เกร็ดน่ารู้ศาลาคนเศร้า รู้หรือไม่ น้ำตาแห่งความเสียใจ-ดีใจ รสชาติต่างกัน

น้ำตา
น้ำตา ภาพจาก pexels

เกร็ดน่ารู้ศาลาคนเศร้า รู้หรือไม่ น้ำตา แห่งความเสียใจ-ดีใจ รสชาติต่างกัน

14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ ใกล้เข้ามาทีไร ก็ต้องมีคนใจตึกตัก..ทั้งคาดหวังที่จะสมหวัง ในอีกทางหนึ่งก็เป็นช่วงเวลาวัดใจ ว่าจะได้ไปต่อหรือต้องถอยกลับมาซดน้ำตา

และเมื่อว่าด้วยเรื่อง “น้ำตา” แล้วก็มีเกร็ดน่ารู้น่าสนใจมาฝากเกี่ยวกับรสชาติของน้ำตาที่รสชาติขึ้นอยู่กับอารมณ์ด้วย

โดย ข้อมูลจากบทความ “รู้หรือไม่? ทำไมน้ำตามีรสเค็ม” เผยแพร่ในเว็บไซต์โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โดยระบุไว้ว่า

น้ำตา ไม่ได้เพียงไหลออกมาเมื่อเราร้องไห้ เสียใจ ดีใจ หรือหวาดกลัว เท่านั้น แต่มีประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะช่วยขจัดสิ่งแปลกปลอมและรักษาดวงตาให้ชุ่มชื้น

Advertisement

ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมน้ำตาถึงมีรสเค็ม เป็นเพราะส่วนประกอบของน้ำตา 98% คือ น้ำ และอีก 2% คือ สารและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น เกลือโพแทสเซียม เกลือโซเดียม ซึ่งสารสองชนิดนี้เป็นสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) สำคัญที่มีอยู่ในร่างกาย นอกจากนั้นในร่างกายของเรามีแร่ธาตุซึ่งมีเกลือเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่ของเหลวในร่างกายจะมีความเค็ม

อย่างไรก็ตาม “อารมณ์” ก็มีผลต่อความเค็มของน้ำตา กล่าวคือเมื่อเรามี “ความเครียดหรือเสียใจ” ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนแห่งความเครียด คือ ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมามาก ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมน้อย ดังนั้นเมื่อเราร้องไห้จึงทำให้น้ำตามีความเค็ม

Advertisement

แต่หากเราร้องไห้ด้วย “ความดีใจ” ร่างกายจะหลั่งสารอีกชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า เอ็นโดรฟิน (Endorphin) เป็นสารที่ทำให้มีความสุข ทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง ดังนั้นน้ำตาที่ออกมาจึงมีรสเค็มน้อยกว่าน้ำตาเวลาเครียดหรือเสียใจ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image