เปิดใจ ‘บิ๊กอู๋’ จากตำรวจสายบู๊ สู่3ปี ‘เจ้ากระทรวง’ สายบุญ

“ทํางานที่นี่เหมือนได้ทำบุญทุกวัน อย่างเวลามีเคสเด็กถูกกระทำความรุนแรง หรือคนไม่มีที่อยู่อาศัย ผมก็มอบนโยบายออกไป พมจ.ก็ออกไปดำเนินการช่วยเหลือ ฉะนั้น กระทรวงนี้ทำแล้วมีแต่เรื่องบวก ส่วนตัวยังคิดว่ากระทรวง พม.ย่อมาจาก พ่อ แม่ คือเป็นผู้ให้”

บิ๊กอู๋ – พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เล่าระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษ ในโอกาสสรุปผลงาน 2 ปี และประกาศนโยบาย พม.สู่ปีที่ 3

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทำเยอะ ทำในทุกมิติงานตามนโยบาย จะเห็นว่างานหลายอย่างเกิดผลเป็นรูปธรรม อาทิ เรื่องการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ที่ประเทศไทยขึ้นจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 วอตช์ลิสต์ ในรายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ ปี 2559 และคิดว่าจะดีขึ้นในการประเมินปีต่อๆ ไป, การผลักดันแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดง (พ.ศ.2559-2561) ค้างคามา 16 ปี 5 รัฐบาล ตั้งแต่ปี 2543 จนผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเตรียมสร้างอาคารใหม่หลังแรกเดือนธันวาคมนี้

นอกจากงานที่เน้น งานที่ภูมิใจ บิ๊กอู๋ยังเล่าถึงผลงานอื่นๆ เริ่มเห็นหน้าเห็นหลัง เช่น โครงการจากถนนสู่ดวงดาวที่นำกลุ่มคนตาบอดที่มีความสามารถทางดนตรีมาเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพจนสามารถสร้างผลงานคุณภาพและเริ่มได้รับการยอมรับจากสังคม กระตุ้นหน่วยงานรัฐและเอกชนจนเริ่มหันมาจ้างงานหรือสนับสนุนโอกาสคนพิการ จัดระเบียบคนขอทานจนสามารถลดปริมาณคนขอทานไปได้มาก ฯลฯ

Advertisement

ผลงาน 2 ปีเคยเป็นข่าวไปแล้วนั้น ซึ่ง “โดยรวมถือว่าพอใจ” พล.ต.อ.อดุลย์เอ่ยปาก

แต่สิ่งที่ พล.ต.อ.อดุลย์เข้ามาเปลี่ยนจริงๆ คือระบบการทำงานของ พม. โดยเฉพาะการตั้งวอร์รูม ที่เรียกผู้บริหาร พม.มาประชุมมอนิเตอร์สถานการณ์ด้านสังคม รับทราบความเคลื่อนไหวการทำงาน และสั่งการแก้ปัญหาทุกเช้า ทำให้จากที่อาจทำงานให้จบไปวันๆ ก็มาทำงานอย่างมีเป้าหมายและแอ๊กทีฟมากขึ้น พร้อมมีกลไกประเมินผู้บริหารเป็นระยะ ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย

“อย่างถ้า 6 เดือนผ่านไปงานไม่เคลื่อนเลย ก็จะปรับลดระดับลงไปก่อน แต่ไม่ใช่ว่าคนที่ถูกปรับต้องมีโทษ แต่ปรับเพื่อให้คนที่คิดว่ามีประสิทธิภาพไปลองทำ ทั้งนี้ ทุกคนเป็นพี่น้องหมด เหมือนเราเป็นพี่เขา เป็นข้าราชการเหมือนกัน จึงให้โอกาสทุกคนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจทุกคน แต่ปรับแล้วให้โอกาส หากทำได้ก็มีโอกาสต่อ”

Advertisement

 

ก้าวต่อไปงานพม.ปีที่ 3

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ในส่วนงานขับเคลื่อน พม.ปี 2560 ได้มอบนโยบาย 3 เอ คือนโยบายเร่งด่วน (Agenda based) 9 เรื่อง บริหารและพัฒนา (Administration based) 5 เรื่อง และนโยบายขับเคลื่อนระดับพื้นที่จังหวัด (Area based) โดยมุ่งเน้นความต่อเนื่องของงาน ขณะเดียวกันเน้นการทำงานเชิงรุกในประเด็นสำคัญ เช่น การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งคิดว่าจากประสบการณ์ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เรามีวิธีการทำงานที่กระชับขึ้น ภายใต้การบูรณาการข้ามกระทรวง การมองปัญหาทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ก็คาดหวังว่าจะดีขึ้น เพราะเราทำเต็มที่ภายใต้เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ วิธีการ และการประเมินการปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้, การแก้ปัญหาคนขอทาน ซึ่งปีหน้าจะเน้นแก้ที่ต้นเหตุคือ ไปเจรจาประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อประสานช่องทางสกัดตั้งแต่ต้นทาง หรือไปหมู่บ้านทางอีสานใต้ที่มีความเชื่อว่ามาขอทานคือความกตัญญู ให้เขาเปลี่ยนทัศนคติเหล่านี้ โดยได้ประสานนักวิชาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย มาช่วยกัน

 

 

งานพัฒนาสังคมแตกต่างจากงานตำรวจ

นโยบายที่ พล.ต.อ.อดุลย์ปรับเปลี่ยนมาครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปีครอบคลุมทั้งงานเบื้องหน้า แม้จะมีภารกิจหนักและแตะทุกด้านที่เกี่ยวกับสังคม แต่บิ๊กอู๋ยอมรับว่า “สบายใจกว่าตอนเป็นตำรวจเยอะ”

“องค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก คน 2.1 แสนคน ภารกิจเยอะมาก เกี่ยวข้องอาชญากรรม ความมั่นคง แตะงานทุกด้าน มีความกดดันสูงมาก ขณะที่ช่วงที่ผมเป็น ผบ.ตร.ต้องรับบทหนักสุด แต่กระทรวง พม.ที่เป็นกระทรวงทางสังคม ซึ่งก็แตะหลายงานเหมือนกัน แต่ความกดดันจะน้อยกว่าตำรวจ ทำงานที่เป็นคุณมาก ได้ช่วยเหลือคนยากจน เป็นงานเชิงบวก ถ้าถามถึงความสบายใจ ที่นี่สบายใจกว่าตำรวจเยอะ เพราะงานตำรวจหนักมาก หนักจริงๆ”

 

32589a9e2
พล.ต.อ.อดุลย์ สมัยเป็นผบ.ตร.
11249318_1243143499044780_1371127335611293499_o
พล.ต.อ.อดุลย์สมัยเป็นรมว.พม.

12375280_1243143715711425_7391284095494982917_o

ชาวดินแดงมอบดอกไม้ต้อนรับ
ชาวแฟลตดินแดงมอบดอกไม้ต้อนรับพล.ต.อ.อดุลย์ลงพื้นที่แฟลตดินแดงครั้งที่ 4
ปราศรัยชี้แจงชาวแฟลตดินแดง
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวแสดงความยินดีชาวแฟลตดินแดงกำลังได้เข้าอยู่คอนโดดินแดง ที่กำลังดำเนินก่อสร้าง
กีฬาวันพุธ (2)
พล.ต.อ.อดุลย์ นำชาวพม.เล่นกีฬา และออกกำลังกายช่วงเย็นวันพุธ

 

เคล็ดลับการทำงานและชีวิตวันว่าง

แต่งานที่ยากก็จัดการได้ เพราะ พล.ต.อ.อดุลย์มีเคล็ดลับการทำงาน โดย พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ตนเตรียมตัวทุกเรื่อง ก่อนนอนจะเตรียมภารกิจที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้หรือหมายงานสัปดาห์หน้า ด้วยการจดบันทึกลงสมุดด้วยตนเอง ว่าต้องทำอะไร เวลาใด ซึ่งการทำอย่างนี้จะทำให้ไม่สับสน เช้ามาจะรู้ว่าต้องทำอะไร เวลาใด ถือเป็นการทำการบ้านทุกเรื่อง

“เวลาทำอะไร หรือประชุมเรื่องอะไร จะต้องจดบันทึก พร้อมจัดระบบเสื้อผ้าให้สอดรับกับภารกิจทุกวัน ยกตัวอย่างวันอังคารวันหนึ่ง ที่เวลา 07.00 น. ประชุมเรื่องโครงการฟื้นฟูชุมชนเมืองดินแดง เวลา 08.00 น. ประชุมวอร์รูม เวลา 09.00 น. ประชุม ครม. เป็นต้น แล้วก็ลงลึกอีกว่าภารกิจเรื่องแฟลตดินแดงมีอะไรต้องพูด ประชุมวอร์รูมมีอะไรต้องกำชับ ก็เขียนๆ สิ่งที่ต้องทำ รายละเอียด และเสื้อผ้าที่ต้องใส่ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ผมชอบทำงานเป็นทีม เป็นทีมเวิร์กที่ทำงานสนุก” พล.ต.อ.อดุลย์เล่าพลางเปิดสมุดบันทึกโชว์

“ส่วนถ้านอกเวลางานก็เป็นคนธรรมดามาก ชอบอะไรที่เป็นธรรมดา อย่างเวลาหลังเลิกงานและวันเสาร์-อาทิตย์ จะชอบไปเดินจ๊อกกิ้งและรับประทานของอร่อยที่สวนลุมพินี อยู่กับสังคมปกติ ทานอาหารที่เข็นมาขายซึ่งรสชาติอร่อยมาก ไปเจอผมก็ทักได้ ผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ทั้งนี้ ที่ชอบออกกำลังกาย เพราะมองว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องออกกำลังกาย ต้องเคลื่อนไหว ทั้งร่างกายและสมอง ต้องคิดต้องฝึก จากนั้นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และต้องมีอารมณ์ขัน อย่างผมเวลาทำงานมีมุขตลอด”

 

บทบาทหัวหน้าครอบครัว

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า จริงๆ ทำงานเกือบทุกวัน แต่ถ้ามีวันว่างๆ จะพาครอบครัว (ภรรยา-อรัญญา และลูกชาย-สิทธิกร แสงสิงแก้ว) ไปรับประทานอาหาร หรือไปตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ บ้างนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่กับครอบครัว นั่งทานข้าว นั่งคุยกันอารมณ์ขัน ทั้งนี้ ตนยึดหลักเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเป็นคนที่มีวินัยดี ยืดหยุ่น ยิ้มแย้ม ยกย่อง และให้เกียรติกัน หากมีปัญหาอะไร ให้นึกถึงอดีตที่ผ่านมา 30 ปี

ในส่วนของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แม้ไม่อยากเป็นตำรวจ เพราะเลือกจะเดินตามความฝันของตนเอง ซึ่งก็ทำสำเร็จปัจจุบันเป็นนักบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บินเครื่อง Boeing 777-300 ไม่ได้เป็นตำรวจ ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ยอมรับว่า เดิมเคยอยากให้เขามาเป็นทหาร ตำรวจ แต่เขาไม่ชอบก็ไม่บังคับ เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย อยากเป็นนักบิน ก็ให้เป็นนักบิน พยายามแนะนำให้เขาเดิน ไม่บังคับให้เขามาเป็นทหาร ตำรวจเหมือนเรา เพราะบังคับแล้วไม่สำเร็จหรอก บังคับแล้วเขาไม่ชอบนี่ลำบาก จำไว้เลย หากมีลูกอย่าไปบังคับ มันคนละสมัยแล้ว

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ถือเป็นรัฐมนตรีกระทรวง พม.ที่ยาวนานที่สุด จากรัฐมนตรีทั้งหมด 14 คน

 

11754667_1149691475056650_3886317711160304845_o
อรัญญา-พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว (แฟ้มภาพ)

 

12310706_1235480623144401_5028125996611327133_n
อรัญญา-พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว (แฟ้มภาพ)
เปิดสมุดบันทึกส่วนตัว
เปิดสมุดบันทึกส่วนตัว เขียนด้วยลายมือตัวใหญ่อ่านง่าย บันทึกสิ่งที่ต้องทำของวันพรุ่งนี้ ชุดที่ต้องใส่ สิ่งที่ต้องพูด ทำอย่างนี้ก่อนนอนทุกวัน และมีปากกาเมจิกไฮไลท์งานที่สำคัญ

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image