกรามบ้านช่องก็สวยงาม ยิ่งย่านเมืองเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส หากได้ไปถ่ายรูปคงเก๋ไม่เบา แต่ก็อาจลังเลอยู่บ้างกับข้อมูลติดหูมา ว่าเป็นจังหวัดที่ค่าครองชีพสูง กินเที่ยวแพง ไหนจะต้องระวังโควิด-19 ระบาดอีก จนแพสชั่นแผ่วไป

แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และคงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่สุด หากเราไม่เที่ยวภูเก็ตตั้งแต่ตอนนี้ ชวนรับรู้ในโอกาสที่บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) จัดทริปเปิดตัว “เรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเล” ลำแรกของประเทศไทย ณ ท่าเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต

เรือเฟอร์รี่พลังงานไฟฟ้า

เอกรัตน์ แซ่หนา ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวภูเก็ต เล่าว่า เป็นที่ทราบดีว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวมา จ.ภูเก็ตลดลงไปมาก แม้จะส่งผลกระทบต่อรายได้ท่องเที่ยวไปมาก แต่ก็พบว่าได้ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและสัตว์น้ำได้ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์ขึ้นมาก อย่างกุ้งหอยปูปลาที่ช่วงหลังเริ่มหายไป ตอนนี้กลับมามาก น้ำทะเลก็ใสสะอาด ขยะในทะเลก็ลดลงไปมาก

Advertisement

“ต้องบอกว่ามาเที่ยวภูเก็ตตอนนี้ เหมือนได้เที่ยวแบบวีไอพี เพราะตามเกาะต่างๆ จากผู้คนเคยพลุกพล่าน เดินแทบจะไหล่เบียดไหล่ ตอนนี้ยืนโล่งๆ ถ่ายรูป ได้สัมผัสธรรมชาติเต็มตา ส่วนจะพายเรือแคนูชมเกาะรอดถ้ำต่างๆ แต่ก่อนต้องต่อแถวพายกัน เยอะจนเหมือนตลาดน้ำ แต่ตอนนี้พายชมวิวสบายๆ ถ่ายรูปสวยๆ”

“ที่สำคัญตอนนี้ราคากินเที่ยวในภูเก็ตก็ลดลงไปมาก ทำให้หลายคนสามารถเที่ยวและถ่ายรูปตามรอยดาราและคนดังที่ชื่นชอบได้ อย่างขึ้นเรือยอชต์ สมัยก่อนโควิดระบาดต้องจ่ายเงินกว่าครึ่งแสน ถึงจะออกเรือได้ แต่เดี่ยวนี้หมื่นต้นๆ ก็ออกได้แล้ว ยิ่งหารกัน 10 กว่าคน ตกเฉลี่ยหัวละกว่า 1 พันบาทเอง ก็สามารถเอาเรือออกไปถ่ายรูปสวยๆ กินอาหารดีๆ ได้ เช่นเดียวกับโรงแรม 5 ดาว ตอนนี้ลดราคาลงมาเยอะ หลายแห่งยังเข้าร่วมกับมาตรการเที่ยวด้วยกันของรัฐบาลอีก ทำให้นักท่องเที่ยวระดับกลางและล่างสามารถเข้าถึงได้ ฉะนั้น ตอนนี้ถือเป็นโอกาสทองที่ควรมาเที่ยว เพราะหากโควิด-19 เลิกระบาด หรือเปิดประเทศแล้ว ไม่รู้จะมีโอกาสทองอย่างนี้อีกไหม”

ส่วนเรื่องโรคระบาด นักท่องเที่ยววางใจได้ เพราะภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่พร้อมใจยกการ์ดสูง เข้มตั้งจุดคัดกรองโรคก่อนเข้าสถานที่ บังคับนักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัย 100% และในโอกาสที่ธรรมชาติเริ่มกลับมาสมบูรณ์ เริ่มมีความคิดในการรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลให้สมบูรณ์ยั่งยืน ด้วยการเริ่มลงทุนเปลี่ยนเรือท่องเที่ยวพลังงานน้ำมันเดิม มาเป็นพลังงานไฟฟ้า

เกาะห้อง
พายเรือแคนูเที่ยวเกาะห้องแบบวีไอพี
เอกรัตน์ แซ่หนา

ไชยา ระพือพล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ต พัชทรี ทัวร์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเจ้าของเรือพลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทย เผยว่า ตลอด 25 ปีที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวมา ธรรมชาติได้สร้างรายได้ให้กับเรามากมาย แต่เรากลับสร้างความสกปรกให้ธรรมชาติ ผมตระหนักและอยากอนุรักษ์เส้นทางทำกิน จึงเริ่มเชิญชวนเพื่อนๆ ผู้ประกอบการให้หันมาใส่ใจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยทำบริษัทตัวเองให้เป็นตัวอย่าง จึงซื้อเรือพลังงานไฟฟ้ากับบริษัทบ้านปู ที่สามารถแล่นออกไปแล้วไม่ทิ้งคราบน้ำมันลงทะเล ไม่มีกลิ่นควันจากท่อไอเสียรบกวน อีกทั้งล่าค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงาน และบำรุงรักษาจากเรือพลังงานน้ำมันลดได้หลายเท่า

สำหรับ เรือพลังงานไฟฟ้าลำแรก นี้ ขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 625 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่วางกลางลำ ช่วยลดความสะเทือนในการเดินทางได้ ตัวเรือมีความยาว 20 เมตร สามารถจุผู้โดยสารนั่งได้ 74 ที่นั่ง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 90 คน สามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็ว 15 นอต หรือประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สำคัญมีระบบบริหารจัดการพลังงาน สามารถสร้างเสถียรภาพตลอดการเดินทางได้ โดยในการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้เดินทางได้ 6 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยวสัมผัสเส้นทางแรก คือ ท่าเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต ไปยังเกาะเจมส์บอนด์ และบริเวณอ่าวพังงา จ.พังงา ค่าบริการ 3,500 บาทต่อหัว รวมค่าบริการพาเที่ยว อาหารบนเรือ และประกันภัย

“การลงทุนตรงนี้ ไม่เพียงตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่จะตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เทรนด์ท่องเที่ยวฝั่งยุโรปซึ่งเป็นรายได้หลักของภูเก็ต เขาจะเลือกเที่ยวกับธุรกิจโรงแรม สายการบิน และบริการต่างๆ ที่มีเครื่องหมายกรีน ก็เชื่อว่าจะช่วยยกระดับธุรกิจให้สามารถแข่งขันขึ้นได้ดีขึ้นอีก” ไชยากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

หน้าจอบอกสถาะการทำงานเรือ
ภายในตัวเรือ
ชาร์จไฟฟ้าด้วยปลั๊ก
ไชยา ระพือพล

ขณะที่ สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปูฯ เล่าว่า เรือพลังงานไฟฟ้านี้ เป็นหนึ่งในโครงการสมาร์ทซิตี้ของ จ.ภูเก็ต ที่ตอนนี้แต่ละท่าเรือได้ทยอยติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า ผู้ประกอบก็สนใจและสั่งซื้อเรือท่องเที่ยวพลังงานไฟฟ้ามีออเดอร์แล้ว 27 ลำ ลำละ 35 ล้านบาท เทียบกับเรือท่องเที่ยวพลังงานน้ำมันลำละ 20 ล้านบาท แม้จะลงทุนสูงกว่า แต่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษาที่ดีกว่ามาก รวมถึงนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเช่า ซึ่งบ้านปูจะมานำร่องให้บริการในจังหวัดภูเก็ตเร็วๆ นี้ ทั้งหมดนี้เพื่อต้องการสร้างการท่องเที่ยวมิติใหม่ ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง และใส่ใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

สมฤดี ชัยมงคล

ออกไปเที่ยวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image