ภัยใกล้ตัวผู้หญิง ‘มะเร็งปากมดลูก’ รู้ทันป้องกันได้

ภัยใกล้ตัวผู้หญิง ‘มะเร็งปากมดลูก’ รู้ทันป้องกันได้

โรคมะเร็ง แค่ได้ยินชื่อหลายคนก็เกิดความกังวลเพราะเป็นโรคที่มีอัตราเสียชีวิตสูง ขณะเดียวกันในกลุ่มมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรี อย่าง “มะเร็งปากมดลูก” นั้น มีการศึกษาถึงสาเหตุของการเกิดโรคและพบว่าสามารถป้องกันได้

แต่ก็ยังมีสตรีชาวไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 10 คน

สำหรับ โรคมะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า HPV (Human Papilloma Virus) จากการสัมผัสสารคัดหลั่ง หรือมีเพศสัมพันธ์ที่มีคู่หลายคนๆ และอาจมีการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นร่วมด้วย

ผศ.พญ.ดวงมณี ธนัพประภัศร์ ศัลยแพทย์มะเร็งสูตินรีเวช โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพวัฒโนสถ เผยว่า ปัญหาที่สำคัญของผู้ที่ติดเชื้อ HPV คือ “ไม่มีอาการแสดง” ดังนั้นจะไม่รู้ตัวและสามารถกระจายเชื้อไวรัสไปสู่คนอื่นๆ ได้

Advertisement

ทั้งนี้อาการแสดงของมะเร็งปากมดลูก ระยะก่อนมะเร็ง หรือระยะเริ่มต้นของโรคนี้ จะไม่มีอาการแสดงที่ผิดปกติ แต่ถ้าระยะของโรคมะเร็งเป็นมากพอสมควร อาจมีอาการประจำเดือนผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติ (Abnormal vaginal bleeding) การมีระดูขาวที่ผิดปกติมีกลิ่นเหม็น หากกระจายไปยังอวัยวะอื่น อาจมีอาการปวดท้อง ถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือดได้

แต่เพื่อความมั่นใจ เมื่อมีอาการผิดปกติควรเข้าพบแพทย์ทันที โดยเข้ารับการตรวจภายในเพื่อเอาเซลล์จากปากมดลูกมาตรวจที่เรียกกันว่า ตรวจแป๊ปสเมียร์ (Pap Smear) และถ้าตรวจร่วมกับการหาเชื้อไวรัส HPV(HPV DNA Test) จะทำให้ได้รับความชัดเจนเพิ่มขึ้น หากผลผิดปกติต้องตรวจด้วยการส่องกล้องขยายดูปากมดลูกเพื่อค้นหาบริเวณที่ผิดปกติ และจะทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติ วางแผนการตรวจเพื่อบอกระยะของโรคและวางแผนการรักษาได้ถูกต้อง

Advertisement

สำหรับการรักษาระยะเริ่มต้นอาจจะรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น ตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย การตัดมดลูกพร้อมๆ กับเลาะเอาต่อมน้ำเหลืองออก ผู้ป่วยบางรายต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยรังสีรักษา การฉายรังสีด้วยเครื่องฉายรังสี และการใส่แร่ บางรายพิจารณารักษาร่วมกับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด การรักษาด้วยเคมีบำบัดอย่างเดียวใช้ในกรณีที่มะเร็งกระจายไปมากพอควร ซึ่งไม่สามารถให้รังสีรักษาหรือทำการผ่าตัดได้

มะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้ หากสตรีทุกท่านใส่ใจในสุขภาพของตัวเอง ด้วยการตรวจสุขภาพประจำปี และสามารถฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ก็สามารถลดอัตราเสี่ยงลงได้อย่างน้อย 70 % และถ้าร่วมกับการตรวจ Pap Smear และค้นหา High Risk HPV DNA เป็นประจำตามที่แพทย์แนะนำ จะสามารถป้องกันมะเร็งของปากมดลูกได้

ผศ.พญ.ดวงมณี ธนัพประภัศร์
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image