คู่รักอังกฤษเชื่อ ‘รักชนะทุกสิ่ง’ แม้แต่โควิด-19 !

(รอยเตอร์)

คู่รักอังกฤษเชื่อ ‘รักชนะทุกสิ่ง’ แม้แต่โควิด-19 !

ทุกความรัก ย่อมมี อุปสรรคŽ ให้ต้องฟันฝ่า

คู่ของ เอลิซาเบธ เคอร์ และ ไซมอน โอเบรียน คู่รักชาวอังกฤษ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นคู่สามีภรรยาŽ กันแล้วก็เช่นกัน ทั้งสองต้องต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ที่มี ชีวิตของทั้งคู่เป็นเดิมพันŽ!!!

จากรายงานของรอยเตอร์เล่าว่า เคอร์ วัย 31 และโอเบรียน วัย 36 มีแผนจะเข้าวิวาห์กันในเดือนมิถุนายนนี้ แต่ทั้งคู่กลับติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อต้นเดือน

มกราคมที่ผ่านมา และถูกนำส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมิลตัน คีนส์ เมืองมิลตัน คีนส์ อังกฤษ ในรถพยาบาลคันเดียวกัน ด้วยสภาพที่ย่ำแย่ ระดับออกซิเจนในเลือดของทั้งคู่กำลังลดลงอย่างน่าเป็นห่วง

Advertisement

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 มกราคม เคอร์ ซึ่งมีอาชีพเป็นนางพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลบักกิงแฮมที่อยู่ใกล้ๆ และแฟนหนุ่ม ถูกแยกไปรักษาตัวอยู่ในหอรักษา

ผู้ป่วยโควิด-19 คนละวอร์ด โดยอาการของโอเบรียน ทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งแพทย์ตัดสินใจต้องย้ายตัวเข้าไปรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต หรือไอซียู

ตอนนั้น เคอร์ตัดสินใจบอกกับเจ้าหน้าที่พยาบาลว่า เธอและแฟนหนุ่มมีแพลนจะวิวาห์กันเดือนมิถุนายน แต่ด้วยอาการป่วยโอเบรียนที่ทรุดลงเรื่อยๆ ทำให้ ฮันนาห์ แคนนอน พยาบาล ถามเคอร์ว่า เธออยากจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มในโรงพยาบาลเลยมั้ย ?

Advertisement


เคอร์ ย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นด้วยน้ำตาคลอ ขณะบีบมือ โอเบรียน สามีที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า แคนนอนบอกเธอว่า นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เหลืออยู่ที่เธอและแฟนหนุ่มจะแต่งงานกันได้ทัน

พวกเขาบอกกับเราว่า เราอาจไม่สามารถแต่งงานกันได้ เพราะพวกเขากำลังจะใส่ท่อให้ไซมอน แต่เจ้าหน้าที่ก็ยืดเวลาออกไปอีก 1 ชั่วโมง เพื่อให้เราเข้าพิธีแต่งงานกันได้ทันŽ

เคอร์ และแฟนหนุ่มแต่งงานด้วยพิธีรวบรัดแข่งกับเวลา เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 12 มกราคม โดยมี ฮันนาห์ แคนนอน พยาบาลต้นคิด ทำหน้าที่เป็นสักขีพยานและถ่ายคลิปการเข้าวิวาห์ของทั้งคู่ไว้ให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ของทั้งสองดู ขณะที่แผนกโภชนาการของโรงพยาบาล รับหน้าที่จัดหาเค้กแต่งงานมาให้

ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่ พวกเราก็สามารถจัดงานแต่งงานให้พวกเขาได้ ถึงจะไม่ใช่พิธีอย่างที่พวกเขาตั้งใจไว้แต่แรก แต่มันก็เป็นอะไรที่น่าจดจำŽ แคนนอนบอก


หลังจบพิธีแต่งงาน โอเบรียน ถูกวางยาสลบ และถูกใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เคอร์ และสามี ต่างมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ แม้ยังต้องใส่สายให้ออกซิเจนอยู่ แต่ทว่าสามารถนั่งเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาทั้งคู่เชื่อว่าการที่พวกเขามีชีวิตรอดมาได้เป็นเพราะการตัดสินใจที่รวดเร็วทันเหตุการณ์ของบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งเล่าถึงประสบการณ์ต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวทุกลมหายใจว่า มันทำให้พวกเขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า สิ่งสำคัญในชีวิตคนเราก็คือ การมีคนที่เรารัก

นั่นคือ สิ่งสำคัญสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างŽ เคอร์บอก โดยมี โอเบรียน พูดผ่านหน้ากากออกซิเจนว่า แน่นอนที่สุดŽ

เคอร์ บอกว่า ถ้าเราไม่มีกันและกัน และถ้าเราไม่ได้รับโอกาสให้แต่งงานกัน ฉันคิดว่า เราทั้งคู่คงไม่ได้มานั่งอยู่ที่นี่ตอนนี้Ž

ภาพ (รอยเตอร์)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image