เปิดผลสำรวจ! ทำไมเด็กไทยไม่โดนใจตลาดงาน

ในแวดวงการศึกษาและตลาดแรงงานต่างรู้กันดีว่า ทุกวันนี้บัณฑิตจบใหม่บางสาขาโอกาสมีงานทำยาก แต่ขณะเดียวกันความต้องการตลาดแรงงานบางสาขาก็เกิดขาดแคลนมากเช่นกัน จะด้วยเลือกเรียนตามๆกันทั้งที่ไม่ตรงความต้องการตลาดแรงงาน ระบบการศึกษาไม่มีคุณภาพ มาหาอีกคำตอบจากการสำรวจของ จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com)

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) กล่าวว่า กล่าวว่า เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม ได้ลงพื้นที่สำรวจและวิจัยผ่านกลุ่มนิสิต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ กว่า 10,000 คน พบว่ามีจำนวนกว่าร้อยละ 37 ที่ยังไม่มั่นใจและต้องการอบรมด้านภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม อาทิ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น ตามลำดับ

ส่วนร้อยละ 15.6 ไม่มีความมั่นใจด้านทักษะการทำงานขั้นพื้นฐาน อาทิ การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้นอย่างโปรแกรม Word หรือ Excel รวมถึงการคิดวิเคราะห์-แก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์, ร้อยละ12.4 ไม่มั่นใจทักษะด้านสังคม อาทิ ภาวะการเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม, ร้อยละ 11.5 ไม่มั่นใจทักษะการสื่อสาร อาทิ การพูดในที่สาธารณะ การเขียน, ร้อยละ 7.9 ไม่มั่นใจทักษะการหางานและสมัครงาน อาทิ การสัมภาษณ์ การเตรียมเอกสารสมัครงาน และร้อยละ 6 ไม่มั่นใจทักษะเฉพาะทางในการทำงาน อาทิ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การทำกราฟิกดีไซน์ ซึ่งเป็นความถนัดทางด้านวิชาชีพ และไม่มั่นใจทักษะด้านบุคลิกภาพ อาทิ การแสดงออกในโลกการทำงาน การแต่งกาย รวมถึงส่วนหนึ่งที่ยังต้องการค้นหาตัวตน ว่าควรเลือกงานแบบไหนเพื่อให้เหมาะสมกับตนเอง อันเป็นทักษะขั้นพื้นฐานที่เด็กไทยทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตั้งแต่วัยเรียน

“เด็กไทยรู้สึกว่าตนเองไม่มีความมั่นใจ และไม่มีความพร้อมในทักษะหลายด้าน ส่วนใหญ่จะบอกว่าตนเองให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภาคทฤษฎีหรือเนื้อหาในห้องเรียน มากกว่าการลงมือปฏิบัติจริง ทำให้ขาดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เด็กเข้าใจ จดจำ และสามารถนำมาปฏิบัติในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในจุดนี้มากขึ้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กไทยมีคุณภาพ เนื่องจากทักษะที่กล่าวมา ล้วนมีความจำเป็นอย่างมากในโลกของการทำงาน เป็นสิ่งที่หลายองค์กรมองหาจากบุคลากร และเป็นปัจจัยสำคัญที่องค์กรใช้พิจารณาเข้ารับทำงาน” นางสาวแสงเดือนกล่าว

Advertisement

ด้าน นางสาวเรณุกา รักสนิท ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทเอกชนรายหนึ่ง กล่าวว่า ทักษะด้านภาษาต่างประเทศ ถือเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่องค์กรมองหาจากบุคลากรที่มาสมัครงาน เนื่องจากในยุคปัจจุบันบางองค์กรมีความจำเป็นต้องร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติ จึงทำให้ภาษาอังกฤษมีความสำคัญต่อการทำงาน โดยหากเป็นไปได้ควรเรียนรู้ภาษาที่ 3 เพิ่มเติมเอาไว้ด้วย เช่น ภาษาจีน หรือภาษาญี่ปุ่น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสด้านการทำงานมากขึ้น

นางสาวเรณุกา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมต่างๆ ก็จำเป็นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office เช่น Word, Excel, PowerPoint เป็นต้น หรืออินเตอร์เน็ตที่ถือเป็นพื้นฐานของคนทำงานทุกคน ดังนั้นผู้ที่จะเริ่มต้นทำงานควรมีทักษะเหล่านี้ติดตัว สุดท้ายนี้อยากให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มสมัครงานหรือเพิ่งเริ่มต้นทำงานทุกคน มีการเตรียมตัวให้พร้อมในทุกด้าน มีความอดทน กล้าแสดงออก และรู้จักเรียนรู้ต่อสิ่งใหม่ๆ รอบตัว เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้รวมถึงประสบการณ์ให้แก่ตนเอง

 

Advertisement

วันที่ระลึกวันทรงดนตร

นางสาวเรณุกา รักสนิท_ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทเอกชน
นางสาวเรณุกา รักสนิท ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทเอกชน
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image