หัวเว่ยขยับส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน ยอดขายโตกว่า 200%

ต้องยอมรับว่า ชื่อของ หัวเว่ย ถือเป็นอีกชื่อหนึ่งที่เริ่มผงาดขึ้นมาในตลาดของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย หลังจากการปล่อยหมัดเด็ดด้วยสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับเลนส์ไลก้า ทำเอาแฟนๆ มือถือผู้คลั่งไคล้การถ่ายภาพ ยั้งใจไม่อยู่ ต้องขวนขวายหาสมาร์ทโฟนหัวเว่ยมาใช้กัน

และล่าสุด หัวเว่ยก็ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ทโฟนพรีเมียม 2 รุ่นใหม่ในไทย คือ หัวเว่ย เมท 9 ซีรีส์ (Huawei Mate 9 Series) และหัวเว่ย จีอาร์ 5 2017 (Huawei GR5 2017) ที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่คุณภาพระดับโลก พร้อมการประกาศผลการดำเนินงานของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยในประเทศไทยในปีนี้ที่มียอดขายโตสวนกระแสกันเลยทีเดียว

นายไมเคิล จิ่ง ผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปี 2559 ถือเป็นปีทองของหัวเว่ยในประเทศไทย เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังทรงตัว แต่หัวเว่ยกลับมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้กว่า 3 เท่าตัว เกินกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ ด้วย 3 ปัจจัยสำคัญคือ การเพิ่มช่องทางจำหน่าย สินค้าที่มีคุณภาพ และการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำที่เสริมความแข็งแกร่งของกันและกัน

ในด้านการขยายช่องทางจำหน่าย นายจิ่งกล่าวว่า หัวเว่ยได้เริ่มจำหน่ายมือถือผ่านผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่และเพิ่มร้านตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทุกพื้นที่และทุกช่องทางให้ความสะดวกแก่ผู้บริโภคในการซื้อหาสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยได้ง่ายขึ้น และประการที่ 2 ที่ส่งผลต่อความสำเร็จ คือ คุณภาพของสินค้าระดับพรีเมียม แต่เป็นราคาที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ อันเป็นผลมาจากการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยหัวเว่ยจะแบ่งงบ 10 เปอร์เซ็นต์ของผลประกอบการทุกปีมาใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้การเป็นพันธมิตรกับผู้นำธุรกิจของโลกยังช่วยผสานจุดแข็งของทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน
Huawei GR5 2017 (ข้างหน้า)

Advertisement

เพื่อสร้างสรรค์และนำเสนอสมาร์ทโฟนคุณภาพสูง ที่มีคุณสมบัติการใช้งานที่โดดเด่น อย่างเช่นความสำเร็จของหัวเว่ย พี 9 และพี 9 พลัส (Huawei P9 และ P9 Plus) ที่ปัจจุบันมียอดขายกว่า 9 ล้านเครื่องทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดขายเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคุณภาพของสินค้าที่ดี ทำให้ผู้บริโภคไทยมีความเชื่อมั่นต่อหัวเว่ยเพิ่มขึ้น และแบรนด์ของหัวเว่ยมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่ชื่นชอบและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เราจะบุกตลาดต่อเนื่องด้วยสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกล้องคู่ คือ หัวเว่ย เมท 9 ซีรีส์ และหัวเว่ย จีอาร์ 5 2017 เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดทั้งในกลุ่มราคาระดับบนและระดับกลาง เราเชื่อว่าทั้ง 2 รุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกันและเป็นการสานต่อหัวเว่ย พี 9 ซีรีส์ สมาร์ทโฟนพร้อมกล้องคู่รุ่นแรกของเรา”

โดยหัวเว่ย เมท 9 ซีรีส์ ประกอบไปด้วย หัวเว่ย เมท 9 และหัวเว่ย เมท 9 โปร สำหรับการเปิดตัวในไทยนั้น นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหัวเว่ย เมท 9 ซีรีส์ เป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ที่ผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัยได้อย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติเด่นประกอบด้วย ชิป Kirin 960 ชิปประมวลผลสมาร์ทโฟนที่ทรงประสิทธิภาพ เทคโนโลยี SuperCharge ทำให้ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 20 นาทีสำหรับการใช้งานหนึ่งวันเต็ม และกล้องเลนส์คู่จากไลก้า (Leica) รุ่นที่ 2 พร้อมไฮบริดซูม 2 เท่า โมโนโครมเซ็นเซอร์ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และอาร์จีบีเซ็นเซอร์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

Advertisement

ขณะที่ PORSCHE DESIGN Huawei Mate 9 คือ สมาร์ทโฟนรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น มีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 800 เครื่องเท่านั้น และพร้อมยกระดับสมาร์ทโฟนในทุกๆ ระดับด้วยการผสานความหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์พอร์ช ดีไซน์ เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีของโทรศัพท์เคลื่อนที่

และหัวเว่ย จีอาร์ 5 2017 สมาร์ทโฟนกล้องคู่ราคาไม่เกินหมื่นตัวแรกของประเทศไทยมาพร้อมดีไซน์ มีประสิทธิภาพในการทำงานรวดเร็ว แบตเตอรี่ที่ทนทาน กล้องหลัง 2 กล้องที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและ 2 ล้านพิกเซลได้ จึงสนุกกับการถ่ายภาพอย่างมืออาชีพได้เต็มที่

นายทศพรกล่าวทิ้งท้ายว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รุ่นที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเหนือระดับ คุณสมบัติการใช้งานที่โดดเด่น ดีไซน์พรีเมียม และกล้องคู่ที่เข้าถึงผู้บริโภคในทุกๆ ระดับ ไม่ว่าจะในผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ และผู้บริโภคทั่วไปในวงกว้างจะช่วยทำให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของการรับรู้ของแบรนด์และยอดขายอย่างแน่นอน

และยิ่งได้พรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดอย่าง “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” ก็น่าจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งและสร้างการจดจำรับรู้ของแบรนด์ได้ชัดเจนได้มากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image