‘สบายใจมหานคร’ โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ

ด้วยความที่เป็นคนไทย โตมากับอาหารไทย และอยู่เมืองไทย ซึ่งมีร้านอาหารไทยให้เลือกมากมาย ตั้งแต่แนวข้างทางริมถนน ห้องแถวอาหารตามสั่ง จนถึงร้านเก่าแก่มีชื่อเสียงที่มีเมนูสูตรอาหารดั้งเดิมอย่างหลายรส ต้นเครื่อง ครัวอัปสร หรือ กลางซอย ฯลฯ ไม่รวมถึงร้านชั้นหรู เจ้าของดัง (คุณชาคริต) เชฟมีชื่อเสียง (เชฟชุมพล) ที่รวมพลังทำ “Siam Wisdom” กันอยู่พักหนึ่ง

สำหรับผม เมื่อมีทางเลือกก็ต้องตระเวนไปเรื่อยๆ แต่หากให้เลือกอาหารพื้นๆ กินง่าย ราคาถูก ข้าวราดแกงริมถนนอย่างของแม่ตุ๊ ในซอยที่ทำงาน หรืออาหารตามสั่งตามตลาด อย่างที่ตลาด อ.ต.ก.ยังเป็นอันดับต้นๆ ในชีวิตประจำวัน

เพราะเป็นอาหารไทยที่กินแล้วสบายใจ ทำนองที่ฝรั่งเขาเรียกว่า “Comfort Food” ซึ่งตำราฝรั่งก็จะเป็นแซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ หรือพิซซ่า ที่กินแล้ว “Good for the Soul”

ไม่ว่าไทยหรือเทศ หากอร่อย ทานง่าย ราคากันเอง จะไม่ให้ “จิตแจ่มใส” ได้อย่างไร!!

Advertisement

แต่เวลามีเพื่อนมาจากต่างประเทศ และขอคำแนะนำว่า “ร้านไหนดี?” ผมจะต้องค่อยๆ คิด ยิ่งถ้าไม่เคยมาเมืองไทย ท้องไส้อาจไม่คุ้นเคย จะส่งไปร้านที่เป็นไทยจริงๆ คือร้านที่มี “ฐานลูกค้า” คนไทยเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งก็ลำบากทั้งการ “สื่อสาร” และ “เลือกอาหาร” โดยเฉพาะถ้าไม่ได้พาไปด้วยตนเอง

อาหาร

ส่วนจะปล่อยไปร้านใหญ่ๆ ที่มีทัวร์ลงเยอะๆ มีโชว์อลังการ ตามทัวร์ไกด์ ก็รู้สึกผิด เพราะอาหารจะ “พอใช้ได้” แต่ไม่อร่อยให้ “ประทับใจ”

Advertisement

บางทีเป็นนักธุรกิจ ต้องการ “ลอง” รสชาติเป็นไทยๆ พอเป็นพิธี มาแนวนี้ ผมส่งไปห้องอาหารไทยในโรงแรม ซึ่งที่น่าจะใช้ได้ที่สุดเห็นจะเป็นที่ “ศิลาดล” โรงแรมสุโขทัย ถนนสาทร

ส่วนร้านไทยประเภท “Fusion” ไม่ว่าจะเป็นเชฟไทยหรือต่างชาติ หากเป็น “นักชิม” ต้องการ “ลอง” ไม่เคยว่า ส่งกันไปได้ อย่าง “โบลาน-Bo.Lan” ส่วนราคาไป “ว่า” กันเอง หุหุ

แต่ที่เป็น “Comfort Food” แต่วัตถุดิบดี รสชาติไทยแท้ อร่อย ราคาไม่โหดมาก โต๊ะที่นั่งง่ายๆ บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเอง ไม่ต้อง “เกร็ง” ทานแล้ว “สบายใจ” ครบเครื่อง ไปมาทั่ว ยังไม่ได้ครบดั่งใจ

มีหลายคนกล่าวถึง “Soul Food Mahanakorn” แถวต้นซอยทองหล่อ ได้ยินครั้งแรกก็เฉยๆ ถึงจะเคยได้พบปะรู้จักเจ้าของ คุณ Jarrett Wrisley ซึ่งเป็นคนอัธยาศัยดี ขยันขันแข็ง แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมก็ไม่แน่ใจว่า “ฝรั่ง” จะเป็น “เจ้าของ” ร้านอาหารไทยที่อร่อยได้จริงหรือ และคิด (ไปเอง) ว่า คงเป็นอาหารแบบประเภท “ฝรั่งทำ” ให้ “ฝรั่งกิน” หรือเข้าประเภท “Fusion” อีกตามเคย

จะแวะเวียนไปอุดหนุน ถึงไม่ได้คาดหวัง แต่เป็นเพราะรู้จักกันมากกว่า ก็ไม่มีโอกาสสักที จนเมื่อวันก่อนว่างๆ กะว่าปิดร้านตัวเองแล้วจะไปทาน ปรากฏว่า “โต๊ะเต็ม” แถมพนักงานยังถาม (ด้วยความสุภาพ) ว่าว่างช่วงไหน เหมือนลูกค้าเข้าเป็นรอบๆ และจะเต็มทุกรอบ!!

ฟังอย่างนี้ยิ่งทำให้สงสัย จะ “ฮิต” อะไรขนาดนั้น อีกวันโทรไปจอง เกือบเต็ม ยังพอว่างช่วงหัวค่ำ รอบแรกๆ 6 โมงครึ่ง ไปซิครับจะรออะไร ขอดูขอชิมหน่อย (โดยไม่บอกเจ้าของ)

ร้านมีสองชั้น ชั้นล่างและชั้นลอย โต๊ะจัดสำหรับ 2 คนเป็นส่วนใหญ่ มีโต๊ะใหญ่ หรือนั่งเป็นเคาน์เตอร์ได้ ยกเว้นผมกับภรรยา ลูกค้าดูจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด เมื่อเปิดมือถือกูเกิลเว็บไซต์นำเที่ยวพากินร้านอาหารไทย “Soul Food” ติดอันดับต้นๆ เกือบหมด จึงไม่แปลกใจ

แต่อาหารจะอร่อยไหมล่ะ??

27

เมื่อไม่ได้ “คาดหวัง” ก็ “ไม่ผิดหวัง” ไม่ใช่เพราะไม่ดีนะครับ แต่เพราะเป็นความ “ลงตัว” ที่ “สุดยอด” ครับ ไปกันสองคน สั่ง “น้ำตกหมู” “แกงฮังเลกับข้าวกล้อง” “ไข่เจียวหมูสับและกุ้ง” “ยำมะเขือยาว” “สะเต๊ะกุ้ง” และ “กะเพราแกะ” หมดเรียบครับ

วัตถุดิบดีกว่าร้านทั่วไป อาหารรสชาติไทยแท้อย่างไม่น่าเชื่อ “เผ็ดได้ที่” ไม่มีแบบ “เผ็ดฟอร์ฝรั่ง” ถ้าไม่อิ่มกินต่อแน่นอน “ผัดซีอิ๊ว” ดูน่าอร่อย (เหลือบตาโต๊ะข้างๆ) ไม่นับจานอื่นๆ ที่เล็งไว้ตามเมนู รายการของโปรด “แกงแดงผัดแห้งรวม” “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” และ “ข้าวซอย” รอบหน้าไม่พลาดแน่

และขอบอกด้วยว่า “ค็อกเทล” รสชาติดี ไอติมของหวานก็ไทยๆ กะทิ ทุเรียน ลิ้นจี่ และข้าวเหนียวมะม่วง (อย่างหลัง “ติดไว้ก่อน” เพราะท้องแน่น) พนักงานเป็นกันเอง แนะนำอาหารได้ดี ที่สำคัญราคาไม่แพงไปกว่าร้านอาหารไทยทั่วไปมาก

กินแล้ว “สบายใจคนกรุง” สมชื่อ “Soul Food Mahanakorn” จริงๆ!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image