‘ป้าติ๋ม’ หญิงไทยบนซอง Hershey’s สุดดีใจได้รับเลือก หวังคนวงกว้างรู้จัก ร่วมเมตตาหมา-แมวจร

‘ป้าติ๋ม’ ดีใจ ได้จารึกบนซองช็อกโกแลต Hershey’s แบรนด์ดังระดับโลก ประกาศขายบ้านพักที่สระบุรี 25 ล้านบาท ที่ชลบุรี 16 ล้านบาท นำเงินมาใช้หนี้-เลี้ยงหมาจรจัด

จากกรณีช็อกโกแลต Hershey’s แบรนด์ดังระดับโลก ติดต่อ นางกวิพร วินิจเถาปฐม หรือ ป้าติ๋ม เพื่อขออนุญาตนำภาพขึ้นหน้าซองผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเคมเปญสนับสนุนพลังสตรี นำภาพสตรีที่มีเรื่องราวในการทำ เพื่อสังคมทั่วโลกมาทำฉลาก

เมื่อวันที่ 2 กมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางกวิพร วินิจเถาปฐม หรือ ป้าติ๋ม วัย 73 ปี ที่บ้านพักใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พบว่า “ป้าติ๋ม” ยังสุขภาพแข็งแรง ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกันนี้ยังได้พูดคุยกับ นายอนันต์ธรณ์ วินิจเถาปฐม หรือ เทป ลูกชายของป้าติ๋ม

ย้อนไทม์ไลน์ดูแลสัตว์จรจัด

ระหว่างนั้น นางกวิพร หรือป้าติ๋ม กำลังเตรียมอาหารและหุงข้าวเพื่อเลี้ยงสุนัขที่อยู่ในบ้านกว่า 70 ตัว และสุนัขจรจัดบนท้องถนนใน อ.แก่งคอย ที่ป้าติ๋มเริ่มเลี้ยงมาตั้งแต่ พ.ศ.2546 ซึ่งขณะนั้นป้าติ๋มมีบ้านอยู่ จ.นนทบุรี โดยเลี้ยงสุนัขจรจัดไว้ในบ้านกว่า 800 ตัว

ต่อมา พ.ศ.2554 เจอน้ำท่วมหนัก จึงได้ไปช่วยสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ตามที่ที่ถูกน้ำท่วม แล้วนำมาดูแลไว้ที่บ้านอีกจำนวนมาก จนกระทั่ง พ.ศ.2555 ตัดสินใจซื้อที่ดิน 30 ไร่ ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลชุมชน แล้วทำคอกให้หมาอยู่

Advertisement
ป้าติ๋ม กวิพร วินิจเถาปฐม

มีรายงานว่า ช่วงเวลานั้นป้าติ๋มยังมีกำลังทรัพย์เลี้ยงหมาจรจัดจำนวนมาก แต่ก็ได้ทยอยขาย “รถโม่ปูน” ที่ใช้ในการทำธุรกิจ เพื่อนำเงินมาสร้างคอกหมาตามแบบที่ตั้งใจไว้ โดย “ป้าติ๋ม” ยอมรับว่า หมดเงินไปกับการสร้างคอกหมาราว 100 ล้านบาท

หลังจากทำคอกหมาที่ จ.สระบุรี เสร็จแล้ว “ป้าติ๋ม” ตัดสินใจขายบ้านที่ จ.นนทบุรี ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก่อนมาซื้อบ้านที่ จ.สระบุรี เพื่อให้ตัวเองได้อยู่ใกล้กับคอกหมาที่ทำไว้ เมื่อเวลาผ่านไปธุรกิจโรงโม่ปูนเริ่มมีปัญหา ทุนทรัพย์ที่ใช้ดูแลหมาแมวจรจัดเริ่มลดลง จากเดิมมีค่าใช้จ่าย (ในการดูแลสัตว์) เดือนละกว่าล้านบาท จึงเริ่มคุมค่าใช้จ่ายให้เหลือเดือนละประมาณ 5 แสนบาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement

ดีใจได้ขึ้นหน้าซอง Hershey’s

นางกวิพร หรือ ป้าติ๋ม เผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมเคมเปญของ Hershey’s ไม่คาดคิดว่าการกระทำของตนเองจะมีคนสนใจและนึกถึง ครั้งแรกลูกชายมาบอกว่ามีช็อกโกแลต Hershey’s จะเอาภาพแม่ไปลงในซองช็อกโกแลต ตนไม่ได้สนใจอะไร ไม่รู้ว่าที่เลือกตนไปลงซองช็อกโกแลตแล้วจะเป็นอย่างไร คิดว่าตัวเองไม่ใช่ดารา จะไปช่วยยอดขายเขาได้อย่างไร

ป้าติ๋มกล่าวว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม ลูกชายโทรมาบอกว่าซองช็อกโกแลต Hershey’s มีรูปแม่ลงไปแล้วนะ จึงให้ลูกชายเอามาดูก็ยังไม่รู้สึกอะไร กระทั่งมีเพื่อนส่งไลน์มาให้ดูว่าฮือฮา หญิงไทย ซึ่งตนก็งงๆ อยู่ เพราะมีการเอาไปลงในยูทูบด้วย

“คิดว่าดีเหมือนกันกับสิ่งที่ได้ทำ เพราะมีคนบางพวกไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเราทำอะไร ทำไปทำไม ซึ่งทำไปเพราะมีเมตตา สงสาร ไม่อยากให้มีการเพิ่มจำนวน จึงทำหมัน (สัตว์จรจัด) มาได้ประมาณ 20 ปี ถามว่าดีใจไหมที่ Hershey’s เอารูปไปลง รู้สึกว่าดีในแง่ที่ว่าเขาจะได้ช่วยด้านการประชาสัมพันธ์” ป้าติ๋มกล่าว

‘ในหลวง’ พระราชทานเงินช่วยเหลือค่าอาหารสัตว์

ป้าติ๋มกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้อยู่ด้วยความลำบาก ที่ลำบากเพราะเรารับสุนัขมาแล้ว จะทิ้งก็ไม่ได้ และมีค่าใช้จ่ายทุกวัน ต้องกินทุกวัน ซึ่งเราทำคนเดียวไม่ไหว เพราะสุนัขเยอะ ต้องมีแรงงานเข้ามาช่วย ทำให้มีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเกือบล้านบาท

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินค่าอาหารสุนัขเดือนละ 100,000 บาท เริ่มตั้งแต่ เดือนกันยายน 2564 โดยจะมีรถนำอาหารมาส่งให้ทุกเดือน และมีผู้แทนพระองค์มาติดตามดูทุกเดือน ซึ่งก็ยังไม่พอเลี้ยงดูสุนัข เพราะต่อวันใช้อาหาร 29 กระสอบ มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ 1,200-1,300 ตัว และยังมีแมวอีก 600 ตัว ซึ่งเป็นสุนัขและแมวที่เจ้าของทิ้งไว้ ถ้าเป็นสุนัขพันธุ์ส่วนมากจะหาบ้านให้ได้” ป้าติ๋มกล่าว

ประกาศขายบ้าน หวังต่อชีวิตหมา-แมวจรจัด

ป้าติ๋มกล่าวเสริมว่า ช่วยหมามาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2546 จากนั้นก็เลี้ยงเรื่อยมา ส่วนเงินที่นำมาเลี้ยงเป็นเงินจากการทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ มีรถโม่ปูนวิ่งรับส่งอยู่ 280 คัน ตอนนี้ขายไปหมด เหลืออยู่ไม่ถึง 10 คัน

ป้าติ๋มบอกว่า ตอนนี้ประกาศขายบ้านที่ จ.สระบุรี ด้วย ราคาน 25 ล้านบาท รวมทั้งบริเวณสี่แยกเนินหิน พนัสนิคม จ.ชลบุรี ราคา 16 ล้านบาท ทั้งนี้ ประกาศขายเพื่อจะนำเงินมาดูแลสุนัขที่เลี้ยงดูให้มีชีวิตรอดไปวันๆ ซึ่งต้องใช้เงินดูแลทุกวัน คิดว่าที่ทำเกิดจากความสงสารและเมตตาต่อสุนัข ส่วนที่ว่าใช้เงินเยอะเพราะมีหมาที่อยู่ในความดูแลเยอะ และทำไม่ไหวก็ต้องจ้างแรงงานเข้ามาช่วย ถ้าทำคนเดียวก็ไม่ไหว

ป้าติ๋มกล่าวว่า อยากหาคนมาซื้อบ้านจะได้มีเงินมาเลี้ยงหมา ไม่ต้องไปขอใครเขา ซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยขอใคร ส่วนที่ต้องขอเพราะมีหมามากขึ้น ธุรกิจทรุดตัวลงจึงจำเป็นต้องขอ ส่วนผู้ที่ประสงค์จะให้ความช่วยเหลือดูแลสัตว์จรจัด ติดต่อได้ที่เพจ บ้านนางฟ้าของสัตว์จร

Hershey’s ติดต่อมาเอง ยืนยันไม่รับค่าจ้าง

ด้าน นายอนันต์ธรณ์ หรือ เทป ลูกชายป้าติ๋ม  เล่าว่า ช็อกโกแลต Hershey’s โทรมาหาเมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ.2565 บอกว่าจะทำแคมเปญหนึ่ง โดยแม่ของตนเป็นตัวแทนสตรีที่ช่วยเหลือสังคม จะนำภาพแม่ไปลงในผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต เขาติดต่อมาที่เราไม่ได้ขอไป ส่วนค่าจ้าง ค่าโฆษณา เราไม่ได้รับใดๆ เลย

นายอนันต์ธรณ์กล่าวว่า การที่เขานำภาพแม่ไปลงซองช็อกโกแลต ซึ่งเขาเป็นแบรนด์ระดับโลก ช่วยทำให้เรามีชื่อเสียง ช่วยให้คนได้รู้จัก จะมาช่วยเหลือทำบุญหมาแมวจรจัด ซึ่งแม่มีอยู่เกือบ 2,000 ตัว มีค่าใช้จ่ายมหาศาลมาก

อนันต์ธรณ์ หรือเทป ลูกชายป้าติ๋ม

“บนซองช็อกโกแลตจะมีคิวอาร์โค้ดอยู่ สามารถสแกนเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับเพจได้ แต่ตอนนี้ยังเข้าไม่ได้ ต้องประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม จึงสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ โดยเป็นข้อมูลจากเว็บ Hershey’s เอง ในนั้นจะมีข้อมูลของแม่และคนอื่นๆ ด้วย” นายอนันต์ธรณ์กล่าว

ลูกชายป้าติ๋มกล่าวอีกว่า สตรีที่ได้อยู่บนซองช็อกโกแลตในทวีปเอเชียประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และสิงค์โปร ประเทศละ 1 คน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image