‘อ.บุศรินทร์ ปัทมาคม’ เปิดคอร์ส ‘ผูกดวง’ เป็นโหรได้ใน 8 สัปดาห์
การ “ดูดวง” เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาตลอดนับแต่อดีตกาล ซึ่งปัจจุบันมีการดูดวงหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในการดูดวงที่เชื่อว่า “แม่นยำที่สุด” คือ การดูดวงจากวัน เดือน ปีเกิด และเวลาเกิด หรือที่เรียกว่า “การผูกดวง”
นับเป็นโอกาสที่ดี หากใครอยากมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับศาสตร์ดูดวงลักษณะนี้ “อาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม” แห่งโรงเรียนโหราศาสตร์ไทย เปิดสอนดูดวงรุ่นที่ 33 โดยเริ่มเรียนตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป รวม 8 สัปดาห์
อาจารย์บุศรินทร์ เผยว่า ในคอร์สจะสอนการทำดวง ภาษาชาวบ้านเรียกว่า การผูกดวง โดยเรียนจากตำราปฏิทินดาราศาสตร์ และตำราอ่านดวงที่ตัวอาจารย์บุศรินทร์เขียนขึ้นเอง ผู้เรียนจะสามารถอ่านดวง จนถึงดวงจร รวมถึงการทำนายอนาคตเองได้ ซึ่งการทำนายมี 2 ระดับ คือ ระดับการอ่านดวงเดิม กับการทำนายอนาคต ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 วัน เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00-16.00 น. ค่าเรียน 9,500 บาท
“การผูกดวง เป็นการดูดวงที่พอเห็นดวงปั๊บ เราอ่านทะลุหมดเลย โดยดูจาก วัน เดือน ปีเกิด เวลาเกิด ทำให้เรารู้ระดับวาสนา รู้จุดอ่อน จุดแข็งในตัวเราทุกคน ซึ่งโหราศาสตร์ไทยเก่งมาก ต้นตำรับวิชาการมาจากประเทศอิรัก ผ่านอินเดีย เข้าศรีลังกา เข้าอินเดียตอนใต้ และผ่านมอญทางผม่าตอนใต้ เข้าไทย และพัฒนาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเรื่อยมา ในคอร์สเรายังสอนผูกดวงนวางค์จักร ซึ่งอ่านได้ลึกลงไปกว่าราศีจักร สามารถดูดวงชะตาได้ลึกลงไปเหมือนเครื่องเอ็กซเรย์ ซึ่งในวงการโหราศาสตร์ไทย ไม่มีใครเขียนหนังสือเรื่องนี้ และไม่มีใครสอนได้”
โหร หรือหมอดู แตกต่างกันอย่างไร อ.บุศรินทร์กล่าวว่า โหรคือ หมอดูที่ใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ในการทำนาย และตอบคำถามในด้านต่างๆ ให้แก่ลูกค้าได้ ขณะที่หมอดู คือ ผู้ทำนายโดยใช้หลักวิชาอื่นๆ ทำนาย ไม่ใช่วิชาโหราศาสตร์ เช่น เลข 7 ตัว, กราฟชีวิต, ลายมือ หรือหัตถศาสตร์, โหงวเฮ้ง หรือนรลักษณ์, การเพ่งกสิณ, ไพ่ป๊อก, ไพ่ทาโร่ ฯลฯ หรือวิชาการอื่นๆ
“โหราศาสตร์เป็นสถิติที่ชะตาชีวิต ที่ผูกดวงโดยใช้วันเดือนปีเกิดและเวลาทำนายดวงชะตา และจดจำสถิติเหตุการณ์ที่ดวงดาวโคจรมาสัมพันธ์ถึงดวงชะตา ทำให้อ่านเหตุการณ์เกี่ยวกับดวงเดิมและการทำนายอนาคต ดังนั้น งานของโหร มี 3 ส่วนดังนี้ 1.ทำดวงชะตา หรือผูกดวงชะตาขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักในการอ่านดวงชะตา 2.สามารถเข้าใจและอ่านดวงเดิมได้ถูกต้อง 3.สามารถทำนายอนาคต”
อ.บุศรินทร์ย้ำว่า วิชาโหราศาสตร์ของโรงเรียนอาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม จะต้องทำละเอียดถึงระดับนวางค์จักร์ คือ จะอ่านได้ละเอียดลึกซึ้งกว่าดวงเชิงเดี่ยว ที่เรียกว่า ดวงราศีจักร์ หรือดวงอีแปะ
ทั้งนี้ อาจารย์บุศรินทร์ เผยอีกว่า ทุกวันนี้คนนิยมดูดวงกันมาก ซึ่งเกิดจากที่แต่ละคนมีปัญหา ตอนมีปัญหาก็ทุกข์อยากหาที่พึ่งทางใจ อยากได้คนแนะนำ โหรก็คือผู้ที่จะให้ความคิด ให้คำแนะนำ ให้รู้ดวงชะตา การรู้ดวงชะตาเป็นประโยชน์มาก ประเสริฐที่สุด ช่วยทำให้เค้าเรียนได้ถูกต้อง ทำอาชีพได้ถูกต้อง จะรับราชการดี หรือเอกชนดี หรือขยันน้อยมั้ย เค้าต้องรู้จักปรับตัว รู้จักแก้ดวง การดูดวงของเราเป็นไปตามหลักวิชาการ เป็นหลักสถิติ มีหนังสือเขียนเป็นเล่มๆ มีตัวอย่างดวงชะตา เรียกได้ว่า ไม่เดาเลย ออกมาเป๊ะเลย คนมาเรียน จะเรียนเพื่อตัวเอง หรือเรียนทำอาชีพก็ได้
“เรียนโหราศาสตร์เหมือนรู้กราฟชีวิต เรียนเพื่อตัวเอง เพื่อสอนตัวเอง และรู้จุดอ่อนจุดแข็งเพื่อจะได้ปรับตัวให้เจริญก้าวหน้าต่อไป รู้จังหวะชีวิต และพร้อมที่จะเผชิญปัญหา ถ้าเรียนไปทำอาชีพ ตอนนี้ธุรกิจมูเตลูมีมูลค่าเป็นพันล้าน มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณไปในทิศทางไหน อาชีพหมอดูก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้ได้ดีอาชีพหนึ่ง ใครสนใจก็สามารถสมัครมาเรียนได้ จะได้ทั้งวิชาความรู้ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้เพื่อนฝูงมากขึ้น และถ้ายังไม่มีแฟนก็จะใช้วิชานี้เลือกแฟนให้กับเราได้ และเข้ากับเจ้านายได้ เป็นอีกวิชาที่สามารถทำประโยชน์ให้กับเราได้” อาจารย์บุศรินทร์ทิ้งท้าย
สามารถเป็นโหรได้ภายใน 8 สัปดาห์ กับโรงเรียนโหราศาสตร์ไทย สนใจติดต่อได้ที่ 081-659-5665 หรือที่เพจเฟซบุ๊ก “อาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม“
