อีกไม่ถึงสัปดาห์แล้ว ที่สาวงามเจ้าของตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์อย่าง “ฝ้าย- สุภาพร มะลิซ้อน” จะได้เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประกวด “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2016” ที่ปีนี้เป็นปีแรกที่ก้าวออกจากประเทศไทยไปเปิดเวทีประชันสาวงามนานาชาติ ณ ลาสเวกัส สหรัฐฯ ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้
จึงถึงเวลาที่ต้องเช็คความพร้อมของสาวฝ้ายก่อนออกเดินทาง 8 ตุลาคมนี้
เอ่ยถึงความพร้อมตอนนี้ สุภาพรเผยว่า ตอนนี้เรียกว่าพร้อมแล้ว 80% ที่เหลือคือเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปทำให้เต็มที่เท่านั้น เพราะทั้งหมดถือเป็นประสบการณ์ในชีวิต ที่ผ่านมาได้เต็มที่กับการเตรียมตัวทั้งหมดแล้ว แม้เวลาจะไม่มากนัก ก็ซ้อมเดิน ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ เวิร์คช็อปแต่งหน้าทำผม รวมไปถึงดัดฟัน รุ่นพี่แต่ละคนก็ให้ความช่วยเหลืออย่างดีว่าต้องทำอะไรบ้าง
นอกจากนี้ เพื่อทำหน้าที่ตัวแทนของประเทศให้ดีที่สุด ฝ้ายจึงได้เตรียมชุดผ้าไทยแบบโมเดิร์น และกระเป๋าสานแบบไทยไปฝากเพื่อนๆนางงาม และที่สำคัญที่สุดกับชุดประจำชาติ “เดวา” ที่เจ้าตัวเลือกสรรมาเพื่อโชว์ความเป็นแผ่นดินทองของไทย ด้วยทำจากผ้าไทยทอมือทั้งผืน สีทองอร่าม ที่ฝ้ายฝึกโพสต์ให้ดูงามสง่าเพื่อให้ดูเลอค่าที่สุดในวันจริง
“ฝ้ายอาจจะเป็นนางงามหน้าใหม่ เมื่อได้ตำแหน่งก็ได้รับโอกาสมากมาย ได้ร้องเพลง เดินแบบ และกำลังจะได้เซ็นต์สัญญากับทางช่อง ชีวิตเปลี่ยนไปมากทำให้บางทีอาจมีเวลาเตรียมตัวไม่มากนัก แต่ก็พยายามเต็มที่กับการเตรียมตัว โดยเฉพาะกับคอมเม้นต์ของแฟนๆ ว่าชอบการแต่งหน้าแบบไหน เดินแบบไหน อะไรที่มีประโยชน์ฝ้ายก็เก็บมาพัฒนาอยู่ตลอด ไม่เคยคิดว่ามีประสบการณ์นางแบบมาแล้วฉันเก่ง ฉันมั่น ฝ้ายไม่เคยคิดแบบนั้น” ฝ้ายเผย
เรียกว่าใส่ใจทุกอณู และจากนี้ก็แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดที่นั่นก็พอ
“แม้เราจะบินไปเดินแบบต่างประเทศอยู่บ่อยๆ จนชิน แต่การไปประกวดครั้งนี้ตื่นเต้นมาก เหมือนขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เพราะฝ้ายรู้ว่าฝ้ายไปเป็นตัวแทนประเทศ ทำหน้าที่เพื่อคนไทย”
“ถามว่ากดดันไหม ฝ้ายเองไม่กดดันแม้ว่าคู่แข่งแต่ละประเทศจะน่ากลัวขนาดไหน แต่ฝ้ายคิดว่าเราทำตามฝันของเราดีกว่า เราเป็นเด็กผู้หญิงต่างจังหวัดคนหนึ่งที่อยากเติมฝันได้มีมงกุฎบนหัวของเรา แต่ฝ้ายไม่เครียด เพราะในทุกๆวันตั้งแต่ได้รับมงกุฎมา ฝ้ายไม่เคยทำไม่ดี ฝ้ายเต็มที่ทุกวันจริงๆ และฝ้ายก็ภูมิใจกับสิ่งที่ฝ้ายทำ ฝ้ายเชื่อว่าแฟนนางงามก็คงเข้าใจ
“ฝ้ายแค่คิดว่าเหนือกว่าชนะผู้อื่นก็คือชนะตัวเองพอ”
