เปิดกฎหมาย ‘บูลลี่’ ราคาที่ต้องจ่าย! ‘ดีเจมะตูม’ เผยบาดแผลอดีต ทำให้เข้าใจ ‘คนถูกรังแก’
อย่าคิดว่าการหยอกล้อเล็กๆ น้อยๆ จะไม่เป็นอะไร เพราะสมัยนี้อาจขยายวงกว้าง และสร้างบาดแผลยาวนานให้คนๆ หนึ่งทุกข์ระทมไปตลอดชีวิตก็ได้ ฉะนั้นพึงระวังคำพูดและการกระทำของเราให้ดี หรือหากเราเป็นผู้ถูกกระทำ เราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไร
เป็นฮาวทูดีๆ ในงานแถลงข่าวเปิด โครงการ “รัก…ในวัยเรียน” ซึ่งหวังลดการกระทำความรุนแรงในสังคม โดยเฉพาะการบูลลี่กัน ซึ่งมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร พม. พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า พยาบาล (สบ.5) กลุ่มงานพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะที่ปรึกษาปลัด พม. ด้านสื่อสารสังคม และผู้ดูแลเพจ Because We Care ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ณ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การบูลลี่เป็นมิติหนึ่งของการใช้ความรุนแรง ปัจจุบันมีกฎหมายที่เข้ามาควบคุมดูแล อย่างหากมีการบูลลี่กัน สามารถเอาผิดฐานหมิ่นประมาท หรือหากเป็นการกระทำผิดทางออนไลน์ สามารถเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ได้ ฉะนั้นฝากให้คนในสังคมไม่บูลลี่กัน
พฤติกรรมบูลลี่เข้าข่ายกระทำความผิดหลายมาตรา ทั้งในประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ดังนี้
ประมวลกฎหมายอาญา
-กรณีใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม และทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จะมีความผิดฐาน หมิ่นประมาท ผิดมาตรา 326 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,
-หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ไม่ว่าจะใช้ภาพ หรือตัวอักษร หรือบันทึกเสียง หรือบันทึกภาพ หรือป่าวประกาศด้วยวิธีใดๆ ผิดมาตรา 328 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท,
-ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว ตกใจ โดยการขู่เข็ญ ผิดมาตรา 392 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,
-รังแก ข่มเหง คุกคามผู้อื่น หรือทำให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ ผิดมาตรา 397 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ในส่วน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
-กรณีแฮคเกอร์ เข้าไปดูข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการใช้ชื่อและรหัสผ่านของผู้อื่น เข้าสู่ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดมาตรา 5 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ส่วนกรณีโพสต์หรือแชร์ข้อมูลปลอม ไม่เป็นความจริง หลอกลวง เช่น แม่ค้าออนไลน์โพสต์หลอกลวงเพื่อเก็บเงินลูกค้า โฆษณาธุรกิจลูกโซ่ โพสต์ข่าวปลอม เป็นต้น
-กดไลค์หรือแชร์ข่าวหรือข้อมูลปลอม อันเป็นการให้เพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เห็นข้อมูลดังกล่าวด้วย เป็นแอดมินที่ปล่อยให้มีข่าวหรือข้อมูลปลอมเผยแพร่ในเพจตัวเอง โดยมิได้ทำการลบทิ้ง ตลอดจนโพสต์หรือเผยแพร่ภาพเปลือย ลามกอนาจารของคนรู้จัก หรือคนรักเก่า อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเสียหาย
หากเป็นการกระทำที่ส่งผลถึงประชาชน เป็นการกระทำผิดมาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเป็นกรณีที่เป็นการกระทำที่ส่งผลต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(แต่กรณีหลังสามารถยอมความกันได้)
-กรณีเผยแพร่ข้อมูลเยาวชน โดยไม่มีการปกปิดตัวตนของเยาวชนนั้น โดยตามกฎหมายหากเปิดเผยตัวตนเยาวชนสู่สาธารณะ อาจทำให้ใช้ชีวิตสังคมลำบาก อาจถูกดูหมิ่น เกลียดชัง
-เผยแพร่ภาพของผู้เสียชีวิต อันส่งผลให้พ่อแม่หรือคู่สมรสของผู้ตาย เกิดความอับอาย เป็นการกระทำผิดมาตรา 16 มีจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม เล่าถึงประสบการณ์ที่เคยเป็นคนถูกบูลลี่และบูลลี่กลับคนอื่นๆ ว่า สมัยวัยเรียนถูกบูลลี่ว่าเป็นตุ๊ด ถูกเรียกว่าเปรต จึงผลักความเกลียดชังด้วยการบูลลี่คนอื่นกลับ เข้าทำงานวงการบันเทิงก็ยังติดนิสัย ผลักพลังลบไปสู่คนอื่นโดยไม่รู้ตัว
“จนมีเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ที่ผมติดโควิด-19 และถูกสังคมตราหน้าถูกดำเนินคดีความ วันนั้นทำให้ได้รู้จักคำว่าบูลลี่ที่แท้จริง คือคนที่ไม่เคยเจอไม่รู้จักอ่านและเสพข่าวเราพร้อมใจกันบูลลี่จนติดเทรนทวิตอันดับหนึ่งของโลก ผมถูกพักงานจากวงการบันเทิง จนรู้สึกไม่อยากมีชีวิตต่อ
“แต่สิ่งที่ทำให้ผมกลับมายืนตรงนี้ได้ เพราะเชื่อในความเท่าเทียมกันในคุณค่าความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าเพศสภาพใด ทำงานที่ไหน จะมีเงินหรือไม่มี จะดังหรือดังไม่ดัง ก็เป็นคนเท่ากัน เริ่มรู้จักรักในคุณค่าตัวเอง และคิดว่าไม่มีใครลดทอนคุณค่าของเราได้นอกจากตัวเราเอง ผมจึงเลือกเดินออกมาขอโทษทุกคนที่เคยล่วงเกินทั้งทางกายและใจ”
โครงการรัก…ในวัยเรียน เตรียมนำร่องทำกิจกรรมกับนักรียนในโรงเรียนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในห้วงเดือนแห่งความรัก อาทิ การให้ความรู้เรื่องกฎหมายการบูลลี่, การปฏิบัติตนเมื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ และช่องทางการแจ้งเหตุฉุกเฉิน, การให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
หวังสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกคน เพื่อลด ละ เลิกการบูลลี่กัน
