เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 กันยายน ที่โรงละครสนามเสือป่า สำนักพระราชวัง ชมรมผู้รู้คุณแผ่นดิน จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 โดยมี ฯพณฯ องคมนตรี ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ร่วมกล่าวปาฐกถาเฉลิมพระเกียรติเรื่อง “แนวพระราชดำริด้านการศึกษากับอนาคตประเทศไทย” โดยมี ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัฒน์ ,ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ, ท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุบผา ,คุณหญิงจามรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน
ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา เราพบว่าประเทศไทยมีปัญหาหลากหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องคอร์รัปชั่น ที่ผลสำรวจจากโพลล์ต่างๆ ประชาชนต่างยอมรับว่าเคยคอร์รัปชั่น ไม่เว้นแม้แต่นักเรียนนักศึกษา นอกจากนี้ในแวดวงการศึกษายังมีปัญหาอื่นๆอย่างการรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ การล่วงละเมิดทางเพศ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ตั้งแต่การศึกษา
“สำหรับประเด็นเรื่องการศึกษานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตลอด แม้จะประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชก็ทรงทราบถึงปัญหาและเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาไว้หลายด้าน ในพระบรมราชโอวาทหลายต่อหลายครั้ง พระราชทานไว้ว่า การศึกษานั้นต้องเน้นทั้งเรื่องความรู้ หัดการทำงาน และทำความดี ความรู้นั้นเป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว แต่การหัดทำงานนั้นจะช่วยให้มีความสามารถ อดทน พึ่งตัวเองได้ ส่วนการทำความดีจะช่วยให้มีความสุข ความเจริญ ป้องกันตนไม่ให้ตกต่ำได้ ในส่วนของการสอนนั้นต้องเน้นการสอน ควบคู่กับการอบรม เป็นหัวใจหลักของการศึกษา โดยเฉพาะการอบรมต้องให้ติดเป็นนิสัย ให้เด็กมีศีลธรรมจรรยา ใส่ใจวัฒนธรรม มีสำนึกรับผิดชอบ มีจิตอาสา และสำนึกเป็นพลเมืองที่ดีให้ครบ 5 ด้าน” ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าว
ทั้งนี้ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวอีกว่า ด้วยทรงเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้เหล่าองคมนตรีจัดตั้งโครงการกองทุนการศึกษา ทั้งทรงมีรับสั่งว่า ทำเช่นไรก็ได้เพื่อให้สถานศึกษาสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง เพราะหากสร้างคนเก่งอาจเก่งไม่กี่คน แต่หากสร้างคนดี จะดีทั้งองค์กร คณะองคมนตรีจึงลงพื้นที่กว่า 155 โรงเรียนในทั่วทั้งประเทศเข้าไปปลูกฝังแนวคิดต่างๆ ทั้งจิตอาสา ความมีน้ำใจ ซื่อสัตย์ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเราพบว่าเด็กมีการเรียนที่ดีขึ้นด้วยรู้จักช่วยเหลือกัน ชุมชนตื่นรู้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังขยายผลไปยังมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และอื่นๆ
“ทั้งนี้ท่านยังมีพระราชกระแสกับเหล่าองคมนตรีที่เข้าเฝ้าในครั้งนั้นไว้ว่า เรื่องที่จะสร้างคนดีนั้น เป็นเรื่องยากและยาวนาน ต้องเอาอาสาสมัครมาช่วยกันทำมากๆ และขอให้คิดว่าเรื่องการสร้างคนดีนั้นเป็นหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องทำเล่นๆ”