ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน หน้า18 |
---|---|
ผู้เขียน | [email protected] |
เผยแพร่ |
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ยังเป็นความจริงที่ใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย แล้วการเข้าร้านตัดผม ร้านเสริมสวยก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้หญิงเรา แล้วขณะที่มีผู้หญิงแอฟริกันจำนวนมากที่ใช้เวลาว่างอยู่ในร้านทำผม หัวหน้าบรรณารักษ์ห้องสมุดของไอวอรี โคสต์ ซึ่งเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกัน จึงปิ๊งไอเดียที่จะช่วยให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเรียนรู้และเพิ่มพูนความรู้จากการอ่านหนังสือ ด้วยการนำห้องสมุดขนาดมินิเข้าไปไว้ในร้านเสริมสวยซะเลย ซึ่งปัจจุบันมีร้านเสริมสวยที่เข้าร่วมในโครงการนี้แล้ว 23 ร้าน
แชนเทล แอดจิมาน หัวหน้าบรรณารักษ์ ผู้ริเริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2555 เล่าว่า ด้วยความที่ตามชุมชนต่างๆ ไม่ค่อยมีห้องสมุดให้ประชาชนได้เข้าไปใช้บริการ ส่วนชุมชนที่มีห้องสมุดประชาชนเปิดให้บริการก็มีชาวบ้านเข้าไปใช้บริการกันน้อยมาก และมีผู้หญิงเข้าไปใช้บริการแทบจะนับคนได้ ประกอบกับ ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็แทบไม่มีเวลาส่วนตัว เพราะไหนจะต้องทำงาน ต้องเลี้ยงลูก ผู้หญิงส่วนมากจึงแทบไม่มีเวลาจะเข้าไปหยิบยืมหนังสือจากห้องสมุด เธอจึงคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการนำหนังสือจากห้องสมุดเข้าไปไว้ในสถานที่ซึ่งผู้หญิงชอบไปกันประจำ นั่นก็คือร้านตัดผม ร้านเสริมสวย
“ผู้หญิงไอวอรีเป็นคนรักสวย รักงาม พวกเธอสามารถใช้เวลานั่งอยู่ในร้านทำผมกว่าชั่วโมงครึ่ง” แชนเทลเล่า
ทั้งนี้ในการจัดสรรหนังสือของห้องสมุดเพื่อนำไปวางตามร้านเสริมสวยที่ร่วมโครงการ ทางห้องสมุดได้คัดสรร จัดเตรียมหนังสือไว้ 1,750 เล่ม มีทั้งหนังสือนิยาย หนังสือสำหรับเด็ก และบทความเกี่ยวกับเรื่องสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก จัดลงกล่องแล้วส่งไปตามร้านเสริมสวยทั้ง 23 แห่ง หญิงสาวรายหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่ม้านั่งหน้าร้านทำผม ท่ามกลางเสียงอึกทึกของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด บอกว่า “ฉันไม่มีเงินซื้อหนังสือ ฉันจึงชอบมาอ่านหนังสือที่นี่บ่อยๆ”
ขณะที่ภายในร้านมีผู้หญิงกำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายขณะอบไอน้ำผม โดยเบเนดิค หญิงเจ้าของร้านเล่าว่า การมีหนังสือจากห้องสมุดมาวางไว้ในร้าน กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้บริการในร้านทำผมของเธอ แล้วหลายครั้ง ยังมีช่างประจำของร้าน มายืมหนังสือออกไปให้ลูกค้าอ่านด้วย
ด้าน จัสทีน หญิงเจ้าของร้านเสริมสวยวัย 66 เล่าว่า เธอรีบตอบรับอย่างไม่ลังเล เมื่อเจ้าหน้าที่ห้องสมุดมาทาบทามให้เข้าร่วมโครงการ “เวลานั่งเป่าผม ผู้หญิงก็ชอบเมาธ์กัน ฉันจึงคิดว่ามันน่าจะดีกว่าที่จะให้พวกเธอได้มาทำอะไรที่เป็นการหาความรู้ ”
จัสทีนเล่าว่า เธอยังตั้ง “มุมหนังสือเด็ก” ไว้ภายในร้าน เพื่อให้เด็กๆ ที่ตามแม่มาที่ร้านทำผม ได้นั่งอ่านหนังสือกันด้วย
ทั้งนี้ แชนเทลเล่าว่าถึงการมีหนังสืออยู่ในร้านเสริมสวยว่า ช่วยให้ทั้งผู้หญิงและเด็กที่อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ เกิดแรงจูงใจที่จะเรียนรู้ หัดอ่าน หัดเขียน ทั้งยังเล่าว่า ตอนนี้เริ่มมีผู้ชายเข้าไปในร้านเสริมสวย เพื่อขอยืมหนังสือไปอ่านด้วย
“คนไอวอรี โคสต์ รักการอ่าน แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงหนังสือ” แชนเทลกล่าวทิ้งท้าย