ไดเมนชั่น ดาต้า เผยคาดการณ์ด้านไอทีปี 2560 ดิจิทัลยังคงเป็นแนวโน้มหลักในอุตสาหกรรมไอทีไปอีก 12 เดือน

ไดเมนชั่น ดาต้า บริษัทผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลก เผยผลการคาดการณ์สุดยอดด้านไอที ประจำปี 2560 และดิจิทัลจะยังคงเป็นแนวโน้มหลักสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไปอีก 12 เดือน

นายเอเตียนน์ เรย์เนกเก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี กล่าวว่า ดิจิทัลเป็นเรื่องของการสร้างโมเดลทางธุรกิจของแบบยึดลูกค้าเป็นหลัก โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ ประกอบด้วย ระบบเครือข่าย ศูนย์ข้อมูล แอพพลิเคชั่น และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดอาจเป็นระบบที่มีอยู่แล้วในองค์กร หรืออาจเป็นการใช้งานผ่านคลาวด์

นายเอเตียนน์

“ทุกวันนี้ ไม่มีกลยุทธ์ดิจิทัลแต่จะเป็นแค่เพียงกลยุทธ์ที่อยู่ในโลกดิจิทัล และในขณะที่ยุคดิจิทัลได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับบางองค์กร แต่ดิจิทัลก็ยังเปิดโอกาสสู่ความเป็นไปได้ที่น่าตื่นเต้น และนำไปสู่ยุคของการพัฒนาศักยภาพที่ไม่มีวันสิ้นสุดอีกด้วย”

Advertisement

นายเรย์เนกเก กล่าวว่า การเป็นเจ้าของหรือการเข้าถึงข้อมูล และข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอย่างมีแบบแผนในรูปแบบต่าง ๆ หรือ เมตาดาต้า (metadata)นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง “ในอนาคตข้างหน้า การควบคุมและเป็นเจ้าของข้อมูล และข้อมูลระดับเมตาดาต้า จะกลายเป็นประเด็นที่ต้องมีการอภิปรายและโต้แย้งกันอย่างจริงจัง”

นั่นเป็นเพราะข้อมูลทั่วไปและข้อมูลระดับเมตาดาต้าเป็นเหมือน “ผงทอง” (‘gold dust’) หมายถึงของล้ำค่า ซึ่งทำให้องค์กรสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าได้ละเอียดลึกซึ้ง นอกจากนี้ ข้อมูลระดับเมตาดาต้ายังทำให้องค์กรสามารถระบุรูปแบบพฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจง ก่อให้เกิดกระบวนการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจจากการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ และนำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจบนองค์ความรู้ที่มีได้อย่างถูกต้อง” นาย เรย์เนกเก อธิบาย

ด้วยเหตุนี้ หลาย ๆ องค์กรจึงได้หันมาเริ่มปกป้องข้อมูลระดับเมตาดาต้ามากขึ้น และระมัดระวังว่ามีใครบ้างทีเข้าถึงข้อมูลนี้ “องค์กรไม่ได้แค่ต้องการเป็นเจ้าของหรือควบคุมข้อมูลด้วยเหตุผลอย่างที่เคยทำกันมา แต่ต้องการให้เกิดการนำข้อมูลไปใช้ในการคิดวิเคราะห์ได้ เราคาดหวังว่า สิ่งนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการปรึกษาหารือที่น่าสนใจระหว่างธุรกิจกับผู้ให้บริการคลาวด์ ตัวอย่างเช่น ตรงไหนคือเส้นแบ่งที่เราต้องให้ความเคารพกับผู้เป็นเจ้าของข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลระดับเมตาดาต้า เราเล็งเห็นว่า ประเด็นที่กล่าวถึงนี้ อย่างน้อยน่าจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจแบบ ‘ผลักและดึง’ จากหลายฝ่าย”

Advertisement

แนวโน้มด้านไอทีอื่น ๆ ในปี 2560 ที่ไดเมนชั่น ดาต้า ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ ได้แก่
– ระบบอัจฉริยะ (Intelligence) จะผลักดันให้เกิดการคาดการณ์ของระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
อาชญากรรมทางไซเบอร์คกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา บรรดาอาชญากรทางไซเบอร์ได้ลงทุนซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ว่าจะเป็นเงินหรือเครื่องมือที่ผิดกฎหมายอย่างมากเพื่อพัฒนาให้มีความชำนาญการมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าเดิม ในทางกลับกัน นวัตกรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมของระบบความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์โดยมากยังเป็นความพยายามในรูปแบบของการตั้งรับ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์จะต้องนำไปสู่การคาดการณ์ล่วงหน้าได้มากขึ้นกว่าการเป็นแค่การทำงานเชิงรุกเท่านั้น

– บรรดาเครื่องมือทั้งหลายต่างฝังตัว (embeded)เพื่อรองรับพื้นที่การทำงานสำหรับอนาคต(Workspace for tomorrow)
ยุคใหม่กำลังเริ่มต้นให้เห็นแล้วในสถานที่ทำงานต่าง ๆ ซึ่งไม่ต้องกินเวลานานถึงพันปี หรือต้องรอให้ถึงยุคเจเนอเรชั่น ซี (Gen Z) ซึ่งคือยุคที่อยู่กับการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ และไม่ต้องรอนานพอ ๆ กับยุคก่อนจะมีตัวหนังสือเกิดขึ้น การผสมผสานความเป็นจริงเสมือนเข้ากับโลกของความจริง (Augmented Reality) หรือ การสร้างโลกความเป็นเสมือนจริง (Virtual Reality) เริ่มส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายจากการค้าระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภคไปสู่การค้าระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ โดยในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า เทคโนโลยีเหล่านี้จะมีส่วนขับเคลื่อนให้เกิดรากฐานการปรับเปลี่ยนรูปแบบพื้นที่การทำงานอีกด้วย

– การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับทุกสิ่งหรือ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) คือ สัญญาการส่งผ่านข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กดาต้า
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับทุกสิ่ง หรือ ไอโอที (IoT) คือ สัญญาการส่งผ่านข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า ที่มากกว่านั้น คือ โครงการที่เกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่จะผ่านการปรับเปลี่ยนให้หลากหลายและทันสมัยในแต่ละปี และไอโอทีคือเหตุผลสำคัญ นั่นเพราะไอโอทีจะทำการวิเคราะห์รูปแบบพิเศษเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงให้เกิดขึ้นได้จริง ทั้งยังเพิ่มผลการทำงานในแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นสิ่งขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนที่เป็นประโยชน์มากขึ้น และให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วสำหรับการดำเนินโครงการด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่

– เทคโนโลยีการจัดเก็บ หรือ คอนเทนเนอร์จะเป็นความยุ่งยากใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล และเป็นตัวช่วยกระตุ้นที่สำคัญสำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบไฮบริด (Hybrid IT)
ในปี 2560 เราจะเห็นการขยายตัวของการใช้งานคอนเทนเนอร์ แต่การปรับเปลี่ยนเพื่อให้โลกของคอนเทนเนอร์มีความสมบูรณ์แบบคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปี นอกจากนี้ เราจะเห็นการใช้งานสถาปัตยกรรมเครือข่ายเสมือนจริง หรือ เอ็นเอฟวี ที่มากขึ้นกับเครือข่ายคลาวด์ที่ใช้งานในปัจจุบัน และเครือข่ายใหม่ ๆ ที่ถูกออกแบบให้รับกับระบบคลาวด์แบบไฮบริด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image