| ที่มา | นิตยสาร WHO? ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2016 |
|---|
เป็นผู้หญิงเก่งมีความสามารถทั้งในบทบาทพิธีกร นักแสดง และเจ้าของบริษัท งานเบื้องหน้าทุกคนคงเห็นกันมามากแล้ว แต่ครั้งนี้เธอจะมาพูดถึงงานเบื้องหลัง(บ้าน) ของ ม.ล.สราลี กิติยากร พระขนิษฐาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่จะมาพูดถึงชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะลูกฝาแฝดทั้ง 2 คือ ปก-สุทธิกิตติ์ จิราธิวัฒน์ และ ป้อง-สิทธิ์กิตติ์ จิราธิวัฒน์ ซึ่งให้สัมภาษณ์พิเศษกับนิตยสาร W้hO? ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยมติชนยกเนื้อหาน่าสนใจบางส่วนมาให้ติดตาม
บทสัมภาษณ์เริ่มต้นทำความรู้จัก 2 หนุ่มก่อน ซึ่งทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนจิตรลดา สายศิลป์ภาษาญี่ปุ่น ซึ่งที่เลือกเรียนสายนี้เพราะทั้งคู่ชอบประเทศญี่ปุ่น ทั้งจากวัฒนธรรม อาหาร ความเป็นอยู่ เนื่องจากเคยไปเที่ยวมาแล้ว 3 ครั้ง และครูที่สอนวิชาภาษาญี่ปุ่นยังสวย น่ารัก ทำให้เป็นแรงผลักดันและกำลังใจในการเรียนได้ดี ขณะที่ปีหน้าทั้งคู่ต้องเตรียมสอบแอดมิชชั่นส์เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แฝดคนพี่อยากเรียนคณะรัฐศาสตร์การฑูต ธรรมศาสตร์ หรือจุฬาฯ ก็ได้ ส่วนแฝดน้องอยากเรียนคณะนิทเศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะอยากกำกับภาพยนตร์หรือละคร และช่วยงานด้านประชาสัมพันธ์คุณแม่และคุณพ่อ(ธีระเดช จิราธิวัฒน์)ได้อีกด้วย
สองพี่น้องยังเล่าถึงกิจกรรมที่ชอบทำร่วมกันคือ ‘ปั่นจักรยาน’
ป้อง-สิทธิ์กิตติ์ เล่าว่า บางทีก็ปั่นไปแถวบ้านเพื่อนแถวเกียกกายแล้วค่อยปั่นกลับบ้าน(เทเวศร์) เพราะช่วงกลางคืนถนนโล่ง รถไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ด้วยความชอบปั่นจักรยาน ทำให้วันเกิดของทั้งคู่เมื่อปีก่อนได้รับของขวัญประทานจากเสด็จป้า (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ) เป็นจักรยานคนละคัน
ส่วนความรู้สึกลูกทั้ง 2 ที่มีต่อคุณแม่ ทั้งคู่เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า “รักคุณแม่และสนิทกับคุณแม่มากที่สุด เพราะสามารถพูดคุยหรือปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว หรือเรื่องสาวๆ ก็เคยปรึกษาคุณแม่มาหมดแล้ว” ก่อนเล่าถึงสไตล์การเลี้ยงดูว่า “คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้ประหยัด ไม่ให้ใช้ของอย่างฟุ่มเฟือย รวมถึงมีเหตุและผลในการซื้อมากกว่า”
ป้อง-สิทธิ์กิตติ์ เล่าให้เห็นภาพว่า “คุณพ่อกับคุณแม่จะตามใจกันคนละอย่าง ถ้าเป็นเรื่องเรียน คุณพ่อจะยอมตามใจมากกว่า ขอแค่ให้ลูกได้เรียนสูงๆ ถ้าเป็นคุณแม่ต้องทำงานแลกเงิน ออกไปถ่ายรายการกับคุณแม่ เป็นพิธีกร หรือช่วยงานเบื้องหลังถึงจะได้เงิน คุณแม่บอกว่าจะได้รู้ค่าของเงินว่าไม่ใช่จะหามาได้ง่ายๆ”
ถัดมาที่ ม.ล.สราลี ช่วงนี้งานรัดตัว ไหนจะผลิตรายการประจำ ได้แก่ เที่ยวละไม ไทยแลนด์เวิลด์, มอร์นิ่งทิป ทางช่อง 3 รายการคนไทยหัวใจไม่ท้อ ทางช่อง 5 ตอนนี้ยังประเดิมเป็นผู้จัดละครด้วย เรื่อง ‘รักเร่’ ทางช่อง 7 ซึ่งถือเป็นความใฝ่ฝันส่วนตัว “หากมีโอกาสอยากจะเป็นผู้จัดสักครั้ง” ส่วนละครเรื่องต่อไปจะมีหรือไม่ ม.ล.สราลีบอกว่า “ดูๆ ไว้ เพราะมีหลายเรื่องเหมือนกันที่อยากจะหยิบมาทำ อยู่ในช่วงตัดสินใจที่จะเสนอช่อง หากผู้ใหญ่เห็นสมควร”
“ช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะอยู่นอกบ้าน เวลาพักผ่อนมีน้อย อีกทั้งต้องหาเวลาอยู่กับลูกๆ ด้วย คาดว่าหมดจากละครอาจจะหาเวลาไปพักผ่อน หรือให้เวลากับลูกมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ก็อยากให้เข้าเรียนที่ดีๆ”
ในประเด็นนี้ ม.ล.สราลียังย้ำกับลูกๆ เสมอว่า “ให้ทำสิ่งที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ ทำให้จริงจัง และทำให้สุดความสามารถ หากตั้งใจทำตรงนี้แล้ว และมันไม่ไปถึงสิ่งที่เราตั้งใจไว้ ถึงเราจะเสียใจ แต่ไม่เท่ากับการที่เราทำไม่เต็มที่ หรือทำเหยาะแหยะ ถึงเวลาก็ไปสู้คนอื่นเขาไม่ได้ๆ ทั้งที่สิ่งนั้นมันอาจไม่ได้ยากเกินความสามารถของตัวเรา แต่เราไม่มีความพร้อมเอง นั้นแหละจะรู้สึกเจ็บใจและเสียใจมากกว่า”
ขณะที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ถือเป็นการตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ครั้งแรกในชีวิต
สำหรับความความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกยังแนบแน่นเสมอ สนิทกันมากคุยได้ทุกเรื่อง เพราะนอนด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต นอนจับมือบ้าง นอนกอดกันบ้าง แม้จะแยกย้ายห้องนอนตอนลูกอายุ 14 ปี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสามคนหัวใจห่างกัน เพราะเติมรักให้กันอยู่ตลอด
“ผึ้งจะบอกลูกๆ เสมอเวลาที่คุณแม่จะหอมลูกหรือลูกจะหอมคุณแม่ ไม่ต้องอายใคร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือท่านยาย เสด็จป้า และคุณย่า จะเข้ามาหอมก็ไม่ต้องอาย เพราะนั่นคือความรักของแฟมิลี่เรา”
ปัจจุบันบ้านเทเวศร์ไม่ได้มีเพียง 3 คนแม่ลูก ยังมี หนุ่ย-ยุทธนา จินดากุล ซึ่งนอกจากเป็นคนรู้ใจ ยังเป็นผู้ช่วยงาน ม.ล.สราลีในการถ่ายทำละครรักเร่ให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งหลังจากนี้ทั้งคู่เตรียมบินไปพักผ่อนชาร์จพลังที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนกลับมาลุยงานต่อ ส่วนลูกๆ ช่วงนี้อยากให้เวลาเตรียมตัวกับการสอบ ค่อยไปหาเวลาไปเที่ยววันหลัง
และนี่คือเนื้อหาส่วนหนึ่ง เป็นความสุขเล็กๆ ของ 4 ชีวิตแห่งบ้านเทเวศร์
ขอบคุณเรื่องและภาพ จากนิตยสาร WhO?
