เปิดตัวบนเว็บไซต์ Style.com/Arabia. เป็นครั้งแรกไปแล้ว สำหรับคอลเล็กชั่น ชุดอาบายะห์ (ชุดกระโปรงยาว) และผ้าคลุมฮิญาบ จาก ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า (Dolce&Gabana หรือ D&G) ที่เรียกว่าเป็นก้าวแรกของแบรนด์เนมสัญชาติอิตาลีชื่อดัง ที่หันมาเอาใจสาวมุสลิมแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก หลังจากที่แบรนด์ต่างๆ ทยอยออกคอลเล็กชั่นหารส่วนแบ่งการตลาดกันไปสักพัก
สำหรับคอลเล็กชั่นแรกนี้ ดีไซเนอร์ใช้สีธรรมชาติ อย่างสีดำ และสีเบจ ที่ดูหรูหราสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ โดยชุดอาบายะห์นั้น ออกแบบได้คล้ายคลึงกับคอลเล็กชั่นปริง 2016 ที่ใช้ลายปรินท์ดอกเดซี่ เลม่อน และโพลก้า ดอท ได้กลิ่นอายของแฟชั่นอิตาลี ใช้ผ้าไหมชั้นดี และผ้าซาติน ถักทอร่วมกับผ้าแพร รวมทั้งปักลายทั่วผืนผ้า ให้ความรู้สึกเบาสบาย และดูดีสำหรับผู้สวมใส่ แตกต่างจากคอลเล็กชั่นเครื่องแต่งกายแบบเดิมๆ
การออกคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสำหรับสาวมุสลิมเป็นครั้งแรกของดอลเช่ แอนด์ แกบาน่านี้ เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายชาวมุสลิมเป็นอย่างดี หลังจากที่แบรนด์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ทั้งระดับไฮเอนด์ และแบรนด์ดังต่างๆ ทั่วโลกต่างหันมาจับตลาดนี้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เช่นแบรนด์ Tommy Hilfiger และ DKNY ก็เลือกออกคอลเล็กชั่นไม่นานมานี้หรือจะเป็นแบรนด์ Monique Lhuillier ก็เคยออกไลน์เสื้อผ้าพิเศษสำหรับแบรนด์ Moda Operandi เช่นกัน แม้กระทั่ง Net-a-Porter ก็ขอใช้ช่วงเดือนรอมฎอน ออกแคมเปญเซลส์พิเศษ “The Ramadan Edit” มาแล้ว
แบรนด์เสื้อผ้าอย่าง H&M ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่หันมาเจาะตลาดนี้ เมื่อแบรนด์เลือกให้ Mariah Idrissi นางแบบชาวอังกฤษให้เป็นนางแบบคนแรกที่ใส่ผ้าคลุมฮิญาบเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เช่นเดียวกับแบรนด์ดังฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Uniqlo ก็เลือกให้ดีไซเนอร์ดัง ฮานา ทาจิมะ สรรค์สร้างคอลเล็กชั่นฮิญาบ กระโปรงและชุดเดรสขึ้นมา
ความจริงแล้วตลาดมุสลิมนี้เป็นที่สนใจของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นสูง และแบรนด์ต่างๆ มาหลายปีแล้ว จากรายงานประจำปี 2014-2015 ที่ Thomson Reuters ร่วมกับ DinarStandard (คลิกอ่านฉบับเต็ม) ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่างๆ ของโลกมุสลิม ระบุว่า อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าของมุสลิมนี้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าตลาดในปี 2013 ถึง 11.9% หรือราว 266 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ที่ 242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 10% ทั้งชาวมุสลิมทั่วโลกยังมีกำลังซื้อมาก โดยเฉพาะการช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ Zalora ทำให้คาดการณ์ไว้ว่าปี 2019 มูลค่ากำลังซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชาวมุสลิมจะขึ้นไปแตะตัวเลข 248 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือ 14.4% ได้
ในรายงานยังชี้ให้เห็นว่าที่มูลค่าตลาดของเครื่องแต่งกายอยู่ในตัวเลขที่สูง เนื่องจากไม่เพียงแต่ชาวมุสลิมในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ อย่าง ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และไนจีเรียที่เป็นประเทศที่มีสัดส่วนการบริโภคสูงที่สุดเท่านั้น แต่ยังมีชาวมุสลิมในประเทศต่างๆ อย่าง สหรัฐ จีน เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ และแคนาดา ที่มีกำลังซื้ออีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่กระโดดเข้ามาออกแบบคอลเล็กชั่นใหม่ๆ กันมากขึ้น
ทำให้ในอีกไม่นานนี้ เราอาจได้เห็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายต่อหลายแบรนด์ เข้ามาร่วมตีตลาดเสื้อผ้าชาวมุสลิมในอนาคต
ขอบคุณเนื้อหาจาก fashionista.com
และภาพจากอินสตาแกรม stefanogabbana
