ถึงแม้วันวาเลนไทน์เพิ่งผ่านไป แต่ใช่ว่าในชีวิตคนเรา จะมี “โอกาสพบรัก” หรือมีความรักแค่วันวาเลนไทน์ซะที่ไหนล่ะ
ทุกวัน สามารถเป็น “วันวาเลนไทน์” ได้เสมอ ยิ่งปัจจุบันที่เรามี “ตัวช่วย” อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร และ “บริษัทจัดหาคู่” ซึ่งในช่วงวันแห่งความรักที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “แคโรไลน์ บรีลี่ย์” สาวสวยนักจัดหาคู่มือรางวัล เจ้าของบริษัทจัดหาคู่ “มิวชวล แอทแทรคชั่น” ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้เขียนเล่าถึงที่มาที่ทำให้เธอสนใจทำธุรกิจนี้ และคุณสมบัติต่างๆ ที่เธอพิจารณาในการ “จับคู่” ให้แก่ลูกค้า โดยแคโรไลน์เล่าว่า เธออยู่ในธุรกิจจัดหาคู่มาเกือบ 5 ปี โดยเริ่มต้นจากความสนใจของเธอเอง ที่สนใจในเรื่องราวชีวิตของผู้คน และสนใจว่าอะไรที่ดึงดูดคนเราให้มารักกัน อยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แล้วประกอบกับว่าในช่วงเวลานั้น ในลอนดอนยังไม่มีบริษัทจัดหาคู่ที่เน้นเฉพาะเจาะจงลงไปในกลุ่มคนอายุ 20 กว่า, 30 กว่า และ 40 กว่า
“ฉันก็เริ่มต้นทำ มิวชวล แอทแทรคชั่น จากตรงจุดนั้น โดยตอนแรกฉันก็ไม่รู้เลยว่ามันจะไปยังไง จนกระทั่ง 5 ปีต่อมา ที่ฉันสามารถทำให้ลูกค้าหลายคู่ลงเอยกลายเป็นคู่รักกัน หรือแม้กระทั่งลงเอยด้วยการแต่งงานและมีลูก ในช่วงแรกๆ ฉันมีลูกค้าแทบทุกช่วงอายุที่เข้ามาติดต่อ และฉันมีโอกาสซักถามพูดคุย แม้แต่คนวัย 70 กว่า ก็เคยเดินเข้ามาที่บริษัทให้ฉันช่วยจัดหาคู่ให้ ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกดี ที่รู้สึกได้เลยว่า พวกเขาต้องการความรัก แต่ไม่ได้ต้องการเรื่องกามารมณ์”
แคโรไลน์เขียนเล่าในหนังสือเทเลกราฟว่า จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจจัดหาคู่ของเธอ ทำให้เธอเห็นเลยว่า คนส่วนมากมักจะชอบ “ตั้งสเปก” คู่ที่พวกเขาอยากได้ “หน้าที่ของฉันก็คือ ต้องบอกให้พวกเขาลืมสิ่งต่างๆ เหล่านั้นไปให้หมด เพราะไม่ว่า สีผม สีดวงตา หรือว่าส่วนสูง มันไม่มีความสำคัญอะไรทั้งนั้น สิ่งสำคัญก็คือ การหาใครสักคนที่คุณจะใช้ชีวิตด้วยต่างหาก ซึ่งฉันต้องพยายามอย่างมากในการเปลี่ยนกรอบความคิดของพวกเขาใหม่”
แล้วอะไรล่ะ ที่เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ควรต้องพิจารณา แคโรไลน์บอกว่า “ฉันจะชั่งน้ำหนักว่า ใครเหมาะสมที่จะออกเดตกับใคร โดยดูจากความสนใจและความต้องการของพวกเขาเป็นหลัก ส่วนเวลาพวกเขาออกเดตกันแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา แต่ที่ฉันพูดได้ก็คือ คนส่วนใหญ่มักจะเกร็ง และให้ความสำคัญกับการออกเดตครั้งแรกมากเกินไป ซึ่งฉันไม่คิดว่านั่นจะเป็นผลดี สิ่งที่ฉันอยากจะแนะนำก็คือ ไม่ต้องเกร็ง หรือเห็นมันเป็นเรื่องใหญ่จนเกินไป”
ในฐานะนักจัดหาคู่ แคโรไลน์บอกว่า หน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเธอก็คือ การรับฟังเสียงสะท้อนของลูกค้า หลังจากที่พวกเขาได้ออกเดตกันแล้ว ซึ่งเธอจะนัดแยกคุยกับลูกค้าเป็นรายบุคคล ซึ่งที่ผ่านมา ส่วนมากลูกค้าที่เธอจับคู่ให้มักจะมีเสียงสะท้อนคล้ายๆ กันทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีบางคู่ที่อีกฝ่ายดูกระตือรือร้น แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีความกระตือรือร้นที่จะสานสัมพันธ์ต่อ ซึ่งหน้าที่ของเธอก็คือ ต้องหยุด
ทั้งนี้ แคโรไลน์ยังพูดถึงคุณสมบัติของการเป็นนักจัดหาคู่ว่า จำเป็นต้องรักที่จะทำงาน ติดต่อกับผู้คน และจำเป็นต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วย เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และจะต้องเตรียมพร้อมที่จะกล้าให้คำแนะนำ กล้าบอกถึงแม้ในกรณีที่การออกเดตน่าจะจบลงไม่สวย และต้องเป็นคนขยันตั้งคำถามเพื่อค้นหาความต้องการของลูกค้า หรือสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา นอกจากนั้นยังต้องเป็นคนเฟรนด์ลี่ มีมนุษยสัมพันธ์ดี และเป็นคนเข้มแข็งที่สามารถจะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับตัวเขาเอง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พบคนที่ใช่
