เมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 14 กันยายน ที่ห้องวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานสตรีพิการดีเด่นใต้ร่มพระบารมีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 84 พรรษา 12 สิงหาคม พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรีพิการดีเด่นและแม่ดีเด่นที่ดูแลบุตรพิการ จำนวน 84 คน เพื่อสื่อสารให้สังคมมีเจตคติที่ดี สร้างสรรค์ต่อผู้พิการ และเพื่อแสดงออกถึงศักยภาพผู้พิการ
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงพม. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการตลอดมา ปัจจุบันมีคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการจำนวน 1.6 ล้านคน แบ่งเป็นชาย 8.5 แสนคน และหญิง 7.5 แสนคน ซึ่งพม.ได้ส่งเสริมให้คนพิการได้เข้าถึงสิทธิและความสะดวกต่างๆ อยู่เสมอ รวมถึงการเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการ 800 บาท การส่งเสริมอาชีพ และศักยภาพของผู้พิการด้วย
สำหรับผู้ได้รับรางวัลสาขาต่างๆ มีทั้งสิ้น 84 ราย แบ่งเป็นแม่ดีเด่นที่ดูแลบุตรพิการ, สตรีพิการที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม, สตรีพิการที่มีความขยันหมั่นเพียร, สตรีพิการที่เป็นแม่อบรมเลี้ยงดูบุตรด้วยความรักและเอาใจใส่ และสตรีพิการที่ส่งเสริมความเสมอภาคและคุ้มครองพิทักษ์สิทธิคนพิการ อาทิ นางสาวเกษร เจริญสุข อายุ 58 ปี รางวัลสตรีพิการที่เป็นแม่อบรมเลี้ยงดูบุตรด้วยความรักและเอาใจใส่ อาชีพค้าขายน้ำพริก และรับจ้างจัดแต่งต้นหอม พิการตั้งแต่อายุ 15 ปี และต้องสูญเสียสามีนับตั้งแต่ลูกอายุ 7 ขวบ แต่ยังสอนให้ลูกเป็นคนดีจนได้รับทุนการศึกษา และทุนอาหารกลางวันจากโรงเรียนเสมอ , นางสาวญาติมา ทะวาย อายุ 32 ปี สตรีพิการที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม พิการทางการเคลื่อนไหวร่างกายนับ 10 ปี จากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ก่อนจะลุกขึ้นมาทำงานเพื่อสังคม เป็นอาสาสมัครให้ความรู้เพื่อลดการเมาแล้วขับนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2552
นางสาวกัลยา ไม้เหลือง อายุ 45 ปี มารดาของด.ช.บุญเลิศ สุชีพเชยสุวรรณ หรือน้องแด็นซ์ ซึ่งมีความพิการตั้งแต่ในครรภ์กับโรคกล้ามเนื้อฝ่อจากไขสันหลัง สูญเสียสามีจากโรคมะเร็งตับตั้งแต่ลูกชายอายุ 1 ขวบ 8 เดือน ทำให้ต้องดูแลบุตรตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเข้าห้องเรียนกับลูกด้วย เนื่องจากลูกชายมีภาวะแขนขาอ่อนแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และยังหยุดหายใจได้ตลอดเวลา แม้จะมีความยากลำบากแต่นางสาวกัลยาสามารถเลี้ยงดูบุตรชายให้เป็นเด็กคิดบวกและไม่คิดว่าตนเองพิการ ทำให้ได้รับรางวัล แม่ดีเด่นที่ดูแลบุตรพิการ
ปิดท้ายด้วย นางปริญญารัตน์ ช่วยบำรุง อายุ 34 ปี ประสบอุบัติเหตุขาข้างซ้ายขาดตั้งแต่เข่าลงไปเนื่องจากเหตุถังแก๊สระเบิด จึงต้องใส่ขาเทียมข้างซ้าย ที่ใช้ความเข้าใจในผู้พิการการเคลื่อนไขด้านขา มาเป็นช่างทำขาเทียมและทำรองเท้าเบาหวานสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ตลอดจนช่วยเหลือสังคมกับการออกหน่วยงานเคลื่อนที่ โรงพยาบาลห้วยยอด ร่วมกับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทรบรมราชชนนี อย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง ทำให้ได้รับรางวัล สตรีพิการที่มีความขยันหมั่นเพียร
