ชิมชิล-ชิล : Yamazato โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปพักที่โรงแรมโอคุระ (Okura) ที่โตเกียว ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ อยู่ออกไปทางรปปงหงิ (Roppongi) ใกล้สถานทูตอเมริกา ถึงแม้จะไม่ได้ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่างกินซ่า (Ginza) แต่โรงแรมโอคุระก็สะดวกสบาย สงบ ไม่พลุกพล่าน ทั้งเป็นโรงแรม 5 ดาวเก่าแก่ที่มีการให้บริการดีเยี่ยม

โรงแรมเปิดทำการเมื่อปี 1962 และเป็นที่จัดประชุมต้อนรับแขกนานาชาติ อย่างการประชุม IMF เมื่อปี 1964 และประธานาธิบดี Ronald Reagan เคยมาพักเมื่อปี 1986 เมื่อครั้งเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ตลอดจนงานคอนเสิร์ต งานประชุมอีกมากมาย กิจการของโรงแรมดีจนมีการขยายต่อเติม South Wing ในปี 1972

ปัจจุบันตัวอาคารเก่าของโรงแรมกำลังทุบทิ้งและสร้างขึ้นมาใหม่ คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2019 ช่วงที่จะรื้อมีการประท้วงมากมาย เพราะเหล่าลูกค้าติดกับความเก่าแก่ของอาคาร และประวัติศาสตร์ยาวนาน ผมได้ข่าวยังนึกเสียดาย ถึงแม้ว่าอาคาร South Wing จะยังอยู่ เพื่อรองรับลูกค้าก็ตาม

โรงแรมโอคุระ โตเกียว มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ใครสนใจลองเข้าไปดูในเว็บไซต์เขาได้ครับ มีทั้งประวัติและภาพจำลองอาคารสูงใหม่ ในขณะเดียวกัน โรงแรมโอคุระก็มีสาขาไปทั่วโลก รวมทั้งที่กรุงเทพฯ ที่หัวถนนวิทยุ

Advertisement

และร้านอาหารประจำโรงแรมโอคุระร้านหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงคือ ร้านญี่ปุ่นที่ชื่อ ยามาซาโตะ (Yamazato) ร้านนี้ดังมาก ทั้งในเรื่องอาหารและบริการ โดยเฉพาะที่สาขา ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ที่ได้ดาวมิชลิน 1 ดาว

แหะๆ ที่เขียนโม้มา ไม่เคยกินที่ต่างประเทศหรอกครับ มัวแต่ไปเดินท่องถนน เพราะเวลาไปไกลๆ จะกินในโรงแรมก็เฉพาะอาหารเช้าที่เขารวมมากับค่าห้องแล้ว ไม่งั้นไปข้างนอกถูกกว่าเยอะ

ที่เมืองไทยเองก็ “ตั้งหลัก” หลายรอบ ค่าบทความที่ได้ ท่าทางไม่พ้นคอร์สแรก จานเดียวไม่อิ่ม แต่เมื่อเพื่อนชาวญี่ปุ่นขอเป็น “เจ้ามือ” จะช้าอยู่ไย รีบรับทันที!!

Advertisement

Yamazato ที่โรงแรม Okura Prestige กรุงเทพฯ อยู่สูงบนชั้น 24 ชั้นเดียวกับ “ล็อบบี้เช็กอิน” โรงแรม ทีแรกก็เสียวๆ เหมือนกัน แหม อาคารแค่ 12 ชั้น ไฟไหม้ยังไม่มีใครช่วยได้ แต่ด้วยเห็น “แก่กิน” ทั้งเชื่อว่า ญี่ปุ่นและผู้ลงทุนชาวไทยคงไม่ปล่อยปละละเลยทางหนีทีไล่ ทำใจลุยดีกว่า

IMG_3779

วิวสวยครับ เพราะมองเห็นไปได้ไกล อาคาร “ระฟ้า” เมืองเทพแดน 8 สวรรค์มีจำนวนมาก เขาชวนมื้อกลางวัน อากาศโปร่ง ท้องฟ้าใส ส่วนตัวร้านตกแต่งเรียบๆ โมเดิร์นแบบญี่ปุ่น มีบริเวณที่นั่งรวม และห้องส่วนตัวเพื่อรองรับนักธุรกิจ และผู้ที่ไม่อยากให้คนเห็นเป็นข่าวได้ พนักงานเรียบร้อย เป็นคนไทยแต่แต่ง “กิโมโน” พูดจาเป็นญี่ปุ่นตาม “ตำรา” ที่ญี่ปุ่นจะต้อง “ฝึกอบรม” จนเข้าที่ เรื่องนี้สำคัญมาก พนักงานร้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะถูก “หล่อหลอม” ในวัฒนธรรม เพื่อการให้บริการที่เรียบร้อยประทับใจ ขนาดร้านแถวๆ บ้านไม่ต้องถึงกับ 5 ดาว ยังต้องประชุมกันทุกวัน พร้อมซ้อมกล่าว “ต้อนรับ” และ “ขอบคุณ” ตลอด

เพื่อนญี่ปุ่นจองห้องส่วนตัว เพราะคงอยาก “คุยงาน” และสั่งเป็นเซตคอร์ส 8 จาน รวมของหวาน การเสิร์ฟมาทีละชุด จัดเรียงอย่างสวยงาม ผมต้องขอโทษเพื่อนญี่ปุ่นที่ต้องเสียมารยาทด้วยการ “ขอถ่ายรูป” ซึ่งเขาเข้าใจ เพราะรู้ว่าผมเขียนเรื่องอาหารอยู่ทุกสัปดาห์

ชุดแรกมีสามอย่างในถาดเดียวกัน เป็นจานแรก (Starter) คือเนื้อเป็ดตุ๋นในไวน์แดง, มะเขือยาว, พริก และเห็ดไมตาเกะกับวาซาบิ พร้อมด้วยซุปลูกชิ้นกุ้ง, เห็ดชิเมจิ ใส่ยูซุหรือรสส้ม ทำให้ออก “เปรี้ยวๆ” นิดหน่อย ตามด้วยปลาดิบ รวมแล้วฟังดูเยอะ แต่จริงๆ ไม่กี่คำ กำลังพอดี

จานต่อมาเป็น “ปลาย่าง” มีทั้งปลา Yellow Tail, หอยเชลล์, ขิง, พริกเขียว ราดด้วยซอสเนยกับมิโซ รสออกหวานๆ ตามด้วยปลาและผักตุ๋น มีกุ้ง, เต้าหู้ และอื่นๆ ที่ดูไม่ออก แต่ทานแล้วไม่อยากคุยกับเพื่อน ปิดท้ายของคาวด้วยข้าวผัดสาหร่ายหน้าปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน มากับซุปมิโซ

ของหวานเป็นผลไม้กับพุดดิ้งชาจีน

อร่อยหมดทุกอย่าง รวมถึงกาแฟปิดท้ายครับ รอวันเพื่อนชวนอีกรอบ ไม่เกี่ยงแน่ๆ ว่าแต่ว่า เขาจะชวนหรือเปล่าเท่านั้น!!

IMG_3733

IMG_3734

IMG_3736

IMG_3745

IMG_3754

IMG_3760

IMG_3761

IMG_3769

IMG_3772

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image