| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 14 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ประณีตงดงาม เครื่องประดับไทยโบราณ ‘จันทร์โสมา’
รียกร้องกันมานาน ในที่สุดก็สมใจแฟนคลับสักที “อ.วีรธรรม ตระกูลเงินไทย” ครูศิลป์ของแผ่นดินบรมครูด้านผ้าไทย แห่งผ้าทอยกทองจันทร์โสมา บรรจงรังสรรค์
คอลเล็กชั่นสุดยอดเครื่องประดับไทยโบราณสุดประณีต “แบรนด์จันทร์โสมา” เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน “Bejeweled in Thai Style” (บีจิวเวลด์ อิน ไทย สไตล์) จัดโดยไอคอนคราฟต์ ตั้งแต่วันนี้-18 เมษายน 2564 ณ ไอคอนคราฟต์ ชั้น 4-5 ไอคอนสยาม และชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่
อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้ก่อตั้งแบรนด์จันทร์โสมา กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับไทยในครั้งนี้ว่า “ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือเรื่องไตรภูมิพระร่วง ว่าด้วยเรื่องความเชื่อเรื่องเทพบุตรเทพธิดาที่ต้องมีดอกไม้ทิพย์ที่วิเศษงดงามทั้งรูปและกลิ่นประจำตัวไว้ทัดทรงประดับกายกันทุกองค์ จึงได้แนวคิดประดิษฐ์ดอกไม้เหล่านั้นด้วยวัสดุที่คงทนถาวรอย่างโลหะและรัตนชาติต่างๆ ที่ไม่รู้จักเหี่ยวเฉาขึ้นมาใช้เป็นเครื่องประดับร่างกายแทนดอกไม้สด เรียกว่าเครื่อง “ถนิมพิมพาภรณ์”
“เครื่องถนิมพิมพาภรณ์เหล่านี้คนในยุคก่อนใช้สวมใส่ประดับตกแต่งร่างกายทั้งในพระราชพิธี พิธีกรรม และโอกาสพิเศษต่างๆ เป็นการบ่งชี้ให้เห็นถึงสถานะทางสังคมของผู้ใช้สอยเครื่องประดับเหล่านั้นอีกทางหนึ่งด้วย โดยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ มีทั้งที่ใช้ประดับศีรษะเรียกแยกออกมาว่า เครื่องศิราภรณ์ และใช้ประดับส่วนต่างๆ ตามร่างกาย เช่น ตุ้มหู สร้อยคอ จี้ ทับทรวง จั่น แหวนกำไล และเข็มขัด ฯลฯ”
สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ อาจารย์วีรธรรมกล่าวว่า เป็นการกลับมาทำเครื่องประดับอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ทำมากว่า 10 ปี โดยที่ผ่านมาจะทำเฉพาะเครื่องประดับงานโขนพระราชทานเท่านั้น
“สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ มี 2 รูปแบบ โดยแบบแรกเป็นเครื่องประดับไทยโบราณแบบต้นกรุงสมัยรัชกาลที่ 1 มีทั้งหัวเข็มขัด ทับทรวง และจี้ ขณะที่แบบที่ 2 เป็นจิลเวลลีได้รับความนิยมสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ได้รับอิทธิพลจากยุโรป เช่น หัวเข็มขัด โดยสมัยอยุธยาตอนต้น เครื่องประดับจะค่อนข้างใหญ่ แต่พอมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 เราได้รับอิทธิพลจากยุโรป เครื่องประดับจะมีขนาดเล็กลง เทคนิคต่างๆ ก็เปลี่ยนไป จากเคยใช้ลวดลายแบบไทยโบราณ ก็เปลี่ยนมาเป็นแบบฝรั่ง การฝังก็จะฝังแบบจิกไข่ปลา แทนที่จะฝังแบบกระเปาะ”
“เครื่องประดับชิ้นพิเศษ คือ หัวเข็มขัดใบเทศ ที่ทำด้วยเงินลงยา ประดับอัญมณีต่างๆ โดยเครื่องประดับทุกชิ้นใช้เวลาทำนานนับเดือน และเป็นแฮนด์เมกทั้งสิ้น”
อ.วีรธรรมกล่าวอีกว่า การรังสรรค์เครื่องประดับแบบโบราณขึ้นมานี้นับเป็นการดีที่จะทำให้คนไทยเรา มีงานไทยๆ ให้ความเป็นไทยแทรกซึมเข้าไปในทุกที่ ให้หันกลับมามองสิ่งดีงามของไทยที่เคยมีมาตั้งแต่อดีต ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักได้พบเห็นในชีวิตประจำวัน ค่อยๆ แทรกซึมเข้าไป
“ในยุคที่การสื่อสาร การคมนาคม ทำให้โลกแคบลง ไปที่ไหนก็เหมือนกันหมด ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ ของแต่ละพื้นที่สำคัญ มันจะได้มีความแตกต่างกัน ไม่ใช่ไปที่ไหนก็เหมือนกันทั้งโลก” อ.วีรธรรมกล่าว
