ประกันสุขภาพที่ “ผู้หญิง” ยุคใหม่ต้องมี

ผู้หญิงส่วนใหญ่มักให้ความใส่ใจกับสมาชิกในครอบครัวจนลืมการดูแลสุขภาพตัวเองไปซะสนิท แต่ไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันทั้งทานอาหารไม่เป็นเวลา ความเครียดจากการทำงาน รวมถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุต่างๆ อาจทำให้สุขภาพของสาวๆ ย่ำแย่ได้ง่ายๆ จนต้องพึ่งพามือคุณหมออยู่บ่อยๆ โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าปี 2559 ค่ารักษาพยาบาลของคนไทยโดยรวมมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 344,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ก็อาจต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ได้ง่ายๆ

เค เอ็กซ์เปิร์ต บริการที่ปรึกษาด้านการเงิน ธนาคารกสิกรไทย จึงให้คำแนะนำไว้ว่า ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น กับปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน และอัตราค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้หญิงจึงควรเตรียมตัวรับมือกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นด้วยการซื้อประกันสุขภาพ ที่ช่วยจัดการความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยได้ โดยประกันหลักๆ ที่ผู้หญิงควรมี ได้แก่

ประกันคุ้มครองการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ที่จะแบ่งเป็นประกันที่คุ้มครองขณะตั้งครรภ์ เช่นทารกในครรภ์เสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด หรือการผ่าตัดเนื่องจากภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก และประกันคุ้มครองหลังการคลอดบุตร อย่างคุณแม่หรือทารกเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ทารกมีโรคประจำตัวแต่กำเนิด เป็นต้น

ประกันโรคร้าย จากสถิติการเสียชีวิตของคนไทยพบว่า ทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีคนเสียชีวิตจาก 5 โรคหลัก ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และโรคความดันโลหิตสูง ยิ่งใครที่มีคนในครอบครัวหรือญาติพี่น้องมีประวัติการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง ก็ยิ่งควรทำ เพราะค่ารักษาครั้งหนึ่งอาจสูงถึงหลักแสนหรือหลักล้าน ถ้ามีเงินเก็บไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อการเงินได้ โดยสามารถเลือกประกันแบบคุ้มครองโรคที่พบมากๆ หรือประกันคุ้มครองครอบคลุมกว่า 50 โรค ซึ่งเบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วย

Advertisement

Woman3

สิ่งสำคัญ คือ ควรพิจารณารายละเอียดความคุ้มครองจากกรมธรรม์อย่างรอบคอบ เช่น ให้ความคุ้มครองโรคมะเร็งเฉพาะระยะลุกลามหรือคุ้มครองมะเร็งทุกระยะ และในส่วนของประกันสุขภาพโรคร้ายแรง ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครอง 30-40 โรคร้ายแรง ในบางกรมธรรม์เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่งแล้ว เมื่อบริษัทประกันจ่ายเงินชดเชยให้จะถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุดลงทันที แต่บางกรมธรรม์ยังคงให้ความคุ้มครองสำหรับโรคร้ายแรงอื่นๆ อยู่

นอกจากนี้ การจะทำประกันสุขภาพยังต้องคำนึงด้วยว่า การซื้อประกันนั้นมีวิธีชำระแบบใด เช่นอาจเป็นแบบแยกค่าใช้จ่าย หรือเหมาจ่าย หากมองว่าแต่ละครั้งที่เจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงมากนัก ก็อาจเลือกทำแบบแยกค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการได้รับความคุ้มครองจากประกันให้ครอบคลุมค่ารักษามากที่สุด ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะเหมาะกว่า แต่ก็มีค่าเบี้ยสูง เนื่องจากไม่มีการจำกัดวงเงินค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ

Advertisement

และต้องคำนึงด้วยว่าเราซื้อประกันในแบบผู้ป่วยใน หรือซื้อเพิ่มเติมผู้ป่วยนอกประกันสุขภาพโดยทั่วไป ซึ่งจะคุ้มครองค่ารักษากรณีที่เป็นผู้ป่วยใน คือ สามารถเบิกเคลมค่ารักษาจากประกันได้เมื่อมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง หรือป่วยด้วยโรคที่จัดอยู่ใน Day Case คือ เป็นโรคที่เมื่อรับการรักษาแล้ว ไม่ต้องแอดมิต สามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ และเพียงวันเดียวก็ทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่หากเป็นแบบผู้ป่วยนอก มักต้องซื้อเพิ่มเติม แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อครั้งมักไม่สูงนัก แต่โดยส่วนใหญ่ คนเรามีโอกาสเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ได้บ่อยกว่าการเจ็บป่วยแบบที่ต้องนอนโรงพยาบาล

เพราะเรื่องสุขภาพ ประมาทไม่ได้

Woman2

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image