ผลวิจัยชี้ ‘กาแล็กซี’ มีมากกว่าที่คิด 20 เท่า

(ภาพ-NASA/ESA)

ทีมวิจัยทางด้านดาราศาสตร์นำโดย คริสโตเฟอร์ คอนเซลีซ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ เผยแพร่ผลงานการคำนวณจำนวนกาแล็กซีโดยอาศัยพื้นฐานจากการเปลี่ยนภาพถ่ายที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลให้เป็นแบบจำลอง 3 มิติ พบว่าปริมาณกาแล็กซีมีมากกว่าที่คิดกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่าง 10 ถึง 20 เท่าตัว

นักวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะนักดาราศาสตร์นั้นตั้งคำถามมาตั้งแต่ เอ็ดวิน ฮับเบิล นักดาราศาสตร์อเมริกันแสดงข้อเท็จจริงให้เห็นในปี 1924 ว่า แอนโดรมีดา ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก หากแต่เป็นอีกกาแล็กซีหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน แล้วว่าในจักรวาลทั้งหมดมีกาแล็กซีอยู่เป็นจำนวนเท่าใดกันแน่ อย่างไรก็ตาม การคำนวณหาจำนวนกาแล็กซีไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ในยุคปัจจุบันซึ่งมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายก็ตาม

กาแล็กซี คือระบบของดาวฤกษ์จำนวนหลายล้านหรือหลายพันล้านดวงที่ถูกยึดโยงเข้าไว้ด้วยกันโดยแรงโน้มถ่วงภายในกาแล็กซีมีระบบดาวเคราะห์เป็นจำนวนมากอยู่ด้วย ปัญหาส่วนหนึ่งในการนับจำนวนกาแล็กซีนั้นเกิดขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่าเทหวัตถุที่อยู่ห่างไกลจากโลกออกไปนั้นมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ปล่อยแสงสว่างออกมามากเพียงพอต่อการเดินทางมาถึงโลกได้ ส่วนนี้ของจักรวาลจึงถือว่าเป็น “จักรวาลส่วนที่สังเกตได้” หรือ “ออบเซอร์เวเบิล ยูนิเวิร์ส” ส่วนที่เหลือนั้นอยู่นอกเหนือจากขีดความสามารถในการสังเกตของมนุษย์

ศาสตราจารย์คอนเซลีซ ระบุว่า ผลที่ได้จากงานวิจัยครั้งใหม่แสดงให้เห็นว่าในจักรวาลมีกาแล็กซีที่สังเกตได้อยู่ระหว่าง 100,000 ล้านกาแล็กซี ถึง 200,000 ล้านกาแล็กซี ซึ่งแสดงว่า แม้แต่ใน “จักรวาลส่วนที่สังเกตได้” เทคโนโลยีที่มนุษย์มีอยู่ในปัจจุบันก็สามารถตรวจสอบศึกษาได้เพียงแค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ส่วนใหญ่ที่เหลือยังคงมีแสงเบาบางมากเกินไปสำหรับเทคโนโลยีที่มนุษย์มีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องชวนตื่นตาตื่นใจมากที่ยังมีกาแล็กซีอีกไม่น้อยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในจักรวาลที่ยังไม่มีการสำรวจศึกษา ไม่แน่นักว่าอาจมีการค้นพบคุณสมบัติที่น่าสนใจในบรรดากาแล็กซีที่เหลืออยู่เหล่านั้นก็เป็นได้

Advertisement

ทีมวิจัยสามารถใช้แบบจำลองใหม่นี้คำนวณย้อนหลังกลับไปเมื่อกว่า 13,000 ล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งเข้าใกล้กับช่วงเวลาของการเกิดบิ๊กแบง ที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดจักรวาลไม่น้อย และยังพบด้วยว่า เมื่อจักรวาลมีอายุเพียงไม่กี่พันล้านปีนั้น จำนวนกาแล็กซีต่อพื้นที่เฉพาะพื้นที่หนึ่งของจักรวาลนั้นมีมากกว่าในปัจจุบันนี้ถึง 10 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาจักรวาลได้เกิดวิวัฒนาการครั้งสำคัญ ที่ส่งผลให้จำนวนของกาแล็กซีลดลง

โดยทีมวิจัยเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเกิดขึ้นจากการรวมตัวเข้าด้วยกันของกาแล็กซีทำให้มีจำนวนลดน้อยลงนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image