เปิดใจ ‘แอนโทเนีย’ น้ำตาคลอ ภูมิใจรอง 1 มิสยูนิเวิร์ส ยิ่งใหญ่ รับยังมูฟออนไม่ได้ พร้อมดันซอฟต์เพาเวอร์

เปิดใจ ‘แอนโทเนีย’ น้ำตาคลอ ภูมิใจรอง 1 มิสยูนิเวิร์ส ยิ่งใหญ่ รับยังมูฟออนไม่ได้ พร้อมนำความเป็นไทยผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ อยากกินกะเพราไข่ดาว ขนมจีนน้ำยาไก่ที่สุด สนใจเข้าวงการบันเทิง

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน ภายหลังจากคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์ มาฝากคนไทย “แอน แอนโทเนีย โพซิ้ว” รองชนะเลิศอันดับที่ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ได้เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยสายการบินตุรกี แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 0068 อิสตันบูล-กรุงเทพฯ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศเม็กซิโก ท่ามกลางความภาคภูมิใจของประชาชนคนไทยที่สามารถคว้าตำแหน่งสูงที่สุดให้แก่ประเทศไทยในรอบ 35 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการต้อนรับแอนโทเนียกลับบ้านที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า เป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาแฟนคลับและสื่อมวลชนเนืองแน่นเต็มบริเวณพื้นที่ชั้น 2,3 และ 4 ประตู 8 ขาเข้าประเทศ ซึ่งเดินทางมารอกันตั้งแต่ 12.00 น. โดยมี น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางศุภลักษณ์ อัมพุช ในนามภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด / เอ็มดิสทริค และรองประธานกรรมการ สยามพารากอน ร่วมกันต้อนรับ นอกจากนี้ ยังมีคนในแวดวงนางงาม อาทิ นลิน ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวาฉัตร รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ณิชา ณิชา พูลโภคะ รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 รวมถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, สุริยน ศรีอรทัยกุล มาให้การต้อนรับด้วย

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อแอนโทเนียปรากฏตัว เสียงเชียร์จากแฟนคลับที่ร่วมกันตะโกนเรียกชื่อ แอนโทเนีย ดังกึกก้องทั่วบริเวณ โดยแอนโทเนียสวมชุด ‘ไทยจักรี’ ที่ออกแบบโดย ‘ภูษา ผ้าลายอย่าง’ แรงบันดาลใจจากชุดไทยจักรี หนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ โดยแอนโทเนียโบกมือทักทายแฟนคลับ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่ามกลางแฟนคลับเนืองแน่นที่โบกสะบัดธงสีแดงที่พิมพ์ตัวอักษร หลานย่าโม GO จักรวาล และธงชาติไทย พร้อมตะโกนเรียกชื่อแอนโทเนีย และไทยแลนด์สลับกันไปมา จากนั้น แอนโทเนียได้ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมสวมกอดคุณแม่ นางธัญรดี หวังสุขกลาง ก่อนจะขึ้นกล่าวความรู้สึกบนเวที

แอนโทเนีย กล่าวว่า ตอนที่อยู่เอลซัลวาดอร์ เวลาคิดถึงแฟนคลับน้ำตาก็ไหลตลอด เพราะทุกคนเป็นแฟนคลับที่ดีมาก ที่แอนรักมากที่สุด แอนพร้อมจะกลับมาบ้านตั้งนานแล้ว ตื่นเต้นมากที่จะได้เจอกับทุกคน และได้ร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลานี้กับทุกคน ซึ่งโมเมนต์นี้เป็นสิ่งที่แอนทำอย่างดีที่สุดไม่ใช่แค่ตัวเองหรือเพื่อประเทศไทย แต่เพื่อจะเป็นตัวอย่างให้กับคนที่มีความฝัน ให้ยืนหยัดทำตามความฝันของตนเอง เราไม่ต้องเปลี่ยนโลกใบนี้ภายในหนึ่งวัน แต่ถ้าเรามั่นใจในตัวเอง พร้อมที่จะทำตามความฝัน ความฝันนั้นจะสำเร็จ และจากนี้เป็นต้นไปทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับแอน

ADVERTISMENT

 

“จริงๆ แอนไม่อยากมายืนตรงนี้คนเดียว แต่แอนมาเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ และเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นตัวแทนประเทศ เพราะเรามีนางงามทุกปี ทุกปีตัวแทนประเทศทำอย่างดีที่สุดเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทย รอยยิ้มของคนไทย การที่แอนยืนอยู่ตรงนี้แอนไม่ได้ดีหรือเก่งไปกว่าใคร แอนเท่ากับทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ ทุกคนที่มายืนอยู่ในใจของแอน วันนี้เป็นแค่วันแรกของอีกหลายๆ วันที่เราจะเดินทางไปด้วยกัน เดินทางร่วมกับแอน แอนอาจจะไม่ได้คว้าตำแหน่งมา แต่แอนเชื่อว่า แอนคว้าหัวใจของคนไทยทุกคน” แอนโทนเนียกล่าว

จากนั้น แอนโทเนีย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ทั้งแฟนคลับนางงาม สื่อมวลชน และทุกคนที่มาต้อนรับแอนกลับมาบ้าน ก็แอปปี้มากๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีแฟนนางงามมาคอยต้อนรับขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่สละเวลาวันอาทิตย์ที่จะมาต้อนรับแอนกลับมาบ้าน ทุกคนมีพื้นที่ในหัวใจของแอนเสมอ เหมือนเป็นครอบครัวของแอนอีกทีหนึ่ง ที่มั่นใจในความสามารถของแอน เห็นความพัฒนาของแอน และเห็นการเดินทางของแอนมาตั้งแต่วันแรก และทุกครั้งที่แอนทำอะไร แอนทำมากกว่าแค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อแฟนคลับทุกคนที่มาติดตามแอนเสมอ ทุกครั้งที่แอนทำอะไรมันมีความหมายสำหรับแอนมากๆ

“หลายคนถามว่า ทำไมแอนชอบใส่ชุดไทยออกงานใหญ่ๆ ทำไมไม่ใช่สูท หรือใส่แบรนด์อะไร สำหรับแอนเมื่อได้ใส่ชุดไทย หรือชุดผ้าไทย หรืออะไรก็ตาม เหมือนมันส่งพลังให้แอน มันมีสตรอรี่ มันมีประวัติศาสตร์ แล้วแอนได้โชว์เคสให้ทุกคนเห็นความสวยความงามของผ้าไทยของชุดไทย มันสร้างอินเนอร์ให้แอนด้วย และการที่เรากลับมาบ้านมาให้พื้นดินของเรา เราก็ต้องใส่อะไรที่รีเลทกับเราได้ แอนจะไม่เปลี่ยน ทุกครั้งที่แอนไปไหน หรือมีงานสำคัญอะไร เหมือนตอนที่แอนได้ไปพบประธานาธิบดี แอนได้ใส่ชุดไทยไปด้วย มันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้วย และเราได้โชว์เคสความเป็นไทยด้วย”

“ความภูมิใจในตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 มันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว จริงๆ ที่แอนได้มาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ก็ยิ่งใหญ่แล้ว เพราะแอนได้ชนะที่บ้าน และได้เอาความเป็นคนไทย วัฒนธรรมของความเป็นโกลเบิลซิติเซนที่แอนเป็นลูกครึ่ง และเป็นโมเดิร์นวูแมน ใช่! แอนได้ชนะรองอันดับ 1 แต่ไม่ได้แปลว่า เราไม่ได้เป็นจักรวาลสำหรับคนอื่น และเราก็ไม่ได้มีแพลตฟอร์มที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ มันมากกว่าแค่มงกุฎ และสายสะพาย มันเป็นแพลตฟอร์มที่เรามี ที่เราเลือกจะส่งพลังและเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น”

“ตอนจับมือ 2 คน หัวใจวื๊บลงมาเลย เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยเวลาที่จับมือมิสนิการากัว เหมือนหูดับ รอให้เขาพูดว่าไทยแลนด์ แต่เขาไม่พูดไทยแลนด์สักที พูดนิการากัว แต่ก็ยินดีกับนิการากัว ตอนที่เค้ามาที่ไทยก็ยินดีต้อนรับ แต่ตอนเราไป เราเต็มที่ทุกอย่าง แต่ไม่ได้ตามที่เราฝันไว้ ตามที่เราคาดหวัง มันก็เสียใจนิดนึง เห็นรีแอคชั่นของทุกคน ทุกคนตื่นเต้น แล้วก็หา! หนูก็เหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังมีอีกหลายอย่างที่ได้ทำด้วยกัน และนางงามจักรวาลไม่ได้จุดสุดท้ายของเรา ถ้าเราไม่ชนะ ก็ให้เป็นบทเรียนรู้ ให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน เหมือนไปหาความฝันอีกอันหนึ่งก็ได้ เราไม่ต้องอยู่ตรงนี้”

“จริงๆ แอนได้ยินคำว่ามูฟออนหลายรอบแล้ว แอนเชื่อว่า ทุกคนมีโมเมนต์ของตัวเองที่พร้อมที่จะมูฟออน เราไม่ต้องไปบังคับคนว่า ยูต้องมูฟออนแล้วมันผ่านมาแล้ว เพราะหลายคนมีแพชชั่นไม่เหมือนกัน มีความหวังไม่เหมือนกัน ขนาดแอนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มูฟออน เพราะแอนยังยอมรับไม่ได้ แต่แอนก็ยินดีกับผู้ชนะอยู่แล้ว แอนก็อยากเป็นมิสยูนิเวิร์สเหมือนกัน ทุกคนก็อยากให้แอนเป็นเหมือนกัน แต่ในเวลาของเรา เดี๋ยวเราก็สร้างความแฮปปี้ให้ตัวเอง เหมือนตอนที่เราอกหัก ตอนที่เรามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต มันเป็นแค่โมเมนต์เดียวที่เราเสียใจ แต่ไม่ได้เป็นชีวิตที่ไม่ดี มันจะมีอีกหลายโมเมนต์ที่จะทำให้เราแฮปปี้ และตื่นขึ้นมาแล้วมีความสุข”

“อยากขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เห็นความสามารถของแอน และเห็นความพัฒนาของแอนทุกวัน แอนพยายามทำให้เต็มที่เพื่อทำให้ทุกคนภูมิใจในตัวแอน อยากขอบคุณทุกคนมากๆ เพราะการที่ทุกคนภูมิใจในแอน ทำให้แอนมีเอนเนอร์จี้ที่ลุกขึ้นมาทุกวัน มาทำเต็มที่ แล้วทำกับใจแอนสุดๆ”

“ต่อไปก็ปฏิบัติภารกิจของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่ยิ่งใหญ่เท่ากับมิสยูนิเวิร์สอยู่แล้ว มีหลายอย่างมีการกุศล และน้ำพริกผัดหมี่อย่าลืมไปกดตระกร้า สเปร์กันแดดของแอนที่ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม มีโอกาสอะไรที่เข้ามา แอนก็ยินดีรับและลองดู”

“สิ่งที่อยากกินที่สุดคือ อาหารไทย โอมายก้อด อาหารที่นู่นไม่ใช่ไม่ดี มันอร่อย แต่แอนชอบความแซ่บ ความเผ็ด แล้วมันขาดไปนิดหนึ่ง อยากกินข้าวผัดกะเพราไข่ดาวมากที่สุด และขนมจีนน้ำยาไก่”

“ในวงการบันเทิง มีความสนใจในวงการร้องเพลง แอนไม่ได้จำกัดตัวเองว่าอยากทำอะไร ถ้ามีโอกาสอะไรก็จะทำเต็มที่ ถ้ามีบทเล่นละคร หรืออะไรก็ตาม ก็ยินดีที่จะลองดู”

“หลายคนอาจจะถามว่า ความสำคัญของนางงามคืออะไร แอนเชื่อว่า ในการแข่งขันที่ผ่านมา
เห็นว่า การเป็นนางงามเรามีอิทธิพลและมีแรงบันดาลใจให้ทุกคนมาอิมแพคในเรื่องของซอฟต์เพาเวอร์ แอนไม่ได้เอาอะไรมาขาย หรือเอาอะไรมาโชว์ว่าต้องซื้อ เพียงแค่ใส่ชุดไทย กินน้ำพริก ยิ้ม ไหว้ อะไรเล็กๆ น้อยๆ มันมีอิมแพคสำหรับคนรอบข้างเรา ถ้าเราสร้างอีโมชั่นให้เค้า สร้างรอยยิ้มให้เค้า มันก็จะอิมแพคไปเรื่อยๆ” แอนโทเนียกล่าว

 

หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขบวนพาเหรดต้อนรับแอนโทเนีย ได้ออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังท้องฟ้าจำลอง ตั้งขบวนรถนำแอนโทเนีย โพซิ้ว นั่งบนรถโรลส์-รอยส์ เปิดประทุน สีน้ำเงินรุ่น Rolls-Royce 1951 Silver Dawn convertible เคลื่อนจากท้องฟ้าจำลอง ไปตามถนนเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ และอุทยานเบญจสิริ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะสำคัญของถนนสุขุมวิท หลังจากนั้นจะเข้าพัก ณ แกรนด์ มาร์คีส์ สูท โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เป็นอันสิ้นสุดขบวน

ด้าน นางธัญรดี หวังสุขกลาง อายุ 54 ปี มารดาของแอนโทเนีย โพซิ้ว เดินทางมารอต้อนรับลูกสาว กล่าวว่า ตื่นเต้น และดีใจมาก ตอนที่ประกวดเสร็จแอนโทเนียลงจากเวทีมาบอกว่า ดีใจมาก ได้ทำเต็มที่แล้วนะ แฮปปี้ วันที่ประกวดตอนที่จับมือ 2 คนลุ้นมงกุฏ รู้สึกตื่นเต้น ลุ้นว่าแอนโทเนียจะทำสำเร็จหรือไม่

“เมื่อประกาศชื่อแล้วไม่ใช่ รู้สึกว่า ลูกทำที่สุดแล้ว เสียใจนิดหนึ่ง ได้บอกลูกสาวก่อนแล้วว่า การแข่งขันมีแพ้มีชนะ บอกลูกให้ทำใจไว้ก่อนแล้ว หลังจากลงเวทีได้มากอดลูก บอกว่า ทำดีที่สุดแล้ว ตอนนั้นร้องไห้นิดหนึ่ง” นางธัญรดีกล่าว

นางธัญรดีกล่าวอีกว่า ดีใจแทนคนไทย ไม่คาดคิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ แอนโทเนีย บอกมาว่า อยากกินขนมจีนน้ำยาไก่โคราช กับน้ำพริกปลาทู ตนก็ได้เตรียมให้ลูกแล้ว เตรียมไว้เป็นหม้อเลย ส่วนบ้านที่โคราช เมื่อคืนมีการประชุมใหญ่เพื่อเตรียมต้อนรับ และเตรียมอาหาร ผัดหมี่โคราช ขนมจีน เอาไว้พร้อม หลังจากนี้ต้องไปแก้บนที่ย่าโม และที่พระพรหมเอราวัณ หลังจากที่เสร็จพิธีที่โคราช แอนโทเนียคงเดินทางไปหาคุณตาคุณยายที่โคราช นอกจากนี้ ในส่วนของรัฐบาลที่จะมีการดึงแอนโทเนียมาร่วมงานผลักดันเรื่องซอฟต์เพาเวอร์นั้น ตนรู้สึกดีใจที่รัฐบาลเห็นความสำคัญ ของซอฟต์เพาเวอร์ ยินดีที่จะช่วยทุกเมื่อ ขอให้รัฐบาลเสนอมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image