“กาแล็คซี่ โน้ต7” งานดีไซน์ชิ้นเยี่ยมจากซัมซุง

การเดินทางไปร่วมในงานเปิดตัว กาแล็คซี่ โน้ต 7 ที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากจะช่วยให้มีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดกับสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ของซัมซุงได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้มีโอกาสได้ข้อมูลหลายๆ อย่างเพิ่มเติมจากผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น คิม คยู ผู้จัดการฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์, ซอง วุนทัก วิศวกรอาวุโส และ ฮัน แฮจู นักออกแบบด้านสี วัสดุ และการตกแต่งที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบและเทคโนโลยีของโน้ต 7 อีกด้วย

ซัมซุงกำหนดให้ กาแล็คซี่ โน้ต 7 เป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟนระดับหัวแถวรุ่น “7” ของตัวเองด้วยการข้าม “โน้ต 6” มาอย่างจงใจ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความสับสนของผู้บริโภคลงแล้ว ยังช่วยให้เห็นความใกล้เคียงและแตกต่างซึ่งกันและกันได้ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ เอส 7 และเอส 7 เอดจ์ เปิดตัวออกมาก่อนร่วม 6 เดือนทำให้อดไม่ได้ที่หลายคนจะคาดหวังถึงอะไรใหม่ๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

โดยความเห็นส่วนตัว สิ่งที่พัฒนาขึ้นมาอย่างชัดเจนก็คือดีไซน์ที่แม้จะยังคงสไตล์เรียบแต่หรูและมีราคาอยู่เหมือนเดิม โน้ต 7 สามารถสร้างความพึงพอใจได้มากกว่ามาก ด้วยความลงตัวในการหลอมรวมวัสดุอย่างกระจกและโลหะเข้าด้วยกันได้แบบไม่มีรอยต่อให้สะดุดด้วยขอบโค้งมนทั้งสองด้าน ลดพื้นที่ที่ใช้งานไม่ได้ของขอบจอลง ทำให้ได้หน้าจอในขนาด 5.7 นิ้ว บนตัวโทรศัพท์ขนาดกระชับเหมาะมือทั้งในการหยิบจับและใช้งาน ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คืองานออกแบบที่สวยงาม เรียบหรูทั้งหมดไม่ได้ลดทอนหรือทำให้การใช้งานทอนประสิทธิภาพลงแต่อย่างใด แต่กลับทำให้การใช้งานคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการแสดงผลบริเวณขอบจอที่ทำงานได้ดีกว่าที่ผ่านมา

 

Note7_black_gold_2สิ่งที่ทำให้ กาแล็คซี่ โน้ต 7 แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงก็คือ “เอสเพน” เครื่องหมายการค้าของตระกูลโน้ต ที่ถูกพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกหลายก้าว นอกเหนือจากคุณสมบัติของการไม่ใช้แบตเตอรี่ ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟเหมือนที่ผ่านมาแล้ว เอสเพนใหม่ยังปรับปรุงให้เบาและถนัดมือมากขึ้น ทำงานได้แม่นยำมากขึ้นเพราะสามารถตรวจจับแรงกดได้สูงถึง 4,096 ระดับ กันฝุ่นและกันน้ำได้ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถใช้เอสเพนได้ในทุกสภาพ แม้ในขณะที่หน้าจอเปียกน้ำก็ตามทีเอสเพนทำอะไรๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิมมาก ตั้งแต่การเขียนเพื่อบันทึกข้อความขณะล็อกหน้าจอ หรือการเพิ่มการรองรับรูปแบบการวาดหรือเขียนให้มากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสมาร์ท ซีเลคท์ เลือกบันทึกไฟล์วิดีโอให้เป็นไฟล์ GIF ได้โดยง่าย ใช้ในการขยายขนาดข้อความหรือรูปภาพ และยังใช้จ่อเหนือคำต่างๆ เพื่อเปิดฟังก์ชั่นการแปลความหมายโดยอัตโนมัติ โดยเอสเพนสามารถตรวจจับภาษาต่างๆ ได้ถึง 38 ภาษา และรองรับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง 71 ภาษาอีกด้วย ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ ซอง วุนทัก วิศวกรอาวุโสชื่นชมมากที่สุด

ADVERTISMENT

โน้ต 7 ยังคงใช้ขุมพลังชุดเดียวกับ เอส 7 และเอส 7 เอดจ์ ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซต สแนปดรากอน 820 แรม 4GB และ GPU อาเดรโน 530 เช่นเดียวกับกล้องหลังแบบ ดูอัลพิกเซล 12 ล้านพิกเซล กับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ซึ่งอาจส่งผลให้คนที่ไม่สนใจกับเอสเพนสามารถหันไปเลือกใช้ เอส 7 หรือเอส 7 เอดจ์ แทน

ดูเหมือนว่า ซัมซุงจะคาดหวังไว้มากกับเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกนำมาใช้เพื่อการเปิดล็อกเข้าใช้งานโน้ต 7 นั่นคือการสแกนม่านตา ที่ถือเป็นเทคโนโลยีในการระบุอัตลักษณ์บุคคลที่แม่นยำที่สุดและปลอดภัยที่สุดเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ที่สวมแว่นสายตาจำเป็นต้องถอดแว่นเพื่อสแกนครั้งแรกเพียงครั้งเดียวก็ตาม แต่เรายังต้องสไลด์หน้าจอเปิดก่อนเพื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้ในการเปิดล็อก ทำให้การเปิดล็อกด้วยลายนิ้วมือยังคงเร็วและเป็นธรรมชาติสอดคล้องกับการใช้งานสมาร์ทโฟนปกติทั่วไปมากกว่า

แต่ผมยังเห็นประโยชน์สูงสุดของการสแกนม่านตาเพื่อเข้าถึงโฟลเดอร์พิเศษ ที่ต้องใช้การสแกนม่านตาเพื่อเข้าถึงเนื้อหาภายในได้มากกว่า (จริงๆ แล้ว ซีเคียวร์โฟลเดอร์ สามารถเข้าถึงได้ด้วยรหัสส่วนตัว หรือลายนิ้วมือได้ด้วยขึ้นอยู่กับการเลือก) ในกรณีที่เราต้องการเก็บอะไรก็ตามที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดจริงๆ

ข้อสรุปสุดท้ายที่ได้จากการสัมผัสกาแล็คซี่ โน้ต 7 เบื้องต้นก็คือ นี่คือสมาร์ทโฟนที่สวยและสมรรถนะสูงมากเครื่องหนึ่ง

ซึ่งตอกย้ำข้อเท็จจริงที่ว่า ซัมซุงยังสามารถเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับแอปเปิลต่อไปได้อีกนาน