| ที่มา | คอลัมน์ ไซเบอร์ทีน มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| ผู้เขียน | โดย พี่ศรีหนุ่ย |
| เผยแพร่ |
จริงๆ ข่าวเรื่องการแฮกเฟซบุ๊กแล้วหลอกไปยืมเงินคนอื่น มีเป็นข่าวเป็นคราวออกมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว บางคนก็ต้องสูญเงินเป็นพัน บางคนสูญเป็นแสน
แต่ที่มาเล่าสู่กันฟัง เพราะคราวนี้เกิดกับคนใกล้ตัวของคุณพี่เอง ก็เลยอยากจะบอกกับน้องๆ ที่ยังมองเรื่องของรหัสผ่านบนเฟซบุ๊กว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไร และไม่ได้คิดว่าเฟซบุ๊กของตัวเองมีอะไร คงไม่มีใครอยากจะเข้ามาแฮก
เรื่องเกิดขึ้นกับญาติใกล้ตัวคนหนึ่ง ที่จู่ๆ ก็เข้าเฟซบุ๊กของตัวเองไม่ได้ แล้วก็มีข้อความจากเฟซบุ๊กของคนคนนี้ส่งไปยังเพื่อนทุกคนในเฟซบุ๊ก ข้อความประมาณว่า “ได้ใช้แอพพ์โอนเงินผ่านมือถือป่าว”
ใครที่ไม่ทันคิด ก็อาจจะถามไปว่า เอาไปทำไร ทางตัวปลอมบนเฟซก็จะบอกว่า “เอาไปซื้อของ ช่วยโอนเงินให้ก่อน เดี๋ยวจะคืนให้ในอีกไม่กี่ชั่วโมง”
หรือถ้าบอกว่า ไม่ได้ใช้แอพพ์โอนเงิน มันก็จะบอกให้เราไปที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อโอนเงินให้
แต่พวกพี่โชคดี ที่พี่น้องรีบเตือนกันว่าอย่าโอนให้ เพราะเฟซของเจ้าของที่แท้จริงถูกแฮกไปแล้ว
คราวนี้ก็เรื่องใหญ่ เพราะต้องรีบแจ้งเตือนไปยังคนที่รู้จักว่า อย่าได้โอนเงินให้กับคนในเฟซ เพราะไม่ใช่ตัวจริง
ขณะที่ตัวคุณพี่เองก็พยายามหาทางช่วย ด้วยการค้นหาข้อมูลดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
ที่สุดแล้ว ก็ได้ความว่า จะต้องเข้าไปในหน้าเฟซของผู้ที่ถูกแฮก แล้วกด “รีพอร์ต” (Report) ไปยังเฟซบุ๊ก เพื่อแจ้งว่าเกิดความผิดปกติกับเฟซบุ๊กของคนคนนี้
ก็กระหน่ำกดกันไป ในที่สุดบัญชีเฟซบุ๊กที่ตกเป็นเหยื่อก็ถูกปิดลง
และมีคนตกเป็นเหยื่อโอนเงินให้กับผู้ไม่ประสงค์ดีเป็นเงินหมื่นกว่าบาท
อะไรคือประเด็นสำคัญของเรื่องนี้???
อย่างที่เคยบอกกันอยู่หลายครั้งว่า เรื่องของรหัสผ่านเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตในโลกปัจจุบัน ที่ทุกอย่างไปอยู่บนออนไลน์กันหมด การตั้งรหัสผ่าน ไม่ควรจะเป็นรหัสที่คนอื่นสามารถคาดเดาได้ เมื่อเข้าไปได้ ก็จะสามารถทำอะไรได้เหมือนกับเจ้าของบัญชี
อีกเรื่องที่สำคัญคือ “อย่าคิดว่าเฟซบุ๊กของตัวเองไม่ได้มีค่าอะไร ที่คนอื่นจะต้องเข้ามาแฮก” เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แน่นอนว่าคุณต้องมี “เพื่อน” อยู่บนเฟซบุ๊ก แค่คิดว่าเพื่อนเห็นข้อความยืมเงินจากเรา บางคนก็อาจจะรีบโอนให้เลย หรือบางคนก็อาจจะโทรไปถามก่อน หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการย้ำให้เห็นว่าใครก็สามารถถูกแฮกเฟซบุ๊กเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงเอาเงินจากผู้อื่นได้
ที่สำคัญที่สุดคือ “การตามเอาเงินกลับมา” ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่าเราจะรู้ชื่อของเจ้าของบัญชีธนาคารที่เหยื่อโอนเงินไปให้ แต่จริงๆ แล้ว เจ้าของบัญชีส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนร้ายเลย
และหลังจากเกิดเรื่องขึ้นแล้วควรจะรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะมีคนสูญเงินไปแล้วหรือไม่ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเจ้าของเฟซบุ๊กถูกแฮกจริง และหากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้น จะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการให้
พอเรื่องนี้เกิดขึ้น คุณพี่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ว่า จริงๆ แล้วพวกเราควรจะลุกขึ้นมารณรงค์ ติดแฮชแท็กคำว่า #ไม่ยืมเงินเพื่อนผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่าจะไม่มีการยืมเงินกันผ่านทางข้อความบนเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีหรือมิจฉาชีพทั้งหลายนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงเอาเงินจากคนอื่น
ประกาศไว้ ณ ที่นี้เลยว่า “ไม่ยืมเงินเพื่อนผ่านเฟซบุ๊ก” นะจ๊ะ ช่วยๆ กันประกาศและติดแฮชแท็ก เพื่อที่จะได้ไม่มีใครต้องตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงแบบนี้อีก
หน้า 18
