ที่มา | คอลัมน์สรรหามาเล่า นสพ.มติชน หน้า23 |
---|---|
ผู้เขียน | [email protected] |
เว็บเทเลกราฟ ของอังกฤษรายงานว่า ความนิยมของ”เซลฟี่” หรือ การถ่ายรูปตัวเองจากกล้องในโทรศัพท์มือถือ ทำให้ทันตแพทย์ในอังกฤษ “งานเข้า” มีคนไข้เดินเข้าไปในคลีนิกเพิ่มขึ้น เพราะคิดว่าตัวเอง”ฟันยื่น” จึงต้องการปรึกษาทันตแพทย์ให้ช่วยแก้ไขฟันให้ ทั้งที่จริงแล้ว ฟันของพวกเขาไม่ได้ยื่น แต่ที่ในภาพเซลฟี่ ฟันดูยื่นเป็นเพราะ ความบิดเบือนของภาพเซลฟี่ต่างหาก
ทั้งนี้ ทันตแพทย์ทิม แบรดสต๊อค-สมิธ จากเดอะ ลอนดอน สไมล์ คลีนิก เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่คลีนิกของคุณหมอมีคนไข้เพิ่มขึ้นถึง 30 % โดยเป็นคนไข้ที่ส่งรูปเซลฟี่ของตัวเองมาทางอีเมล เพื่อต้องการปรึกษาให้คุณหมอ ช่วยแก้ไขฟันที่ดูยื่นให้
ทั้งนี้ คุณหมอทิม เล่าด้วยว่า แต่ละสัปดาห์ คุณหมอต้องบอก”ปฎิเสธ”คนไข้หลายรายที่เดินทางมาพบคุณหมอที่คลีนิก ทำให้คุณหมอได้เห็น รูปฟันของคนไข้ และสามารถอธิบายให้คนไข้เข้าใจได้ว่า ฟันของพวกเขาดูปกติดี ไม่ได้ยื่น แต่ที่ในรูปเซลฟี่ ฟันของพวกเขาดูยื่น เป็นเพราะ ความบิดเบือนของรูปเซลฟี่ ที่เกิดจากการถ่ายรูปต่างหาก โดยยิ่งถ่ายเซลฟี่ ที่”โฟกัส”ใกล้ใบหน้าเท่าไร รูปถ่ายที่ได้ ก็ยิ่งบิดเบือน เนื่องจาก แสงแฟลชจากกล้อง
“ปัญหาของการถ่ายเซลฟี่ก็คือ ยิ่งถ่ายรูปใกล้เท่าไร รูปถ่ายที่ได้ก็ยิ่งบิดเบือน ไม่ตรงกับความจริง ฟันมักจะดูยื่นมากกว่าความเป็นจริง “คุณหมอทิม บอก
ทั้งนี้ คุณหมอยังบอกด้วยว่า การถ่ายเซลฟี่ เป็นที่นิยมมากในอังกฤษ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ที่ใช้เซลฟี่ เป็นการชื่นชมรูปลักษณ์ของตัวเอง ทั้งย้ำด้วยว่า ” ที่คลีนิกเรามีคนไข้เพิ่มขึ้นราว 30 % ในช่วง 5 ปีนี้ โดยเป็นคนไข้ที่ส่งรูปเซลฟี่มาทางอีเมล เพราะรู้สึกว่า ฟันด้านบนของพวกเขาดูยื่น แต่เมื่อคนไข้มาหาเราที่คลีนิก หลายครั้งที่เราพบว่า ฟันของพวกเขาไม่ได้ดูแย่ หรือ ดูยื่นเลยสักนิด ทุกวันนี้ โดยเฉลี่ยทุกสัปดาห์ เราสามารถเกลี้ยกล่อมคนไข้ 2-3 คนว่าไม่ต้องทำอะไรกับฟันของพวกเขาเลย เพราะมันดูดีอยู่แล้ว และตอนนี้ เรายังมีการให้คำแนะสำหรับ การถ่ายรูปเซลฟี่ให้ดูดีขึ้นด้วยว่า หากไม่ใช้ ไม้เซลฟี่ ที่จะช่วยให้มีระยะห่างจากกล้องและใบหน้าเพิ่มมากขึ้น ก็ควรจะเหยียดแขนออกไปให้ไกลที่สุด เวลาถ่ายเซลฟี่ ”
ขอบคุณภาพจาก telegraph.co.uk, www.mirror.co.uk