| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 14 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
‘หมู อาซาว่า’ ดึงปรัชญาการใช้ชีวิต พาธุรกิจก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19
ในสภาวะอันยากลำบากนี้ หลายธุรกิจกำลังเผชิญกับศึกหนัก และต่างก็เร่งหาวิธีการรับมือเพื่อก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ในเร็ววัน เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง อาซาว่า กรุ๊ป ถึงแนวทางในการปรับตัวและรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่
หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา เล่าว่า อาซาว่า กรุ๊ป ในปี 2021 นี้ กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 อย่างเต็มตัว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยหยุดนิ่ง เริ่มต้นจากการทำในสิ่งที่รักต่อยอดมาเป็นธุรกิจ จนประกอบร่างมาเป็น อาซาว่า กรุ๊ป ในปัจจุบัน
โดยมีธุรกิจในเครือหลากหลายแบรนด์ประกอบไปด้วย Asava (อาซาว่า), Asv (เอเอสวี), Uniform by Asava (ยูนิฟอร์ม บาย อาซาว่า), White Asava (ไวท์ อาซาว่า), MOO (หมู) และ Sava All Day Dining (ซาว่า ออล เดย์ ไดนิ่ง)
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดเส้นทางที่ผ่านมาเราก็พบเจอปัญหามาหลากหลายรูปแบบ แต่ก็ต้องประคับประคองทุกธุรกิจให้ก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะเราไม่ได้สู้เพื่อตัวเราคนเดียว แต่เราต้องสู้เพราะยังมีคนข้างหลังอีกมากมายที่ต้องดูแล เฉกเช่นเดียวกันกับวิกฤตในครั้งนี้
“วิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ในครั้งนี้ คงต้องยอมรับว่าทุกธุรกิจได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า อาซาว่า กรุ๊ป ก็เช่นกัน เรียกได้ว่าเราได้รับผลกระทบแทบจะทุกแบรนด์ในเครือเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยสถานการณ์ทำให้เราต่างก็ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม งดสังสรรค์ หลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่ที่มีผู้คน มันเลยทำให้ทั้งร้านอาหารและแบรนด์ต่างๆ ของเราที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าได้รับผลกระทบตามไปด้วย
แต่ด้วยความที่เรามีประสบการณ์จากโควิด-19 ในรอบที่ผ่านมา เราจึงพยายามจัดหาวิธีการตั้งรับที่ดีที่สุดด้วยการเลือกพัฒนาระบบออนไลน์ให้แข็งแรง ซึ่งก็ถือเป็นความโชคดีที่เราเองก็บุกตลาดออนไลน์มาตั้งแต่ต้น ทำให้มีช่องทางการขายออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบทั้ง เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ไลน์ รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ที่เป็นอีคอมเมิร์ซต่างๆ ก็เข้ามาช่วยเสริมทัพของเราให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วยครับ” หมู-พลพัฒน์ กล่าว
และเมื่อถามถึงทิศทางของการออกแบบคอลเลกชั่นในยุคที่ต้องปรับตัวอย่างหนักเช่นนี้ดีไซเนอร์คนดังเล่าต่ออีกว่า ในการทำคอลเลกชั่นเสื้อผ้าไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาวะไหนก็ตาม เรื่องของการสวมใส่ รูปทรง และสีสัน เป็นสิ่งที่เราต้องคิดและคำนึงถึงตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ในการคิดของแต่ละช่วงนั้นก็ต้องอยู่ในกรอบของความเป็นแบรนด์ และนำมาผนวกเข้ากับบริบทหรือสถานการณ์ในช่วงนั้นที่มันกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
“ณ เวลานี้ ผู้คนส่วนใหญ่กักตัวอยู่บ้าน เวิร์ก ฟอร์ม โฮม คอลเลกชั่นเสื้อผ้าและซิลูเอทที่เราเลือกใช้ก็จะเน้นไปในเรื่องของการสวมใส่สบาย มีความลำลองขึ้น กึ่งทางการนิดหน่อย เพราะผู้คนส่วนใหญ่ก็จะมองหาสิ่งที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งอยู่บ้านและทำงานควบคู่กันไป จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาในหลายๆ คอลเลกชั่น เสื้อผ้าของอาซาว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุดราตรี หรือชุดที่เป็นทางการไปเลย แต่ด้วยสถานการณ์ในขณะนี้ งานสังสรรค์ต่างๆ ถูกงด หรือห้ามจัด ซิลูเอทเสื้อผ้าเหล่านั้นในคอลเลกชั่นปัจจุปันก็จะถูกลดทอนลงไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็จะได้เห็นซิลูเอทอื่นๆ ที่เข้ากับยุค เข้ากับสมัย เพิ่มมาแทน”
“หมู-พลพัฒน์” กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงที่ทุกคนต่างก็ต้องเวิร์ค ฟอร์ม โฮม เช่นนี้ การลุกขึ้นมาแต่งตัวก็ถือว่าเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานอย่างหนึ่ง เพราะถ้าเราไม่ใส่ใจตัวเอง ปล่อยให้หนึ่งวันผ่านไปกับการอยู่บ้านแบบสบายจนเกินไป ก็อาจจะทำให้ไฟในตัวเราหมดลงได้ เวิร์ค ฟอร์ม โฮมนี้ ผมเลยอยากแนะนำเสื้อผ้าสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน 3 ลุคด้วยกัน
เริ่มกันที่ลุคแรก เดรสคาฟทานซาฟารีทรงหลวมจากคอลเลกชั่น “อาซาว่า สปริง/ซัมเมอร์ 2021” เดรสเนื้อผ้ามีความเบาสบาย ให้ความทะมัดทะแมง อีกลุคที่จะหยิบมาสวมใส่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าประชุมซูม ก็เก๋ไม่น้อย
ลุคที่สอง เดรสผ้าลินินผูกเอว ปักฉลุลายดอกชบา จากคอลเลกชั่น “เอเอสวี สปริง/ซัมเมอร์ 2021” โครงชุดที่สวมใส่สบาย มีความคล่องตัว ยังคงความแคชชวลไปพร้อมๆ กัน ยกให้เป็นอีกลุคที่มาช่วยเปลี่ยนวันธรรมดาให้สนุกกว่าที่เคย
ปิดท้ายลุคที่สาม แนะนำลุคเท่ๆ ด้วยการหยิบเสื้อยืดคอกลม จากคอลเลกชั่น “หมู 2021” นำมามิกซ์แอนด์แมทช์ใส่คู่กับกางเกงคาร์โกสีตัดกัน ก็ถือว่าเป็นเบสิกไอเทมในชีวิตประจำวันที่ไม่ซ้ำใคร
การเดินทางของ อาซาว่า กรุ๊ป ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณ ความเชื่ออันแน่วแน่และความฝันตลอดชีวิตของ “หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา” ที่นำปรัชญาในการดำเนินชีวิตมาช่วยพาธุรกิจให้ก้าวผ่านวิกฤตในแต่ละครั้งไปได้
“เราเชื่อว่าชีวิตมนุษย์มันต้องพัฒนาต่อไป การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ เมื่อเราเติบโตขึ้นในเชิงของมุมมอง และวิธีการคิด เราก็จะสามารถมองโลกในมุมที่เปลี่ยนไปได้อย่างสมบูรณ์ เราเดินทางมาถึงจุดที่คนทุกคนให้ความสำคัญกับความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น เพศ สีผิว รูปร่าง หรือศาสนา”
“เราในฐานะนักออกแบบก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันวิธีคิดเหล่านี้ออกสู่สายตาคนทั่วไปผ่านผลงานการออกแบบไม่มากก็น้อย ให้ทุกคนได้เห็นว่า ความแตกต่างเหล่านี้ มันมีผลต่อความสวยงามของมนุษย์” หมู-พลพัฒน์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
