สะท้อนชีวิต ประชาธิปไตย ในเมียนมา ผ่านเสียง ‘ฮาน เลย์’ นางงามสันติภาพ สู้เพื่อบ้านเกิด

สะท้อนชีวิต ประชาธิปไตย ในเมียนมา ผ่านเสียง ‘ฮาน เลย์’
นางงามสันติภาพ สู้เพื่อบ้านเกิด

“ในขณะที่หลายๆ ประเทศอาศัยอยู่กันอย่างสงบสุข และอุดมสมบูรณ์ ตอนนี้ที่ประเทศของฉัน เมียนมา มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ฉันขอส่งเสียงนี้ถึงทุกประเทศว่า ได้โปรดช่วยเมียนมาด้วย…”

ใจความส่วนหนึ่งในสุนทรพจน์ของ ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมาที่กลั่นออกมาจากหัวใจพร้อมหยาดน้ำตา ได้รับการนำเสนอไปทั่วโลกพร้อมกับการรายงานยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเข้าปราบปรามของกองทัพเมียนมา ท่ามกลางการพยายามยื่นมือเข้าช่วยเหลือของนานาประเทศในการยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ การก้าวออกมาพูดถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้นภายในเมียนมาหลังมีรัฐประหารของฮาน ต้องใช้ความกล้าอย่างมาก เพราะข้อความที่เธอกล่าวออกไป ขัดต่อกฏหมายที่กองทัพเมียนมาประกาศใช้ฉบับล่าสุด เป็นหนึ่งในเหตุผลที่นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในเมียนมา รวมถึงครอบครัวของเธอ ไม่แนะนำให้เธอกลับประเทศในตอนนี้เพื่อเลี่ยงการถูกจับกุมตัว

Advertisement

แล้วอะไรคือ “จุดเริ่มต้นการเรียกร้องประชาธิปไตย” ที่ตัวสาวงามอย่าง ฮาน ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้

“ฉันไปร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยทุกวันเป็นระยะเวลาร่วม 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะหยุดเพื่อเตรียมตัวมาประกวดที่ไทย” ฮาน เลย์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของเธอที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย

Advertisement

“เหตุผลข้อแรกที่ชาวเมียนมาออกมาประท้วง รวมถึงตัวฉันเองด้วย เป็นเพราะผู้นำ (ออง ซาน ซูจี) ของเราถูกจับเข้าคุก พวกเราประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ แต่ในขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป พวกเราต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เพราะกองทัพพรากชีวิตคนไปจำนวนมาก และทุกคนตกในอันตราย พวกเราจึงต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด เรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่พึงมี” ฮานเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของการประท้วงที่ในเวลาต่อมาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องและว่า

“ฉันเป็นคนที่หากฉันต้องการจะทำอะไร ฉันทำเลย หากนี่คือสิทธิของมนุษยชน ก็ควรจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ หากคุณคิดว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง มันก็ถูกต้องสำหรับคุณ ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นเลย เหมือนกับฉันที่ไม่มีใครมาบังคับว่าฉันต้องพูดอะไร ฉันเพียงแค่เป็นตัวเอง และพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูด ซึ่งก็คือสถานการณ์อันเลวร้ายในเมียนมาตอนนี้” ฮานกล่าว

เมื่อถามว่า “ประชาธิปไตยในฝัน” เป็นอย่างไร

เธอตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “สำหรับฉัน ประชาธิปไตย คือสิ่งที่คิดกับสิ่งที่นำมาปฏิบัติเป็นไปในทางเดียวกัน”

และเพื่อประชาธิปไตยที่ต้องการ ฮาน เลย์ เล่าถึงสิ่งที่ผู้ชุมนุมและชาวเมียนมาประสบอยู่ในตอนนี้คือ มีผู้คนมากกว่า 1 พันคนรวมไปถึงนักศึกษาถูกจับขัง และมากกว่า 500 คนเสียชีวิต โดยในนั้นเป็นเด็กจำนวน 10 คน (ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564) กองทัพใช้อาวุธยิงเข้าไปที่บ้านเรือนของประชาชน ทิ้งระเบิด และหลายๆ ครอบครัวมีสมาชิกสูญหาย ไม่พบแม้กระทั่งศพโดยเชื่อว่ากองทัพอำพรางศพโดยการนำไปโยนทิ้ง ส่งผลให้ผู้คนไม่กล้าที่จะนอนหลับในตอนกลางคืน ขณะเดียวกันขนส่งสาธารณะ การเดินทางข้ามจังหวัดหรือภูมิภาคก็ปิดให้บริการ เช่นเดียวกับ โรงแรม โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และธนาคาร ล้วนปิดให้บริการหมด ใช้ได้เพียงเงินสดเท่านั้น

“สถานีโทรทัศน์ในประเทศถูกสั่งห้ามเผยแพร่ มีเพียง 2 สถานีที่เผยแพร่อยู่ ซึ่งดำเนินการโดยกองทัพ นำเสนอเรื่องราวในด้านดีๆ เช่น ออกกำลังกาย ละคร เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประชาชนเชื่อว่ากำลังอยู่ในประเทศที่มีความสุข” ฮานเล่า

สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศได้เปลี่ยน “ความฝัน” ของ “ว่าที่แอร์ โฮสเตส” สู่ความมุ่งมั่นที่จะ “นักการเมือง” ในอนาคต

ฮาน เผยเหตุผลที่อยากเป็นนักการเมืองว่า นักการเมืองเชื่อมต่อได้กับทุกคน ฉันสารภาพว่าฉันอาจจะยังรู้ไม่มากเกี่ยวกับการเป็นนักการเมือง แต่สิ่งที่ฉันรู้คือตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากกำลังเดือดร้อน และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ฉันสามารถเป็นปากเสียงให้พวกเขาได้ ฉะนั้นฉันเชื่อว่านักการเมืองคือผู้ที่จะดูแลและช่วยเหลือพลเมืองทุกคนได้

หลังได้จับเข่าคุยกับฮานในมุมมองด้านอุดมการณ์ที่แน่วแน่แล้ว ยังพบว่าเธอมีบุคลิคที่สดใส คุยเก่ง จนอยากจะรู้จักเธอมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะสาวสวยคนนี้มีความสามารถและทัศนคติ “ไม่ธรรมดา”

ฮาน เล่าถึงชีวิตของเธอที่เมียนมาว่า ฉันเพิ่งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมียนมา ซึ่งก็ยังไม่ได้จบเต็มตัว เพราะด้วยโควิดระบาดทำให้ต้องหยุดการรับปริญญาไปก่อน แต่ก่อนหน้านั้นประมาณ 2 ปี ฉันได้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์ดูแลสุขภาพจิต เพราะสาขาวิชาที่ฉันเรียนคือจิตวิทยา โดยเฉพาะในช่วงที่โควิดระบาดผู้คนมีความเครียดเพิ่มขึ้น ฉันจะพูดคุยกับพวกเขา และช่วยหาต้นตอความเครียดที่แท้จริงว่าเครียดเพราะปัญหาที่เจอหรือเพราะโควิด เป็นต้น

นอกจากนี้ ฮาน เลย์ ยังมีความสามารถด้านการสื่อสารถึง 4 ภาษา ได้แก่ เมียนมา อังกฤษ จีน และเกาหลี

“ที่ฉันสนใจเรียนภาษาให้มากๆ เพราะฉันต้องการรู้ว่าเราจะสามารถสื่อสารกับคนที่สนทนาต่างภาษากับเราได้อย่างไร ฉันเคยคุยกับซาแมนธา (มิสแกรนด์ฟิลิปปินส์) ว่าหากฉันเปลี่ยนอะไรสักหนึ่งอย่าง ฉันอยากจะให้ทั่วโลกใช้ภาษาเดียวกัน เพราะหากรู้ภาษาเยอะก็สามารถสื่อสารได้มากขึ้น ซึ่งการสื่อสารนั้นสำคัญสำหรับทุกคน เช่นหากฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษ ฉันก็ติดต่อกับคนได้นานาประเทศ หากฉันพูดได้เพียงภาษาเมียนมาฉันก็จะสื่อสารได้เพียงแค่ในประเทศเท่านั้น ฉะนั้นหากคุณรู้ภาษามากขึ้นคุณก็เชื่อมต่อกับผู้คนได้มากขึ้นด้วย”

ก่อนจะหยอดคำหวานพร้อมรอยยิ้มว่า “ตอนนี้ฉันอยากจะเรียนภาษาไทยด้วย”

อย่างไรก็ตาม สาวงามจากเมียนมา ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าประทับใจว่า ตัวตนของฉันจริงๆ เป็นคนที่มีความสุข และเชื่อมั่นในตัวเอง เมื่อฉันตื่นนอน ฉันบอกกับตัวเองว่า วันนี้คือวันของฉัน ไม่ต้องแคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงกับสิ่งที่ฉันทำ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นนางแบบมืออาชีพ เป็นคนแบกของ ก็มักจะมีบางคนตัดสินคุณด้วยมุมมองของพวกเขาอยู่เสมอ

ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ความคิดของคนอื่นมามีผลกับตัวคุณ แค่ตั้งมั่นไปในทางของคุณ ฉันจึงบอกตัวเองเสมอว่า เพียงแค่โฟกัสในทางที่เดิน ว่าต้องการจะทำอะไร และเชื่อในตัวเอง จึงเป็นฉันในทุกวันนี้

นางงามสันติภาพ

ขอบคุณรูปภาพจาก : Miss Grand Myanmar และ hann_may

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image